นอกจาก Adventure Bike ที่กำลังฮิตอยู่ตอนนี้ Vintage Bike ก็เป็นมอเตอร์ไซค์อีกแบบที่กำลังกลับมาเป็นที่นิยม และนั่นคือจุดเปลี่ยนของ Jawa แบรนด์มอเตอร์ไซค์เก่าแก่จากสาธารณรัฐเช็กที่ฟื้นคืนชีพอย่างยิ่งใหญ่
เท่ได้ด้วยสไตล์แบบ Vintage
Jawa คือหนึ่งในแบรนด์มอเตอร์ไซค์ หรือจักรยานยนต์ที่เก่าแก่อีกรายในระดับโลก เพราะรุ่นแรกที่ทำตลาดก็ต้องย้อนไปเมื่อปี 2472 หรือช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เลยทีเดียว ยิ่งแบรนด์ Jawa นั้นก่อตั้งโดยชาวสาธารณรัฐเช็กนามว่า František Janeček ตัวมอเตอร์ไซค์ที่เขาผลิตมันก็ยิ่งบูมในตลาดยุโรปในช่วงนั้นเข้าไปใหญ่
ทั้งการมีส่วนร่วมในสงครามโลกครั้งที่ 2 และจากแรงงานคุณภาพหลังสงครามจบ Jawa จึงพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ให้กับมอเตอร์ไซค์มากมาย เช่นระบบรองรับแรงกระแทก และระบบเกียร์ที่ล้ำสมัยสุดๆ ในช่วงเวลานั้น แต่พอหลังปี 2513 เป็นต้นมา แบรนด์ Jawa ก็ค่อยๆ หายไปจากตลาด และเหลือแค่รูปทรงสุด Vintage ที่เป็นเอกลักษณ์เอาไว้
อย่างไรก็ตาม Jawa ก็ได้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง แถมยังมาแบบทรง Vintage สุดเอกลักษณ์เช่นเดิมด้วย ผ่านการเข้าซื้อสิทธิ์ในการใช้แบรนด์ และผลิตโดยกลุ่ม Mahindra จากอินเดียเมื่อปี 2559 เพื่อนำแบรนด์ Jawa มาทำตลาดที่อินเดียเป็นหลัก แถมยังจำหน่ายในราคาที่สุดพิเศษอีกด้วย
ราคาที่ไม่แพงช่วยจูงใจผู้ซื้อแดนภารตะ
สำหรับ Jawa ที่กลุ่ม Mahindra นำเข้ามาทำตลาดในอินเดียนั้นเป็นการตั้งโรงงานผลิตในประเทศ และปัจจุบันมีทั้งหมด 3 รุ่นคือ Jawa มอเตอร์ไซค์ 4 สูบ 300 ซีซี ทรงคลาสิกแบบชุบโครเมียมราคา 1.64 แสนรูปี (ราว 74,000 บาท) กับ Jawa Forty-Two ทรงคลาสิกที่ดูทันสมัยมากขึ้น ราคา 1.55 แสนรูปี (ราว 70,000 บาท)
และล่าสุดกับรุ่น Jawa Perak ที่มากับสไตล์ Bobber ราคา 1.89 แสนรูปี (ราว 86,000 บาท) โดยสองรุ่นเบื้องต้นนั้นเริ่มทยอยส่งมอบในเดือนมี.ค. 2562 เหลือแต่ Jawa Perak ที่เปิดจอง และเตรียมส่งมอบเดือนส.ค. เท่านั้น แต่ด้วยราคาที่จูงใจขนาดนี้ ทำให้ยอดจองซื้อนั้นหลั่งไหลเข้ามาจำนวนมาก จนบางคนต้องรอจนถึงสิ้นปี 2562 เลย
ปัจจุบัน Jawa ที่ทำตลาด และบริหารโรงงานในอินเดียโดยกลุ่ม Mahindra นั้นตั้งเป้าส่งมอบมอเตอร์ไซค์ทั้งหมด 90,000 คันภายในปี 2562 แต่นั่นคือเป้าที่ตั้งก่อนการทำตลาดอย่างเป็นทางการ ดังนั้นพอมียอดจองซื้อถาโถมมามากขนาดนี้ มันก็ไม่แปลกที่เป้าดังกล่าวจะถึงได้ไม่ยาก
ดีลเลอร์ 100 รายในอินเดียช่วยเสริมแกร่ง
ขณะเดียวกันนอกจากราคาที่จูงใจแล้ว ตัว Mahindra ยังเร่งขยายดีลเลอร์ในอินเดียจนครบ 100 รายจาก 77 เมืองทั่วประเทศอีกด้วย เรียกได้ว่าความต้องการของ Jawa ในแดนภารตะนั้นมากจริงๆ แต่ถึงจะมากขนาดไหน Jawa ที่ทำตลาดโดย Mahindra ก็ยังไม่มีแผนขยายไปทำตลาดในต่างประเทศแต่อย่างใด
ในทางกลับกัน Jawa ยังมีการทำตลาดในยุโรปอยู่ ผ่านการผลิตในโรงงานที่กรุงปรากในประเทศต้นกำเนิดทั้งหมด 2 รุ่น แต่ถ้าเทียบจำนวนการผลิตกับที่ Mahindra ทำตลาดในอินเดียแล้วถือว่าน้อยมาก และนับว่าเป็นมอเตอร์ไซค์แบรนด์รองในตลาดยุโรปก็ว่าได้
เมื่อเห็นอย่างนี้แล้วแสดงให้เห็นว่ามอเตอร์ไซค์แนวคลาสิก หรือ Vintage แล้วแต่คนจะเรียกนั้นมีความต้องการของตลาดอยู่ สังเกตจากแบรนด์ Triumph ที่ค่อนข้างแข็งแกร่งในตลาดนี้ และประเทศไทยก็มีแบรนด์ท้องถิ่นอย่าง Stallion ก็เน้นผลิตมอเตอร์ไซค์สไตล์นี้มาจำหน่ายเช่นกัน
สรุป
ในระดับโลกนั้น Jawa เป็นมอเตอร์ไซค์คลาสิกที่หลายคนเล่นกัน และเป็นที่ต้องการในกลุ่มที่ชื่นชอบอีกแบรนด์ ซึ่งในประเทศไทยก็มีกลุ่มเล็กๆ ที่ชื่นชอบเช่นกัน ดังนั้นหากกลุ่ม Mahindra นำ Jawa ออกมาทำตลาดนอกอินเดียแล้วล่ะก็ เชื่อว่ามันคงประสบความสำเร็จไม่น้อย ยิ่งถ้ามากับราคาเข้าถึงได้ขนาดนี้ มันก็ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา