แม้ “รถยนต์ไฟฟ้า” จะเป็นเรื่องที่พูดถึงอย่างแพร่หลาย แต่ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าก็ยังไม่สามารถครองตลาดยานพาหนะได้ ซึ่งในอนาคตมันจะไม่เป็นอย่างนั้น เพราะรถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นผู้ใช้งานแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ผลิตขึ้นมามากที่สุด
ใช้งานแซงหน้าเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ
ในปี 2561 นั้น การใช้งาน แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน (Li-ion) หลักๆ ยังอยู่กับกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าของผู้บริโภคทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น Smartphone, โน้ตบุ๊ก, กล้องดิจิทัล, สว่านไร้สาย และเครื่องมือช่างอื่นๆ หรือคิดเป็นกว่า 50% ของการใช้งานประเภทอื่นๆ เช่นรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคล, รถสาธารณะ และตัวเก็บพลังงานไฟฟ้าธรรมชาติ
อย่างไรก็ตามตั้งแต่ 2557 การใช้งานแบตเตอรี่แบบลิเธียมไออนในรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคลก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และคาดว่าภายในปี 2573 ตัวแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนที่ผลิตขึ้นมาจะถูกใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคลถึง 8 ใน 10 ของทั้งหมดเลยด้วย ถือว่าเป็นการปรับรูปแบบการใช้งานแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนอย่างชัดเจน
ขณะเดียวกันในฝั่งตัวเก็บพลังงานไฟฟ้าธรรมชาติ หรือ Stationary Enegy Storage เช่นตัวเก็บพลังงานไฟฟ้าจากลม, แสงอาทิตย์ และน้ำ ก็จะมีการใช้งานแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนมากกว่าเดิมด้วย เพราะทิศทางการประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อมกำลังเดินหน้าไปทั่วโลก
ทั้งนี้การใช้งานแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในเครื่องใช้ไฟฟ้าของผู้บริโภคไม่ได้ลดลง เพราะทั้ง Smartphone และโน้ตบุ๊ก รวมถึงสิ่งอื่นๆ ก็ยังมีความต้องการใช้งานอยู่ เพียงแต่การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคลที่คาดว่ารถยนต์ใหม่ภายในปี 2583 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าถึง 55% เลยด้วย
เมื่ออ้างอิงข้อมูลจาก Allied Market Research จะพบว่า ตลาดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนทั่วโลกจะมีมูลค่ากว่า 46,210 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.51 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2565 โดยเติบโตจากปีปัจจุบันเฉลี่ยปีละ 10.8% เนื่องจากแบตเตอรี่แบบนี้นั้นมีขนาดเล็ก และชาร์จใหม่ได้ รวมถึงต้นทุนการผลิตก็ต่ำลงเรื่อยๆ ด้วย
สรุป
เรียกว่าทิศทางของการใช้งานแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนนั้นเติบโตขึ้นอย่างชัดเจน และหลายบริษัทก็เริ่มหันมาผลิตแบตเตอรี่ประเภทนี้กันมากขึ้น เพื่อหวังทำรายได้จากการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า แต่ด้วยยักษ์ใหญ่ในตลาดแบตเตอรี่เช่น Panasonic, LG และ Samsung ก็ค่อนข้างแข็งแกร่ง ดังนั้นต้องจับตาดูกันว่าใครจะเป็นผู้ชนะ
อ้างอิง // Bloomberg, PR Newswire
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา