Netflix ก็ไม่มีให้ดู เพราะ Avengers: Endgame หลังออกจากโรงภาพยนตร์ จะลงในสตรีมมิ่งของ Disney+ แพลตฟอร์มเดียวเท่านั้น ไม่ลงที่อื่นเลย
Avengers: Endgame จะลงใน Disney+ แพลตฟอร์มเดียวเท่านั้น
หลังจากที่ Disney+ ได้ประกาศไปแล้วว่า จะเปิดตัวแพลตฟอร์มอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้ แถมเปิดตัวมาด้วยราคาที่ถูกกว่า Netflix เกือบเท่าตัว แต่ไม่หมดแค่นั้นเพราะท่าไม้ตายของ Disney คือคอนเทนต์ที่มีในมืออย่างมหาศาล กลยุทธ์ exclusive หาดูที่ไหนไม่ได้ ต้องมาดูใน Disney+ เพียงที่เดียวจึงต้องรุกหนัก
- ล่าสุด มีการยืนยันแล้วว่า Avengers: Endgame หลังออกจากโรงภาพยนตร์ จะลงในสตรีมมิ่ง Disney+ เท่านั้น และจะฉายในวันที่ 11 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป (ประมาณ 1 เดือนต่อมาหลังการเปิดตัว)
แต่ดูแล้ว ด้วยกระแสที่ดี หลังออกจากโรงภาพยนตร์ Avengers: Endgame น่าออกขายในรูปแบบ DVD และ Blu-ray ก่อนที่จะลงในสตรีมมิ่ง Disney+
อย่างไรก็ตาม หนังเรื่องแรกที่จะฉายบน Disney+ คือ Captain Marvel หนึ่งในหนังที่อยู่ในจักรวาล Marvel เช่นกัน ส่วนหนังเรื่องสุดท้ายของ Marvel ที่จะฉายบน Netflix คือ Ant-Man ภาค 2
Avengers: Endgame ขึ้นเบอร์ 2 ของโลกหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาล
Bob Iger ซีอีโอของ Disney บอกว่า บริษัทรู้สึกยินดีมากกับผลงานของไตรมาส 2 ที่ผ่านมา และรวมถึงผลงานของ Avengers: Endgame ที่ทำลายสถิติไว้มากมาย
Avengers: Endgame เปิดตัวมาด้วยรายได้อันมหาศาล เพียงสัปดาห์เดียวก็ขึ้นแท่นหนังที่ทำเงินถึง 1 พันล้านดอลลาร์ไวที่สุดในประวัติศาสตร์ หลังจากนั้นก็ขึ้นแท่นเป็นหนังทำเงินเบอร์ 2 ของโลก โค่น Titanic และกำลังตามหลัง Avatar อยู่ประมาณ 400 ล้านดอลลาร์ [ปัจจุบัน Avengers: Endgame ทำเงินไป 2.3 พันล้านดอลลาร์แล้ว]
ด้วยจำนวนเม็ดเงินของแต่ละยุคที่ต่างกัน (ข้อถกเถียงเรื่องเงินเฟ้อ) ทำให้เหล่าบรรดาแฟนคลับแต่ละฝ่าย ซึ่งหลักๆ ก็คือ ฝั่ง Marvel และ Titanic ต่างถกเถียงกันอย่างหนักบนโลกออนไลน์
แต่เมื่อไม่นานมานี้ เจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับภาพยนตร์ Titanic ได้โพสต์ในทวิตเตอร์ มีใจความว่า
- “ถึงเควินและบรรดามาร์เวลทุกคน ภูเขาน้ำแข็งได้จมเรือไททานิคของจริงไปแล้วโดย Avengers นั่นเอง ทุกคนที่ Lightstorm ยกย่องในความสำเร็จอันน่าทึ่งของพวกคุณ พวกคุณทำให้เห็นว่าวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไม่ได้แค่มีชีวิตเท่านั้น แต่มันยังมีชีวิตที่ดี และยิ่งใหญ่กว่าที่เป็นมาเสียด้วย”
— James Cameron (@JimCameron) May 9, 2019
ที่มา – The Verge, BoxofficeMojo
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา