เป็นเว็บ e-Commerce น้องใหม่ที่ได้รับการจับตามองอยู่ไม่น้อยสำหรับ JD Central จากความร่วมมือระหว่างยักษ์ใหญ่จากจีน JD.com และธุรกิจค้าปลีกของไทย Central Group ที่จนถึงตอนนี้ ต้องบอกว่ายังอาจไม่มีอะไรหวือหวามาให้เห็นชัดเจนนัก
ในตลาดไทยปัจจุบัน ที่มี Lazada โดย Alibaba Group และ Shopee โดย SEA Group หรือ Garena เดิม เป็นผู้เล่นรายหลักที่แข่งขันกันอย่างหนักหน่วงในการให้บริการ e-Commerce ขณะที่ Central เอง พยายามจะเข้าตลาด e-Commerce มาหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ดูจะล้มเหลวและหาช่องทางที่ถูกต้องไม่เจอ
แล้ว JD Central จะเป็นอย่างไร
สำรวจความเป็นไป 3 เดือนของ JD Central
สำหรับ JD.com ในประเทศจีน เป็นเว็บ e-Commerce ที่เน้นขายสินค้าแบรนด์เป็นหลัก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า ถ้าอยากได้ของมียี่ห้อ มั่นใจได้ ต้องไปที่ JD.com เมื่อมาที่ประเทศไทย ทั้ง Lazada และ Shopee เตรียมรับมือไว้เรียบร้อย โดยการดึงหลายๆ แบรนด์เปิดเป็น Official Store ไว้แล้ว แล้ว JD Central จะทำอย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องติดตาม
หลังจาก JD Central เปิดให้บริการมาประมาณ 3 เดือน ทาง iPrice แหล่งช้อปปิ้งเปรียบเทียบราคาออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หยิบยกเอา Map of eCommerce ที่ทำการอัพเดตข้อมูลสงครามอีคอมเมิร์ซในแต่ละไตรมาสมาศึกษาเปรียบเทียบ ทำให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ JD Central ซึ่งมีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
- การมีจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์โดยเฉลี่ยในไตรมาสที่ 3 กว่า 2,700,000 คน ถือเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดเกือบ 34 เท่าตัว หรือกว่า 3200% นับจากการเปิดตัว (จาก 80,000 มาเป็น 2,700,000 คน) ดูเหมือนทาง JD Central จะทำการโปรโมทอย่างหนักตั้งแต่เดือนกรกฎาคมจนถึงปัจุบัน โดยเฉพาะช่วงเดือนสิงหาคมที่มีจำนวนผู้เข้าชมสูงถึง 3,700,000 คน ถือเป็นจำนวนที่น่าลุ้นว่าในไตรมาสถัดไปจะเพิ่ม-ลด มากน้อยเพียงใด ซึ่งการเพิ่มจำนวนผู้เข้าสินค้าอย่างน่าตกใจนี้ทำให้ JD Central ก้าวขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 6 จากเดิมอยู่อันดับที่ 37 ใน Map of eCommerce ของ iPrice
- แอพฯ JD Central ขยับอันดับขึ้นมาถึง 2-3 ช่วงตัว จากช่วงเปิดตัวอยู่อันดับที่ 16 ของ AppStore และอันดับที่ 14 ของ PlayStore ในไตรมาส 3 ขยับมาอยู่อันดับที่ 7 ของ AppStore และอันดับที่ 4 ของ PlayStore จากการจัดอันดับร้านค้าอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของไทยที่เก็บข้อมูลล่าสุดในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2561 (Map of eCommerce)
- จำนวนผู้ติดตามบนโซเชียลเริ่มขยับ ในไตรมาส 3 มีผู้ติตดามผ่าน LINE กว่า 3 ล้านคน พอคาดเดาได้ว่า JD Central จะใช้ช่องทาง LINE ในการติดต่อระหว่างผู้ซื้อผู้ขาย จึงเน้นเพิ่มยอดผู้ติดตาม ขณะที่ช่องทาง Instagram และ Facebook แม้จะยังไม่สูงมาก แต่เชื่อว่าในอนาคตจะเพิ่มขึ้นตามมา
- มีการรับพนักงานมากขึ้น อ้างอิงข้อมูลจาก Linkedin สื่อโซเชียลเน็ตเวิร์คทางด้านอาชีพการงานที่ใหญ่ที่สุด ซึ่ง JD Central ปัจจุบันมีจำนวนพนักงานที่ลงประวัติการทำงานในบริษัทจากเดิม 79 คน ในไตรมาส 2 ขยับขึ้นมาเป็น 107 คนในไตรมาส 3 และเชื่อว่ายังมีกลุ่มพนักงานที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนอีกไม่น้อย น่าจะมีพนักงานเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ แน่นอน
สรุป
JD Central มาทีหลังสุด ใน 3 คู่แข่งหลักในไทย และอยู่ในช่วงสร้างฐานลูกค้า จึงไม่แปลกใจที่จะยังไม่เห็นยอดธุรกรรมการซื้อขาย หรืออาจจะมีเสียงบ่นเรื่องระบบ Fulfillment อยู่บ้าง แต่เชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว ถ้าคิดจะแข่งขันในตลาดนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก iPrice
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา