แจ๊ค หม่าแห่ง Alibaba เสนอว่า อนาคตของโลกธุรกิจ ไม่ใช่ภาคการผลิตเก่า แต่คือ “ภาคการผลิตใหม่” แล้วภาคการผลิตใหม่คืออะไร? ลองอ่านความคิดแจ๊ค หม่า จากบทความนี้
แจ๊ค หม่า: ภาคการผลิตใหม่ คือหัวใจของอนาคตในโลกธุรกิจ
แจ๊ค หม่า ขึ้นพูดที่งานประชุม Cloud Computing ประจำปี 2018 ซึ่งจัดขึ้นที่หางโจว ประเทศจีน
หม่าพูดถึงแนวคิดที่เขาเคยเสนอไว้เมื่อ 2 ปีที่แล้วเรื่อง New Manufacturing หรือ ภาคการผลิตใหม่ โดยบอกว่า “ภาคการผลิตใหม่คืออนาคต” เพราะนี่คือการเปลี่ยนผ่านจากจากธุรกิจยุคเก่าไปสู่ธุรกิจยุคใหม่ที่การผลิตขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้บริโภค
ธุรกิจยุคเก่า = บริษัทผลิตสินค้าส่งไปยังผู้บริโภค (B2C) ผ่านการผลิตสินค้าแบบเดียวกัน
ธุรกิจยุคใหม่ = บริษัทผลิตสินค้าส่งไปยังผู้บริโภค (B2C) ผ่านการผลิตที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้บริโภค
ตัวอย่างที่หม่ายกมาพูด น่าสนใจ เขาบอกว่า “ในอดีต ถือเป็นเรื่องที่น่าประทับใจ หากคุณผลิตเสื้อผ้าแบบเดียวกันได้ 2,000 ชิ้น ภายในเวลา 5 นาที แต่นับจากวันนี้เป็นต้นไป การผลิตเสื้อผ้า 2,000 ชิ้นที่แตกต่างกัน ภายในเวลา 5 นาทีต่างหาก คือสิ่งที่น่าประทับใจมากกว่า”
โดยสรุปก็คือ ภาคการผลิตเก่าเน้นการผลิตสินค้าแบบเดียวกันในปริมาณมาก ส่วนภาคการผลิตใหม่เน้นการผลิตสินค้าที่แตกต่างกันในปริมาณมาก
หม่า นิยามภาคการผลิตใหม่ไว้ว่า “เป็นการผสมผสานระหว่างภาคการผลิตและการบริการอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะต่อจากนี้ไป ขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทจะไม่ได้อยู่เพียงแค่เรื่องของการผลิตเท่านั้น หากแต่เป็นเรื่องของการคิดเชิงนวัตกรรม ประสบการณ์ของผู้บริโภค และความสามารถในการให้บริการ”
แต่ประเด็นอยู่ตรงนี้ การจะผลิตสินค้าที่แตกต่างกันในปริมาณที่มากได้ จำเป็นต้องมีการข้ามศาสตร์สาขาทางธุรกิจ หม่าบอกว่า หลังจากนี้เส้นแบ่งระหว่างอุตสาหกรรมจะจางขึ้นเรื่อยๆ จนแยกไม่ออก และภาคการผลิตจะต้องเชื่อมโยงกับภาคเทคโนโลยีกับภาคการบริการมากขึ้น
ดูเหมือนว่า หม่าจะให้ความสำคัญกับภาคเทคโนโลยีเป็นพิเศษ โดยเฉพาะ AI เพราะภาคการผลิตเก่าในความหมายของหม่าก็คือ ธุรกิจที่พึ่งพาโรงงานและยังต้องใช้แรงงานมนุษย์ในการผลิต สิ่งนี้คือสิ่งที่หม่าบอกว่า “พอเสียที” เพราะภาคการผลิตใหม่ คือการใช้หุ่นยนต์ AI เข้ามาทดแทนแรงงานในภาคอุตสาหกรรมการผลิตได้อย่างสมบูรณ์
หม่าบอกว่า “หัวใจของภาคการผลิตใหม่” คือความสามารถในการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูล เทคโนโลยีที่สำคัญคือ IoT, ชิปเพื่อช่วยในการประมวลผล [Alibaba ก็เพิ่งตั้งบริษัทขึ้นมาผลิตชิปโดยเฉพาะ], AI, Big Data และ Cloud Computing โดยทั้งหมดนี้จะส่งผลกระทบต่อแรงงานในอุตสาหกรรมการผลิตในสเกลที่เทียบได้กับธุรกิจเครื่องยนต์และธุรกิจน้ำมันทำมาในอดีต
“ต่อไปนักวิเคราะห์ข้อมูล (Data analyst) และวิศวกรไอที (หม่าใช้คำว่า algorithm engineer) ของอนาคต จะไม่ทำงานในบริษัทอินเทอร์เน็ตเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่พวกเขาจะมาทำงานในโรงงาน-ในภาคการผลิต”
ภาคการผลิตใหม่ + ค้าปลีกยุคใหม่ คือวิสัยทัศน์ของ Alibaba
ภาคการผลิตใหม่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์เรื่อง New Retail หรือ ค้าปลีกยุคใหม่ ของ Alibaba โดยหัวใจหลักคือการเชื่อมต่อค้าปลีกออฟไลน์(ยุคเก่า) กับค้าปลีกออนไลน์ (ยุคใหม่) เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ
New Retail คือแนวคิดที่ผู้สืบทอดของ Alibaba รุ่นถัดไปอย่าง แดเนียล จางก็เชื่อมั่นเช่นกัน เพราะมันคืออนาคตของวงการค้าปลีก
อย่างที่หม่าได้ว่าไว้ ผู้บริโภคในยุคนี้ไม่ได้ต้องการสินค้าที่ทันสมัย-ตามแฟชั่นเท่านั้น แต่พวกเขาต้องการสินค้าที่มีเอกลักษณ์ หาจากที่ไหนไม่ได้ หรือพูดอีกอย่างคือ ผู้บริโภคยุคนี้ต้องการสินค้าที่ผลิตมาเพื่อพวกเขาโดยเฉพาะ
หม่า ยังได้ทำนายไว้ด้วยว่า ภาคการผลิตใหม่จะส่งผลกระทบอย่างยิ่งใหญ่ต่อภาคการผลิตเดิมในอีก 10-15 นับจากนี้
- การปรับตัวของ Alibaba ด้วยการใช้กลยุทธ์ New Retail จึงเป็นการเตรียมตัวเพื่อรับมือกับความท้าทายของวงการค้าปลีกในอนาคต
แจ๊ค หม่า ยังบอกไว้ด้วยว่า ที่ต้องพูดและเน้นย้ำถึงภาคการผลิตใหม่ในวันนี้ ก็เพราะว่าสิ่งนี้จะเป็นภัยคุกคามอันใหญ่หลวงที่ใกล้เข้ามา แต่ในขณะเดียวกันก็เป็น “โอกาส” ของภาคอุตสาหกรรมในจีนและทั่วทั้งโลกด้วย
ดังนั้น เราจึงต้องเตรียมให้พร้อม ทั้งในแง่วิธีคิด และรวมถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่พอจะเป็นไปได้
อ้างอิง – Alizila
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา