ไตรมาส 3 ที่ผ่านมาตัวเลขของเศรษฐกิจไทยทำได้ต่ำกว่าที่คาดไว้ ทำให้รัฐบาลต้องเร่งออกมาตรการผลักดันเศรษฐกิจออกมาอีกครั้ง ซึ่ง 1 ในนั้นคือช้อปช่วยชาติ
หลังจากที่เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 ทีผ่านมาทำได้น่าผิดหวัง ล่าสุด สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงมาตรการที่รัฐบาลจะเตรียมกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยสั่งให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาภายในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้
ลวรณ แสงสนิท โฆษกกระทรวงการคลังยังได้กล่าวว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ประมาณ 4.5% ซึ่งก่อนหน้านี้คาดไว้ว่าเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังจะชะลอตัวลง
การที่รัฐบาลต้องออกมากระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้งคาดว่าจะเน้นไปที่การบริโภคของประชาชนเป็นหลัก และรวมไปถึงการผลักดัน Mega Project ในโครงสร้างพื้นฐานที่ยังค้างท่ออยู่ออกมา ซึ่งก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ของ HSBC ได้คาดว่ารัฐบาลไทยอาจใช้วิธีผลักดันโครงการต่างๆ ออกมาเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทาง
ช้อปช่วยชาติกลับมาอีกครั้ง
อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังกำลังพิจารณามาตรการช้อปช่วยชาติ คาดจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2561 ถึง 15 มกราคม 2562 อย่างไรก็ดีมาตราการช้อปช่วยชาติในครั้งนี้ จะแตกต่างจากมาตรการช้อปช่วยชาติครั้งก่อน ๆ คือ จะกำหนดสินค้าเฉพาะบางรายการ โดยกำลังหาข้อสรุปสุดท้ายอยู่
อย่างไรก็ดีในช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กระทรวงการคลังเคยออกมากล่าวกับสื่อว่าจะไม่มีมาตรการช็อปช่วยชาติ และจะเน้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ เรื่องของภาษี การสนับสนุนการบริโภค รวมไปถึงการลงทุนของภาคเอกชน
เร่งโครงการต่างๆ
อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ภายในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ จะเร่งเสนอโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต-ธรรมศาสตร์ ระยะทาง เงินลงทุน 7,596 ล้านบาท และสายสีแดงอ่อน ส่วนต่อขยายช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช และตลิ่งชัน-ศาลายา วงเงิน 19,042.13 ล้านบาท
ในไตรมาส 4 นี้ยังมีโครงการที่รัฐบาลเร่งจะผลักดันให้สำเร็จคือ รถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยง 3 สนามบิน ได้แก่ สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินอู่ตะเภา มูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาทออกมาให้ได้ นอกจากนี้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กำลังวิเคราะห์การเบิกจ่ายงบลงทุนโดยเน้นไปที่โครงการขนาดใหญ่ เนื่องจากจะเกิดผลในทางเศรษฐกิจได้มาก เช่น โครงการรถไฟทางคู่ ฯลฯ
ที่มา – หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ, Workpoint News
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา