ปกติแล้วการจ้างงาน Digital Agency หรือ Agency ประเภทอื่นๆ ก็มักถูกคิดค่าบริการเป็นครั้งๆ ไป จะถูกจะแพงก็แล้วแต่ความต้องการของผู้จ้าง แต่ตอนนี้มันจะไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว เพราะ YDM Thailand ส่งกลยุทธ์ใหม่ออกมา
Revenue Sharing กับการยกระดับวงการนี้
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรม Digital Agency นั้นดุเดือด ทำให้ผู้เล่นแต่ละรายต้องส่งกลยุทธ์ใหม่ๆ ออกมาจูงใจแบรนด์สินค้า และบริการต่างๆ เพื่อรักษาการเติบโตของธุรกิจเอาไว้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ YDM Thailand หนึ่งในยักษ์ใหญ่ของอุตสาหกรรมนี้ ผ่านการสร้างรูปแบบรายใหม่ภายใต้แนวคิด Revenue Sharing
ธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายดีเอ็ม ไทยแลนด์ จำกัด เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ก็มีการคิดค่าบริการตามแต่ละโครงการที่แบรนด์สินค้า และบริการต่างๆ ต้องการ แต่เพื่อเพิ่มความหลากหลายในการทำตลาด รวมถึงให้ความเป็นธรรมกับลูกค้า บริษัทจึงเดินหน้ากลยุทธ์ดังกล่าวขึ้น
“Revenue Sharing หรือการคิดค่าบริการจากยอดขายของสินค้า-บริการเมื่อลูกค้าทำได้หลังจากจ้างเรานั้น ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่ Digital Agency ใช้การคิดราคาแบบนี้ เพราะมันค่อนข้างเสี่ยงในการทำธุรกิจ แต่ด้วยความพร้อมของ YDM Thailand ทำให้การเดินกลยุทธ์แบบนี้สามารถทำได้จริง”
สู้ด้วยกลุ่มบริษัทที่พร้อมตอบโจทย์ทุกแง่มุม
สำหรับ YDM Thailand ปัจจุบันมี 9 บริษัทย่อยที่ทำงานต่างกัน ทั้ง Adyim ที่ดูแลเรื่อง Digital Marketing Solution, Alternate65 เจ้าของ REVU แพลตฟอร์มดูแลการรีวิวผ่าน Micro Influencer, Jamjaras ที่ดูแล Influencer ในระดับภูธร และ FCB Bangkok กับ Navin Consultant ที่ดูแลเรื่องครีเอทีฟเป็นต้น
แต่เพื่อให้ครบวงจร YDM Thailand จึงสร้างเว็บไซต์ buyzabuy.com และ sellzabuy.com มาตอบโจทย์การติดตามยอดขายที่เกิดขึ้นหลังจากบริษัทรับงานแบบ Revenue Sharing เช่นนำสินค้ามาขึ้นใน sellzabuy.com จากนั้นให้ Influencer ในเครือข่ายนำลิงค์ของสินค้าไปไว้ในหน้ารีวิว เพื่อให้ผู้สนใจสามารถสั่งซื้อสินค้าเหล่านั้นได้
ทั้งนี้ YDM Thailand อยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้าเพื่อเดินหน้าการสร้างรายได้แบบ Revenue Sharing อยู่ 3-5 ราย มีทั้งอยู่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, โรงพยาบาล และกลุ่ม SME ซึ่งแต่ละธุรกิจก็แบ่งรายได้ที่เกิดขึ้นในอัตราไม่เท่ากัน เช่นหากธุรกิจนั้นมีราคาสินค้าสูงก็คิดส่วนแบ่งในอัตราที่น้อยกว่าสินค้าราคาถูก
เติบโตยั่งยืน พร้อมคงแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์
“การเดินหน้ากลยุทธ์นี้ทำให้ YDM Thailand สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน และสร้างตัวเลือกใหม่ให้กับลูกค้าที่สนใจใช้ Digital Agency ด้วย ซึ่งเชื่อว่าสินค้าที่จะขายอยู่ใน buyzabuy.com และ sellzabuy.com จะมีทั้งหมด 100 รายการ จากปัจจุบันมีทั้งหมด 30 รายการ”
แม้ว่าในประเทศไทยจะเป็นเรื่องใหม่ แต่ Revenue Sharing ในธุรกิจ Digital Agency นั้นมีมาระยะหนึ่งในต่างประเทศแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา, เกาหลี, ญี่ปุ่น และอังกฤษ แต่ตัว Digital Agency ที่เดินแผนแบบนี้ได้ต้องมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องในมีครบ เพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย และตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกแง่มุม
ขณะเดียวกัน Revenue Sharing ยังเป็นหนึ่งในกลยุทธ์เพื่อเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของ YDM Thailand ในอีก 2 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ Digital Agency รายนี้ยังมีแผนตั้งบริษัทที่ 10 ของกลุ่มด้วย โดยบริษัทดังกล่าวเป็นกิจการร่วมค้า (Joint Venture) และรับผิดชอบงานเกี่ยวกับวิเคราะห์ข้อมูล
สรุป
เมื่อ YDM Thailand เดินหน้ากลยุทธ์นี้ เชื่อว่า Digital Agency รายอื่นๆ ที่มีอาวุธครบมืออาจจะเดินกลยุทธ์ดังกล่าวเช่นกัน เพราะการทำแบบนี้มันแฟร์กับลูกค้าที่ไม่ต้องทุ่มทุนจ้างโดยไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไร แต่พอเป็นแบบนี้ฝั่ง Digital Agency ก็ต้องตั้งใจเพื่อปั้นยอดขายให้ลูกค้ามากที่สุด
ส่วนยอดขายปี 2561 ของ YDM Thailand นั้นอยู่ที่ 565 ล้านบาท และปี 2562 ตั้งเป้าที่ 850 ล้านบาท ด้านส่วนแบ่งของ Revenue Sharing นั้น YDM Thailand วางไว้เบื้องต้น 30-40% จากยอดขายในสินค้ากลุ่ม SME ส่วนตัวองค์กรขนาใหญ่ที่จำหน่ายสินค้าราคาสูงก็จะลดหลั่นลงมา
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา