การขาย Smartphone ในตอนนี้จะมาเน้นแค่คุณสมบัติของเครื่อง และกล้องไม่ได้อีกต่อไป เพราะผู้ซื้อเริ่มต้องการอะไรมากกว่านั้น โดยเฉพาะความบันเทิงที่หลากหลาย และทำให้ Samsung ต้องคิดกลยุทธ์ใหม่ในการทำตลาด
Collaboration ช่วยสื่อสารผู้ซื้อได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย
การร่วมมือกับศิลปิน หรือดารานักแสดงเพื่อฉายภาพผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการนั้นอาจหาได้จากแบรนด์ทั่วไป แต่การร่วมมือกันในลักษณะ Collaboration นั้นในประเทศไทยแทบจะนับชิ้นได้ เพราะการจะทำการตลาดร่วมกับศิลปิน และดารานักแสดงจะไม่ได้เป็นแค่ Presenter เพื่อถือผลิตภัณฑ์เท่านั้น
วรรณา สวัสดิกูล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เล่าให้ฟังว่า การทำตลาดในรูปแบบ Collaboration กับศิลปิน และดารานักแสดงคือกลยุทธ์ใหม่ในสร้างการเติบโตของยอดขายสินค้า Smartphone ของบริษัท
“เมื่อมัน Collaboration ความชัดเจนในการทำตลาดมันก็มากขึ้นไปอีก เพราะเหมือนกับศิลปิน และดารานักแสดงจะมาทำตลาดร่วมกับเราจริงๆ ทำให้กลุ่มเป้าหมายมีความเชื่อมั่น และความต้องการซื้อสินค้ามากกว่าเดิม และยิ่งตอนนี้ตลาดแข่งขันกันหนัก หาก Samsung ฉายภาพสินค้าได้ชัดเจนกว่า ก็สามารถครองตำแหน่งผู้นำไว้ได้”
ก้าวข้ามคำว่า Camera Phone สู่อุปกรณ์ความบันเทิง
ขณะเดียวกันจากการ Collaboration ครั้งนี้ Samsung ยังพยายามสื่อสารว่า Smartphone ของบริษัทได้ก้าวข้ามความเป็น Camera Phone ที่คล้ายกับที่หลากหลายแบรนด์ชูเป็นจุดเด่นในการดึงดูดผู้ซื้อ และฉายภาพความเป็นอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงมากกว่า เพราะผู้บริโภคในตอนนี้ไม่ได้ซื้อ Smartphone เพราะกล้องอย่างเดียว
“เราค่อนข้างเชื่อมั่นใน Product ของเรา และคิดว่าตอนนี้มันก็ Win ในหลายรุ่น สังเกตจากที่เราเป็นผู้นำตั้งแต่ Smartphone ระดับ Entry จนไปถึง High-End รวมถึงมียอด Download ใช้งาน Galaxy Gift ที่เป็น Privillage ของเรากว่า 20 ล้านอีกด้วย ดังนั้นมันเหลือแค่แผนการตลาดที่ดีที่จะรักษาตำแหน่งผู้นำของเรา”
สำหรับ Smartphone รุ่นที่จะทำตลาดในรูปแบบ Collaboration รุ่นแรกคือ Galaxy J8 ผ่านการร่วมงานกับ BNK48 เพื่อเจาะกลุ่มวัยรุ่นอายุหลักสิบปีตามเป้าที่วางให้ Smartphone ตระกูล Galaxy J นั้นเจาะกลุ่มผู้ใช้ Smartphone เครื่องแรก ต่างจาก Galaxy A ที่เป็นระดับกลาง และ S กับ Note ที่เป็นระดับ High-End
เปิดราคา 9,490 บาท แต่ต้องมีเปิด Gacha ตามเทรนด์
ทั้งนี้ Galaxy J8 จะมีคุณสมบัติเบื้องต้นคือหน้าจอขนาด 6 นิ้ว กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และกล้องหลังคู่ความละเอียด 16 และ 5 ล้านพิกเซล ความจุในเครื่อง 32 GB มี 3 สีให้เลือกในราคา 9,490 บาท ที่สำคัญภายในเครื่องจะติดตั้ง Application BNK48 ไว้ภายใน รวมถึงเสียงเรียกเข้า และวอลเปเปอร์ของ BNK48 เช่นกัน
อย่างไรก็ตามทาง Samsung จะจัดจำหน่าย Galaxy J8 BNK48 Premium Boxset ด้วย มีจำนวนจำกัดแค่ 20,000 ชุด โดยจะราคาอยู่ที่ 12,900 บาท และมีข้อแตกต่างคือภายในกล่องจะมีรูปภาพ และสิ่งพิเศษอื่นๆ เพื่อแฟนคลับ หาซื้อได้บน JD.co.th แตกต่างกับรุ่นปกติที่มีจำหน่ายทั่วไป
ในทางกลับกัน Samsung ยืนยันว่าไม่มีการควบคุมราคาขาย มีเพียงราคาแนะนำที่แสดงให้ผู้บริโภคเห็นเท่านั้น ซึ่งก็เหมือนกับ Smartphone ทุกรุ่นของทางแบรนด์ และบริษัทเชื่อว่ากลไกราคาจะขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง จึงไม่น่ามีปัญหากับการจำหน่าย Smartphone รุ่นนี้
สรุป
ถือเป็นการร่วมงานกันของยักษ์ใหญ่ในแต่ละสินค้า และเชื่อว่า Samsung น่าจะได้ประโยชน์จากการจำหน่ายสินค้ากับกลุ่มแฟนคลับไม่มากก็น้อย แต่ยิ่งไปกว่านั้นการใช้ BNK48 สื่อสารไปยังกลุ่มวัยรุ่นที่ต้องการซื้อ Smartphone เครื่องแรกก็น่าจะเป็นไปได้ด้วยดีเช่นกัน ดังนั้นคงต้องติดตามต่อไปว่าจะมีแบรนด์ Smartphone รายไหนเลือกใช้กลยุทธ์ Collaboration ในรูปแบบนี้อีกบ้าง
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา