มาสเตอร์การ์ดเผลผลสำรวจสุดยอดจุดหมายปลายทางโลกประจำปี 2561 ระบุว่ากรุงเทพฯ ยังครองแชมป์อันดับหนึ่งติดต่อกันปีที่ 3 แซงหน้าลอนดอน ปารีส โตเกียว
นักท่องเที่ยวทะลุ 20 ล้าน เบียดลอนดอนลงไปอันดับสอง
มาสเตอร์การ์ได้ทำการสำรวจสุดยอดจุดหมายปลายทางโลกเป็นครั้งที่ 7 แล้ว (Mastercard Global Destination Cities Index, GDCI 2018) สามารถบ่งชี้ได้ว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และไทยเป็นเพียงประเทศเดียวในผลการสำรวจทั่วโลกที่มีเมืองท่องเที่ยวถึงสามแห่งติดอยู่ใน 20 อันดับต้น
ผลการสำรวจล่าสุดระบุว่า กรุงเทพฯ คือเมืองสุดยอดจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งของโลกที่นักท่องเที่ยวต้องการมาเยือน และพักแรมมากที่สุด ถือเป็นการครองอันดับ 1 เป็นครั้งที่ 5 ในรอบ 6 ปี (นับจากปี 2555) และเป็นการครองอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 แล้ว โดยในปีนี้มีภูเก็ตและพัทยาติดโผเข้ามาอยู่ใน 20 อันดับต้นด้วยเช่นกัน ในตำแหน่งที่ 12 และ 18
ปีนี้เป็นครั้งแรกที่ภูเก็ตได้ก้าวเข้ามาอยู่ใน 10 อันดับต้นในแง่ของมูลค่าการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยว ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่มีการรวมภูเก็ตและพัทยาเข้าไว้ในการสำรวจส่วนนี้ และมีการเพิ่มเมืองสำรวจจาก 132 เมืองในปี 2559 เป็น 162 เมืองในปี 2560
จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาพักแรมเป็นจำนวนสูงถึงกว่า 20 ล้านคน ทำให้กรุงเทพฯ สามารถเบียดลอนดอน (19.83 ล้านคน) ให้รั้งอันดับ 2 อีกครั้งเหมือนปีที่ผ่านมา
ชาติที่มาเยือนไทยมากที่สุดยังคงเป็นเหมือนเช่นปี 2560 ซึ่งก็คือ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
โดนัลด์ ออง ผู้จัดการประจำประเทศไทยและเมียนมาร์ของมาสเตอร์การ์ด กล่าวว่า
“ความจริงที่ว่าไทยเป็นประเทศเดียวที่มีเมืองน่าเที่ยวถึง 3 แห่งติดอยู่ใน 20 อันดับต้น ตอกย้ำถึงความสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานที่มีเสถียรภาพ การผสมผสานที่ลงตัวทั้งในเรื่องงานและการพักผ่อน รวมไปถึงเสน่ห์ในวัฒนธรรม
ซึ่งประเทศไทยมีโอกาสได้เป็นเจ้าภาพจัดงานระดับโลกหลายรายการในปีที่ผ่านมาและรัฐบาลไทยได้ขยายข้อยกเว้นให้แก่นักท่องเที่ยวที่พักระยะสั้นและมีการเพิ่มจุดตรวจคนเข้าเมืองพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนซึ่งปัจจัยต่างๆเหล่านี้ประกอบกับข้อเท็จจริงที่ว่ากรุงเทพฯเป็นเมืองที่ไม่น่าจะแพงเท่าเมืองใหญ่อื่นๆเช่นปารีสสิงคโปร์หรือกรุงโซล
เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้กรุงเทพฯ ยังคงครองอันดับหนึ่งสุดยอดเมืองจุดหมายปลายทางของโลก และเราก็รู้สึกดีใจที่ปีนี้ภูเก็ตได้ก้าวเข้ามาอยู่ในสิบอันดับต้นร่วมกับกรุงเทพฯ เมื่อพิจารณาจากจำนวนเงินจากการจับจ่ายของนักท่องเที่ยว”
ทุกเมืองจุดหมายปลายทางทั้ง 10 อันดับต้นในการสำรวจของปี 2560 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่พักแรมเพิ่มขึ้นทั้งหมด ยกเว้นในกรุงโซลที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวที่พักแรมลดลง แต่การคาดการณ์ในปี 2561 นั้น ระบุว่าทุกเมืองน่าจะมีตัวเลขเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง อิสตันบูล ซึ่งน่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากที่สุด
การใช้จ่ายเงินเพื่อการท่องเที่ยวในแต่ละเมืองนั้นไม่เท่าเทียมกัน ดูไบยังคงเป็นที่หนึ่งสำหรับเมืองที่นักท่องเที่ยวมีการใช้จ่ายเงินมากที่สุดเมื่อพักค้างคืนโดยเฉลี่ยต่อวันต่อคนอยู่ที่ 537 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (หรือราวๆ 17,500 บาท) ตามมาด้วยเมืองเมกกะ ในซาอุดิอาราเบียซึ่งติดอันดับเป็นครั้งแรกในลำดับที่ 2 และน้องใหม่อีก 2 เมืองคือ ปัลมา เด มายอร์กาในสเปน และภูเก็ตของไทย และในบรรดาเมืองที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดนั้น อิสตันบูลกลับเป็นเมืองที่ นักท่องเที่ยวใช้จ่ายต่อวันต่ำสุดอยู่ที่ 108 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (หรือราวๆ 3,500 บาท) เท่านั้น
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา