ก่อนอื่น ไปดูสถิติความยิ่งใหญ่ของทัวร์จีนกันก่อน
นับตั้งแต่ปี 2012-2016 เป็นต้นมา ชาวจีนเดินทางออกไปท่องเที่ยวนอกประเทศเพิ่มขึ้นถึง 47% คิดเป็นตัวเลขคือจากประมาณ 83.2 ล้านคนพุ่งสูงไปถึง 122 ล้านคน ที่สำคัญคือใช้จ่ายเงินสูง มีสถิติระบุว่าในปี 2016 ทัวร์จีนใช้จ่ายเงินไปกว่า 2.6 แสนล้านดอลลาร์ สูงกว่าการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกาถึง 2 เท่า
ด้านล่างนี้คือ 9 สิ่งที่ควรรู้ ถ้าต้องทำธุรกิจกับทัวร์จีน แนะนำโดย Alizila บริษัทสื่อในเครือของ Alibaba เรียกได้ว่ามาจากข้อมูลวงใน (inside) โดยตรง
1. “อาหาร” คือสิ่งที่คนจีนจ่ายหนักสุด แต่ “การท่องเที่ยว” กำลังมาแรง
คนจีนที่มาท่องเที่ยวในต่างประเทศปัจจุบัน มาจากหลากหลายชนชั้นและฐานะ ไม่ใช่เพียงแค่เจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงและนักธุรกิจระดับชั้นนำอีกต่อไป ข้อมูลจาก Alibaba ระบุว่า ประมาณ 50% ของนักท่องเที่ยวจีนในปัจจุบันมีทั้งกลุ่มชนชั้นที่ร่ำรวยมั่งคั่ง กลุ่มชนชั้นกลาง กลุ่มวัยเด็ก กลุ่มผู้สูงอายุ ฯลฯ
รายงานการสำรวจจาก McKinsey & Co. ในปี 2016 จัดลำดับการใช้จ่ายเงินของผู้บริโภคชาวจีนในประเทศ โดยเปิดเผยว่า
- คนจีนใช้จ่ายกับ “อาหาร” สูงสุดอยู่ที่ 46%
- สินค้ากลุ่มแฟชั่น 37%
- การท่องเที่ยว 23%
อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในประเภทการใช้จ่ายที่คนจีนเริ่มให้ความสนใจเป็นอย่างมากในช่วงหลังมานี้ และที่น่าสนใจคือมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2012
2. คนจีนไม่ชอบเที่ยวคนเดียว
จะทำธุรกิจกับคนจีน ต้องเข้าใจธรรมชาติของคนจีน
สถิติจาก China Luxury Travel Advisors ระบุว่า คนจีนชอบไปท่องเที่ยวกับคู่ชีวิตหรือคนรักถึง 77% รองลงมาคือเที่ยวกับครอบครัวและเด็ก 44% ตามมาด้วยการเที่ยวกับเพื่อนๆ ประมาณ 24% ส่วนคนจีนที่ชอบเที่ยวคนเดียวมีเพียง 4% เท่านั้น
3. ความสะดวกสบายต้องมาเป็นที่หนึ่ง
สำหรับทัวร์จีนแล้ว ความสะดวกสบายต้องมาเป็นที่หนึ่ง เช่น ถ้าต้องการเดินทางจากสถานที่หนึ่งไปยังสถานที่หนึ่ง พวกเขาต้องการรู้ว่าจะไปด้วยวิธีการไหนที่ง่ายที่สุด และนี่คือเรื่องใหญ่ เพราะความสะดวกสบายและเข้าใจง่ายเหล่านี้มาก่อนเรื่องเงิน ความปลอดภัย หรือความเป็นกันเองของการให้บริการเสียอีก
4. คนจีนชอบไปในที่ใหม่ๆ ไม่ชอบไปที่เดิมซ้ำๆ
ข้อมูลจาก Hotels.com บอกว่า ทัวร์จีนกว่า 82% เดินทางมาท่องเที่ยวที่เอเชียแปซิฟิกแล้ว ทำให้ตอนนี้เริ่มเบื่อกับภูมิภาคนี้ เพราะตัวเลขทัวร์จีนในแถบนี้ลดลงแบบปีต่อปีถึง 14% ส่วนจุดหมายต่อไปของทัวร์จีนก็คือฝั่งยุโรป อเมริกาเหนือและอเมริกาใต้
5. เพื่อประสบการณ์ใหม่ๆ จะจ่ายหนักแค่ไหนก็ไหว
Financial Times บอกว่า ในช่วง 3 ปีให้หลังมานี้ ในการเที่ยว 1 ครั้งของคนจีน จะลงไปกับเรื่องอาหารและความบันเทิงถึง 50%
ล่าสุด มีข้อมูลว่า ทัวร์จีนเข้าไปท่องเที่ยวในออสเตรเลียกันอย่างมหาศาล จนจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนในออสเตรเลียสูงกว่านักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกาแล้ว และที่สำคัญคือ นักท่องเที่ยวชาวจีนเหล่านี้ยอมจ่ายกับมื้ออาหาร หรือกิจกรรมต่างๆ ที่คนท้องถิ่นทำ เรียกได้ว่าเพื่อประสบการณ์ใหม่ๆ ต่อให้ราคาจะแสนแพงแค่ไหน ทัวร์จีนก็พร้อมจะจ่ายไม่อั้นอยู่แล้ว
6. จอง-จ่าย-ซื้อ คนจีนชอบทำทุกอย่างบนออนไลน์
คนจีนกับบริการออนไลน์เป็นของคู่กัน ไม่ว่าจะจองเที่ยวบิน จองห้องพัก จองรถเช่า ทุกอย่างคนจีนต้องการให้เกิดขึ้นบนออนไลน์ ดังนั้น ถ้าจะทำธุรกิจกับทัวร์จีน การผูกบริการของตนเองกับ marketplace ของจีนผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ ก็เป็นช่องทางหนึ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างมากต่อธุรกิจของคุณ เพราะวิธีการนี้การันตีได้ว่าคุณจะตีกินนักท่องเที่ยวชาวจีนได้อย่างแน่นอน
7. คนจีนช้อปปิ้งน้อยลง, แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ
ข้อมูลจาก Financial Times ระบุว่า การช้อปปิ้งของทัวร์จีนลดต่ำลงกว่าเดิมถึง 50% ในช่วงปีที่ผ่านมา ฟังดูเป็นข่าวร้าย แต่จริงๆ แล้วก็คือ ทัวร์จีนจ่ายน้อยลง แต่ปริมาณทัวร์จีนที่เดินทางออกไปท่องเที่ยวในต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก
สถานที่ที่เกิดการช้อปปิ้งจากทัวร์จีนมากที่สุดคือ ร้านค้า Duty Free ยังคงครองสัดส่วนมากสุดที่ 30% ในขณะที่ร้านค้าต่างๆ อยู่ที่ 20% ส่วนประเภทสินค้าจำพวกเสื้อผ้า กระเป๋า รวมถึงสินค้าความสวยความงามยังคงมาแรง และโดยเฉพาะถ้านำเข้ามาจากต่างประเทศจะยิ่งเป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยวชาวจีน
8. “ช่องทางการชำระเงิน” สำคัญกว่าภาษา
อย่างที่ทราบกันดีว่า คนจีนใช้ Mobile payment หรือการชำระเงินผ่านมือถือกันอย่างกว้างขวางในประเทศ โดยมีข้อมูลระบุว่า คนจีนกว่า 65% ใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อชำระเงินในชีวิตประจำวัน ถ้าคิดเป็นมูลค่าเงินที่ใช้จ่ายผ่านดิจิทัลจะอยู่ที่ประมาณ 5.5 ล้านล้านดอลลาร์ สูงกว่าตลาดสหรัฐอเมริกาถึง 50 เท่า
นักท่องเที่ยวชาวจีนส่วนใหญ่บอกเลยว่า สิ่งที่สถานที่ท่องเที่ยวในต่างประเทศควรปรับปรุงมากที่สุด ก็คือเรื่องช่องทางการชำระเงินที่จำเป็นต้องรองรับการจ่ายเงินผ่านมือถือได้เสียที
9. อยากขายของให้คนจีน ก็ต้องไปอยู่ในสายตาของคนจีน
ก่อนที่นักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางออกนอกประเทศ พวกเขาจะทำการเช็คข้อมูลผ่านแอพพลิเคชั่นของจีน อย่างของ Alibaba ก็คือ Fliggy ที่จะรวบรวมตั๋วเครื่องบิน สถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม และแหล่งบันเทิง หลังจากนั้นเมื่อเดินทางออกนอกประเทศไปท่องเที่ยว เมื่อจ่ายเงินผ่าน Alipay ตัวแอพพลิเคชั่นจะทำการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวหรือสินค้าให้กับนักท่องเที่ยว มากไปกว่านั้น ช่องทางการขายผ่านแอพพลิเคชั่นของจีน ยังทำให้ร้านค้ามีช่องทางการติดต่อกับลูกค้าชาวจีนในอนาคตได้ด้วย
ไม่นานมานี้ มีร้านขายไวน์ในแคนาดาที่เอาตัวเองไปอยู่ใน ecosystem ของจีน นั่นคือเพิ่มช่องทางจ่ายเงินผ่าน Alipay ให้กับร้านตัวเอง ปรากฏว่าหลังจากนั้น เมื่อลูกค้าชาวจีนบินกลับประเทศ ก็ได้ทำการสั่งซื้อไวน์จากแคนาดาให้ส่งไปที่จีนอีกด้วย
ข้อมูล – Alizila
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา