แม้วาดภาพตัวเองไว้สวยหรู แต่สุดท้าย Nio แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนที่อยากเป็นเหมือน Tesla ก็เดินหน้าได้ไม่ดีนัก แม้หลังการ IPO จะเพิ่มมูลค่ากิจการได้กว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐก็ตาม
Nio กับอีกก้าวที่ไม่สวยของธุรกิจ
ปัจจุบันภาพลักษณ์ของ Nio คือรถยนต์ไฟฟ้าดาวรุ่งจากจีนที่ถูกสร้างมาเพื่อแข่งกับ Tesla โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการออกแบบ, นวัตกรรม รวมถึงระบบการบำรุงรักษาต่างๆ แต่การจะก้าวไปถึงจุดนั้นได้ก็ต้องการเงินทุนมหาศาล ทำให้บริษัทตัดสินใจ IPO ในตลาดหลักทรัพย์ New York Stock Exchange เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (12 ก.ย.)
แต่การระดมทุนในช่วงแรกกลับทำได้ไม่ดีนัก เพราะพอราคาเปิดที่ 6.25 ดอลลาร์สหรัฐ/หุ้น เพียงไม่นานก็ตกไปเหลือ 5.84 ดอลลาร์ ก่อนปิดตลาดวันแรกที่ 6.60 ดอลลาร์ ซึ่งตรงนี้เองทำให้มูลค่ากิจการ Nio เพิ่มขึ้นราว 1,000 ล้านดอลลาร์ เป็น 7,100 ล้านดอลลาร์ แต่ไม่ถึงเป้าหมายเพิ่มขึ้น 1,800 ล้านดอลลาร์ที่วางไว้เมื่อเดือนส.ค.
อย่างไรก็ตามด้วยธุรกิจที่ขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง เช่นปี 2560 ขาดทุนกว่า 759 ล้านดอลลาร์ เพราะ Nio เน้นทำตลาดรุ่นเดียวคือ ES8 และนับตั้งแต่ต้นปีก็มียอดจองเข้ามา 17,000 คัน แถมเพิ่งทยอยส่งมอบได้ตอนเดือนมิ.ย. และทำตลาดในประเทศจีนเท่านั้น จึงไม่แปลกที่คณะผู้บริหารค่อนข้างผิดหวังกับ IPO ครั้งนี้
ประกอบกับการที่นายทุนหลักอย่าง Tencent ก็มีผลกำไรออกมาไม่ค่อยดี รวมถึงการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้า และเรื่อง Trade War ทีทำให้การขายรถยนต์ไฟฟ้าไปสหรัฐฯ ทำได้ยากขึ้น ก็ยิ่งทำให้ Nio ต้องเร่งความเร็วธุรกิจตัวเองเพื่อให้กลับมาเติบโต และเดินตามกลยุทธ์ได้ดังหวัง
ทั้งนี้มูลค่ากิจการของ Nio ในวันที่ 17 ก.ย. นั้นเพิ่มขึ้นเป็น 8,700 ล้านดอลลาร์แล้ว หลังจากราคาหุ้นดีดตัวขึ้นเป็น 8.50 ดอลลาร์ และเคยขึ้นไปปิดสูงสุดที่ 12.77 ดอลลาร์ด้วย ดังนั้นคงต้องจับตาว่ากลยุทธ์ทางธุรกิจของ Nio จะเป็นอย่างไรบ้างในอนาคต
สรุป
แม้เปิดตัวได้ไม่ค่อยสวยนัก แต่หาก Nio มีกลยุทธ์ทางการตลาดที่ชัดเจนกว่านี้ เช่นแผนเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่อไป หรือการส่งออกไปทำตลาดต่างประเทศ ก็น่าจะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับนักลงทุน และมีโอกาสเติบโตเป็น Tesla ของประเทศจีนได้ดังหวัง
อ้างอิง // Techcrunch
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา