Alibaba ยื่นไฟลิ่งกับตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงแล้ว คาดซื้อขายหุ้นได้ในไตรมาส 3

Alibaba ได้ยื่นเอกสารแบบลับให้กับตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะซื้อขายหุ้นได้ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้

ภาพจาก Shutterstock

สำนักข่าวต่างประเทศทั้ง Bloomberg และ Reuters ได้รายงานว่า Alibaba ยักษ์ใหญ่ E-commerce ในประเทศจีน ได้ยื่นไฟลิ่งแบบลับเพื่อขอเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่อกงแล้ว โดยแหล่งข่าวของ 2 สื่อใหญ่ ได้คาดว่าจะซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงได้ในช่วงไตรมาส 3

คาดว่า Alibaba จะระดมทุนเพิ่มจากตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงสูงสุดอีกประมาณ 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 623,600 ล้านบาท โดยเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะนำไปใช้สู้ศึก Delivery ระหว่าง Ele.me ซึ่ง Alibaba เป็นผู้ถือหุ้น กับ Meituan Dianping ซึ่งมี Tencent เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่

ถ้าหากมูลค่าการระดมทุนของ Alibaba ผ่านตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเป็นไปตามมูลค่าที่ได้กล่าวมา จะกลายเป็นการระดมทุนใหญ่ที่สุดอันดับที่ 2 ของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง รองจากเมื่อ AIA เคย IPO ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อปี 2010 ซึ่งสามารถระดมทุนไปได้ 20,400 ล้านเหรียญสหรัฐ

ในช่วงที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงได้ร่างกฎเกณฑ์ใหม่เรื่องของการสามารถมีหุ้นได้หลายคลาส เช่น คลาส A สามารถมีสิทธิ์โหวต 1 เสียง และ คลาส B สามารถมีสิทธิ์โหวต 10 เสียง ทำให้ผู้ก่อตั้งสามารถมีสิทธิ์ในการควบคุมทิศทางบริษัทมากขึ้น โดยมีหุ้นที่ใช้กฎนี้ในการ IPO ไปแล้วเช่น Xiaomi ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ รวมไปถึง ​Meituan Dianping บริการส่งอาหารรายใหญ่ของจีน ทำให้ Alibaba ตัดสินใจที่จะซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเป็นตลาดที่ 2

ข้อดีสำคัญอีกเรื่องถ้าหาก Alibaba ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงคือนักลงทุนชาวจีนสามารถซื้อขายหุ้นของ Alibaba ได้ง่ายขึ้นผ่าน Shanghai-Hong Kong Stock Connect ซึ่งปัจจุบันปริมาณการซื้อขายผ่านการเชื่อมต่อของทั้ง 2 ตลาดเพิ่มมากขึ้นโดยตลอด

ในช่วงที่ผ่านมา หุ้นบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นของจีนเองอย่าง Xiaomi หรือแม้แต่หุ้นบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐอย่าง Uber หรือ Lyft ที่ IPO ไปแล้วราคาตกลงนั้นอาจทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลถ้าหาก Alibaba ต้องระดมทุนขนาดใหญ่อีกรอบ ซึ่งอย่างไรก็ดีเม็ดเงินที่จะระดมทุนนั้นยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้

สำหรับการนำบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง Alibaba ใช้วาณิธนกิจคือ CICC จากประเทศจีน และ Credit Suisse เป็นที่ปรึกษาทางการเงินหลัก

ที่มาReuters, Euronews

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
Content Writer ที่สนใจในเรื่องของตลาดทุนทั้งในและต่างประเทศ กลุ่ม TMT (Technology, Media, Telecom) การควบรวมกิจการ (M&A) นโยบายทางเศรษฐกิจของไทยและต่างประเทศ รวมถึงสิ่งละอันพันละน้อยทางธุรกิจที่น่าสนใจ