สรุปแล้วปีที่ผ่านมา Subway เชนร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่มีสาขามากที่สุดในโลก ปิดสาขาไปมากกว่า 1,000 แห่ง
ปีที่ผ่านมาของ Subway ปิดสาขาต่อเนื่อง และซีอีโอคนเดิมวางมือ
ปี 2018 ถือปีที่ไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่นักสำหรับ Subway เชนร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดัง เนื่องจากเกิดความเปลี่ยนแปลงสูง
เมื่อกลางปี 2018 Subway สั่งปิดหน้าร้านกว่า 500 สาขาอเมริกาเหนือ และหลังจากนั้นก็เกิดลูกโซ่ข่าวใหญ่ของ Subway นั่นคือ การประกาศเกษียณอายุเพื่อวางมือของ Suzanne Greco ซีอีโอคนเก่าของ Subway และถัดจากนั้นมา Subway ก็ได้ Trevor Haynes มานั่งเป็นซีอีโอนับตั้งแต่ 30 มิถุนายน 2018
- ล่าสุด Subway ได้สรุปตัวเลขสาขาหน้าร้านที่สั่งปิดในรอบปี 2018 พบว่ามีจำนวนสูงถึง 1,108 แห่ง (ตัวเลขนี้นับเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น)
การประกาศปิดสาขาของ Subway หลักพันในปี 2018 ถือว่าสูงมาก โดยเฉพาะถ้าเทียบปีก่อนๆ อย่างในปี 2017 ปิดสาขาไปทั้งหมด 866 แห่ง ส่วนในปี 2016 ปิดสาขาไปทั้งหมด 357 แห่ง
อย่างไรก็ตาม ในแถลงการณ์ของ Subway อธิบายถึงเรื่องนี้ไว้ว่า “เป้าหมายหลักของเรา คือการทำให้กิจการเติบโต รวมถึงเหล่าบรรดาแฟรนไชส์ให้สามารถทำกำไรได้”
ชัดเจนว่า การปิดหน้าร้านของ Subway ไม่ใช่อะไรอื่น นอกจากเป็นการไล่ปิดสาขาที่ไม่ทำกำไร ให้เหลือเพียงสาขาที่ทำกำไรดีๆ นั่นเอง ส่วนสาขาเดิมที่ยังพอมีศักยภาพในทางธุรกิจ Subway ก็จะปรับหน้าร้านใหม่ด้วยการดึงเอาระบบดิจิทัลเข้ามายกระดับการขาย เพื่อสู้กับปัญหายอดขายร่วง
ปิดเยอะ แต่ยังเป็นเชนร้านอาหารที่มีสาขามากที่สุดในโลก
แม้ว่า Subway จะปิดสาขาหลักพันในปีที่ผ่านมา แต่ Subway ยังคงเป็นเชนร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่มีสาขามากที่สุดในโลก
โดยในปัจจุบัน Subway มีสาขาทั่วโลกอยู่ทั้งหมด 42,000 แห่ง ส่วนเชนร้านฟาสต์ฟู้ดที่มีสาขาสูงสุดอันดับ 2 คือ McDonald’s ซึ่งมีสาขาอยู่ทั่วโลกประมาณ 36,000 แห่ง คิดแบบเปรียบเทียแล้ว Subway มีสาขามากกว่า McDonald’s ถึง 17%
ส่วนในสหรัฐอเมริกา แม้ว่าในปีที่ผ่านมา Subway จะปิดสาขาหลักพัน แต่สาขาโดยรวมทั้งหมดยังคงมีจำนวนสูงอยู่ที่ 24,798 แห่ง
ข้อมูล – CNN, The New York Post
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา