นอกจาก Facebook แล้วยังมีโซเชียลมีเดียอื่นๆ ที่ให้แบรนด์เลือกใช้ในการสื่อสารกับผู้บริโภค ลองมาดู 10 เคล็ดลับในการใช้ Instagram ในเชิงธุรกิจกันดูบ้าง
โซเชียลมีเดียแต่ละตัวขึ้นชื่อว่ามีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันออกไป และมีกลุ่มผู้ใช้งานที่แตกต่างกันด้วย สำหรับ Instagram หลายคนเล่นเพื่อต้องการโชว์รูปภาพสวยๆ ไม่ต้องการเน้นอ่านข้อความใดๆ มาก แต่ในช่วงหลังก็ได้ออกฟีเจอร์ใหม่ๆ ทีเน้นเรื่องวิดีโอมากขึ้น ทำให้คนใช้งานแอคทีฟขึ้นเช่นกัน
พบว่ามีหลายแบรนด์ที่เลือกใช้ Instagram ในการสร้างแบรนด์มากขึ้น ทำให้การเติบโตของการใช้งานสำหรับภาคธุรกิจเพิ่มขึ้นอย่างมาก
โดยมีงานวิจัยพบว่า 66% ของแบรนด์มีการใช้ Instagram ในการสื่อสารกับผู้บริโภค ถือว่าเป็นการใช้โซเชียลมีเดียเป็นอันดับที่ 2 เพิ่มขึ้นจากอันดับที่ 4 ในปี 2017
หากแบรนด์ไหนที่วางแผนอยากใช้งาน Instagram ลองดู 10 เคล็ดลับในการใช้งานสำหรับธุรกิจ
1. เป็นตัวตนของตัวเองดีที่สุด
แบรนด์ต่างๆ มักโดนกับดักของการใช้ภาพจาก Stock หรือภาพกราฟิกโปรโมตแบบเกินจริง แต่จริตของ Instagram เป็นเรื่องของความเรียล ความจริงใจ การที่ใช้ภาพแบบธรรมชาติยังช่วยให้ผู้บริโภคได้เห็นวัฒนธรรม หรือความเป็นตัวตนของแบรนด์ได้มากขึ้นด้วย
- ต้องโกไลฟ์แล้วตอนนี้
การไลฟ์สดกลายเป็นเทรนด์ของการตลาดบนโลกออนไลน์ไปแล้ว โดยที่ 61% ของนักการตลาดบอกว่าพวกเขาวางแผนที่จะเพิ่มกลยุทธ์การไลฟ์สดให้มากขึ้น เพราะผู้ชมชอบดูคอนเทนต์แบบเรียลไทม์
- จังหวะต้องดี
Instagram เป็นแพลตฟอร์มที่มีการโพสท์คอนเทนต์ง่ายที่สุดแพลตฟอร์มหนึ่ง สามารถถ่ายภาพได้ทุกที่ที่คุณอยู่ พูดในที่ประชุม อยู่ในออฟฟิศ เปิดตัวสินค้าใหม่ แต่การโพสท์ต้องมีจังหวะในการโพสท์ที่ดี ต้องมีภาพที่เหมาะสมอยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสม
- ต้องมีการสนทนาตอบโต้
เช่นเดียวกันกับโซเชียลมีเดียอื่นๆ ที่ต้องสร้างเอ็นเกจเมนต์กับผู้บริโภคให้ได้ เมื่อมีการโพสท์ก็ต้องมีการโต้ตอบ มีการสนทนาทั้งกับผู้บริโภคเอง หรือจะเป็นผู้มีอิทธิพลต่างๆ บนโลกออนไลน์ด้วยก็ได้
- แนบลิงก์แปะบนประวัติของคุณ
ความท้าทายที่พบเจอบ่อยมากที่สุดในการใช้ Instagram ก็คือผู้ใช้ไม่สามารถโพสท์ลิงก์บนแคปชั่น หรือคำบรรยายใต้ภาพได้ แต่สามารถแนบลิงก์ในส่วนของประวัติส่วนตัวที่อยู่ด้านบนของแพลตฟอร์มได้ จะเปลี่ยนลิงก์ตามจังหวะ หรือช่วงที่ต้องการโปรโมตสินค้า โปรโมชั่นต่างๆ ได้
- ต้องเป็น Storyteller
Instagram มีคาแรคเตอร์ในการเล่าเรื่องราวผ่านภาพ โพสท์ต่างๆ ควรเป็นมากกว่าการโพสท์โปรโมตแบรนด์ หรือสินค้า โปรโมชั่น แต่ควรเป็นการเล่าเรื่องราว เล่าสตอรี่ต่างๆ ผ่านภาพ และเชื่อมโยงมายังแบรนด์ เป็นอีกวิธีในการดึงดูดความสนใจได้
- เทคโอเวอร์บัญชีอื่นๆ
การเข้าเทคโอเวอร์บัญชีที่มีฐานผู้ติดตามอยู่แล้ว ไม่ว่าจะป็นพาร์ทเนอร์ หรือคู่ค้าต่างๆ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการสร้างทางลัดของการสร้างบัญชีเช่นกัน หรือมีการทำคอนเทนต์ร่วมกันกับบัญชีอื่นๆ ช่วยดึงดูดความสนใจ และเกิดประโยชน์ทั้งสองฝ่ายได้
- ได้ดาต้าของผู้ชม
นอกจากจะได้สื่อสารกับผู้บริโภคแล้ว ยังสามารถเก็บดาต้าของลูกค้า หรือผู้ติดตามได้ด้วย อาจจะเป็นจากการตอบคำถามจากคลิปวิดีโอสั้นๆ
- นำเสนอข้อเสนอพิเศษได้
ฟีเจอร์ Stories เป็นอีกฟีเจอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ใช้ ทำให้มีการใช้งานแอคทีฟมากขึ้น แบรนด์ก็เริ่มมีการใช้ในการสื่อสารกับผู้ชมเช่นกัน โดยสามารถนำเสนอข้อเสนอพิเศษสำหรับคนที่ติดตาม Stories ของคุณได้ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ชมมีส่วนร่วม และสร้างเอ็นเกจเมนต์กับแบรนด์
- อย่าแค่ถาม แต่ต้องให้แสดงความคิดเห็น
ในอดีตแบรนด์อาจจะแค่ทำการสำรวจกับผู้บริโภคโดยการโพสท์ภาพบางอย่าง เพื่อทำการสำรวจความนิยมสินค้าในอนาคต แต่อย่าลืมที่จะให้ผู้บริโภคแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมด้วย อาจจะเปิดให้ Direct Messages หรือคอมเม้นต์ แล้วเอาความคิดเห็นมาพัฒนาต่อไปในอนาคต เชื่อเถอะว่ามันดีกว่าการตั้งคำถามปลายปิดว่าอันไหนดีกว่ากัน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา