อะไรๆ ตอนนี้ก็เรียกว่า “ดิจิทัล” กันหมด หลายธนาคารใช้ดิจิทัล ทำระบบหลังบ้าน ทำแอปพลิเคชั่น ทำฟังก์ชั่นใหม่ๆ ไปจนถึงการให้สินเชื่อผ่านช่องทางออนไลน์ อย่างธนาคารกรุงศรี อยุธยา ก็วาดแผนงานไปไกลถึงขนาดจะให้ลูกค้าขอสินเชื่อบ้านผ่านช่องทางออนไลน์!
ใน 3 ปี เปิดให้ลูกค้ากู้บ้านเองผ่านระบบออนไลน์
ณัฐพล ลือพร้อมชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา บอกว่า ตอนนี้เราเห็นหลายธนาคารเริ่มให้ลูกค้าขอสินเชื่อและอนุมัติผ่านช่องทางออนไลน์ได้ แต่นั่นยังเป็นสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน (เช่นบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล)
ซึ่งสินเชื่อบ้านไม่เหมือนกัน เพราะมีความซับซ้อนกว่าเยอะ ทั้งเรื่องการประเมินราคาหลักประกัน และขั้นตอนอื่นๆ อีกมากมาย ที่ผ่านมา เราลองทำแอปพลิเคชั่นให้ลูกค้าขอสินเชื่อด้วยตัวเอง แต่ลูกค้าไม่ชอบ ไม่อยากใช้เพราะ ต้องกรอกข้อมูลเยอะมาก และพอมีคำถามไม่รู้จะถามใคร
“เราจับความต้องการได้ว่า ลูกค้าต้องการที่ปรึกษา ดังนั้นระยะแรกเราจะพัฒนาเครื่องมือให้พนักงานของเราสามารถ บริการลูกค้าได้ครบวงจร เช่น ให้ข้อมูลได้ครบ รู้จริง และตอบได้ทันใจลูกค้า ที่สำคัญคือพัฒนาเรื่อง Bigdata ฐานข้อมูลต่างๆ เพื่อนำมาวิเคราะห์ และให้สินเชื่อกับลูกค้าได้ตรงคน อนาคตจะเป็นสินเชื่อแบบ On-Demand ด้วย (ลูกค้าสามารถทำกระบวนการขอสินเชื่อได้เอง)”
ขณะนี้เรื่องการขอสินเชื่อผ่านช่องทางออนไลน์ยังทำได้ยาก เพราะต้องรอกฏหมายต่างๆ เช่น National Digital ID ซึ่งใช้ในการระบุตัวตนลูกค้า หากเริ่มใช้ได้จริงเมื่อไร ลูกค้าก็กรอกข้อมูลส่วนตัวน้อยลง และน่าจะอยากขอสินเชื่อออนไลน์ด้วยตัวเองมากขึ้น
กรุงศรีฯ ปั้นแอปฯ “Di-sales”ให้พนักงาน แถมทำระบบ API เชื่อมกับ Deverloper
ณัฐพล บอกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา กรุงศรีฯ ออกแอปพลิเคชั่น “Di-sales” ให้พนักงานบริการลูกค้าเรื่องสินเชื่อบ้านได้เร็วขึ้น ดีขึ้น โดยสามารถคำนวณข้อมูลสินเชื่อ ระยะเวลาการผ่อนชำระ รูปแบบการผ่อนชำระ อัตราดอกเบี้ย จุดเด่นคือแชร์ข้อมูลให้ลูกค้าดูได้เลย ผ่านทาง Line E-mail หรือช่องทางออนไลน์อื่นๆ
ทำไมต้องเร็วขึ้น? เพราะคนสมัยนี้รอได้ แต่ขอให้รู้ว่าสินเชื่อเขาอยู่ขั้นตอนไหนแล้ว ซึ่งเมื่อมีแอปฯ นี้พนักงานของเราสามารถเปิดดูข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา ที่สำคัญยังสามารถตั้งการแจ้งเตือน รายงานความคืบหน้าสถานะการขอสินเชื่อ ไม่ต้องรอให้ลูกค้าตามเรื่องเอง ยิ่งตอนนี้เราอนุมัติสินเชื่อบ้านใน 3 วัน ลูกค้าก็อยากรู้เร็วขึ้น
“ตอนนี้สินเชื่อบ้านในตลาดเรียกว่าแข่งขันกันสูง ที่สำคัญลูกค้าตอนนี้ไม่ได้มี Royalty ว่าต้องใช้แบงก์ที่เคยใช้อยู่ แต่เขาไปที่โครงการแล้ว ใครบริการเขาดีกว่า เขาก็ทำสินเชื่อด้วย ดังนั้นเราต้องเริ่มที่การบริการก่อน เราใช้นโยบายบริการแบบญี่ปุ่นคือ Homotei nachi ที่จะใส่ใจในทุกขั้นตอน”
นอกจากนี้กรุงศรีฯ เรายังร่วมมือกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โครงการบ้านต่างๆ รวมถึง Property Search Portal (เว็บไซด์ที่วิเคราะห์และรวบรวมข้อมูลบ้านไว้ในที่เดียว) โดยเราจะทำ API (จุดเชื่อมต่อ) ให้พันธมิตรธุรกิจเชื่อมต่อและใช้เครื่องมือต่างๆเพื่อให้ลูกค้าใช้งานง่ายขึ้น เช่น เมื่อลูกค้าเปิดเว็บไซด์พันธมิตรขึ้นมากจะมีเครื่องมือของกรุงศรีฯป๊อบอัพขึ้นมาให้ใช้การคำนวณสินเชื่อ ดูวงเงินกู้ ฯลฯ ซึ่งจะนำมาวางแผนซื้อบ้านได้ดีขึ้น
เทรนด์ดอกเบี้ยขาขึ้น แนะนำลูกค้าซื้อบ้านเดือนนี้เพื่อดอกเบี้ยที่ดีที่สุด แต่ 0% ไม่มีเพราะธปท.ขอไว้
ทั่วโลกเริ่มเห็นทิศทางว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะเป็นขาขึ้นแล้ว ทำให้ไทยเราก็มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นเช่นกัน ดังนั้นเมื่อดอกเบี้ยขึ้น ต้นทุนทางการเงินของธนาคารก็ต้องเพิ่มขึ้นด้วย
ผมแนะนำว่าดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านค่อยๆขยับขึ้นแล้ว ซึ่งหลายธนาคารจะปรับจาก อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Fixed rate) เป็นอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว หรือดอกเบี้ยที่ขึ้นลงตามภาวะตลาด โดยหลังจากนี้จะหาดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีต่ำกว่า 3% ยากแล้ว แต่เดือนนี้กรุงศรีฯยังมีดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีอยู่ แต่เดือนต่อไปก็ต้องรอดูมติในการประชุม
“อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านถ้าจะขยับน่าจะขยับครั้งละ 0.25% ก็จะไม่กระทบลูกค้ามาก แต่ถ้าขยับเป็น 1% เมื่อไรจะส่งผลกระทบต่อการผ่อนของลูกค้าแน่นอน ซึ่งปีนี้ทางกรุงศรีฯ ประเมินว่าธนาคารแห่งประเทศไทยอาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1 ครั้งในช่วงปลายปี”
ส่วนดอกเบี้ยกู้บ้าน 0% น่าจะไม่เห็นแล้ว เพราะเรื่องนี้ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขอความร่วมมือให้หลีกเลี่ยงการทำให้ลูกค้าสับสน เนื่องจากในอดีตลูกค้าบางคนเข้าใจว่า ดอกเบี้ย 0% ก็เหมือนอยู่ฟรี แต่ไม่ได้วางแผนทางการเงินไว้ว่าจะต้องใช้จ่ายอย่างไร ซึ่งส่งผลกระทบต่อการชำระหนี้ในอนาคต
“ที่หลายคนเห็นดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านบางโครงการถูก ก็เพราะทางโครงการนั้นๆมีการซับซิไดรฟ์ หรือออกเงินค่าดอกกเบี้ยแทนลูกค้า เนื่องจากบางโครงการต้องการลดราคาให้ลูกค้าอยู่แล้ว แต่ต้องรักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์ เลยมาลดราคาผ่านดอกเบี้ยนั่นเอง”
สรุป
จะขอสินเชื่อบ้านสมัยนี้ นอกจากผู้บริโภคจะชอบความสะดวกสบาย ยังต้องการข้อมูลที่ชัดเจน รวดเร็ว ดังนั้นหลายธนาคารเลยนำดิจิทัลมาพัฒนาบริการให้ตอบโจทย์ลูกค้า ซึ่งกรุงศรีฯ เองก็อยู่ระหว่างการพัฒนาเครื่องมือให้พนักงาน และเครื่องมือให้พันธมิตรอย่างต่อเนื่อง ใน 3 ปีนี้น่าจะของใหม่ๆให้เห็นแน่
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา