ลาวนั้นเป็นหนึ่งในประเทศที่ GDP เติบโตสูงประเทศหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ตอนนี้ลาวประสบปัญหาหนี้ต่อ GDP เกินเกณฑ์ไปแล้ว ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาในอนาคต
รายงานจาก IMF ในปี 2017 หนี้ต่อ GDP ของประเทศลาวนั้นสูงถึง 65.9% ซึ่งเกินเกณฑ์มาตรฐานของ IMF ที่กำหนดไว้ว่าหนี้ต่อ GDP ไม่ควรเกิน 40%
หนี้กำลังพุ่งขึ้นเรื่อยๆ
สาเหตุที่หนี้ต่อ GDP ของลาวกำลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เกิดจากการเจริญเติบโตของ GDP ลาว และโดยเฉพาะการกู้เงินมาก่อสร้างโครงการขนาดยักษ์อย่างเขื่อนในแม่น้ำโขง หรือโครงการสำคัญอย่างรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อมจากประเทศจีน ซึ่งลาวลงทุนด้วย 30% ทำให้หนี้ของประเทศนั้นพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก
Christine Lagarde ผู้อำนวยการ IMF ได้เคยกล่าวไว้ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ถึงเรื่องของโครงการรถไฟความเร็วสูงที่ลาวร่วมมือกับประเทศจีนซึ่งอยู่ในแผนการ One Belt One Road ว่าโครงการนี้อาจทำให้ประเทศลาวประสบปัญหาเรื่องหนี้ และอาจทำให้จ่ายหนี้ไม่ไหว
นายกของลาวบอก “จำเป็นต้องกู้”
ขณะที่ ทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีของลาว ได้กล่าวกับทาง Nikkei Asian Review ว่าประเทศลาวอยู่ในกลุ่มประเทศพัฒนาน้อยที่สุด ลาวจึงต้องใช้เม็ดเงินสนับสนุนการพัฒนาประเทศ ซึ่งลาวมีความจำเป็นต้องกู้เงิน ส่วนเรื่องของรถไฟความเร็วสูงที่อาจทำให้ทางการลาวสูญเงินไปได้นั้น เขาได้กล่าวเสริมว่า เขาเองไม่ได้กังวลในเรื่องนี้เท่าไหร่นัก
โดยนายกรัฐมนตรีของลาว พยายามในการเปลี่ยนประเทศลาวโดยเน้นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อที่จะดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ และรวมไปถึงเพื่อที่ประเทศลาวจะได้ออกจากกลุ่มประเทศพัฒนาน้อยที่สุดอีกด้วย เขาได้กล่าวว่า “ประเทศลาวจะต้องยืนด้วยลำแข้งตัวเองให้ได้” หลังจากออกจากสถานะประเทศพัฒนาน้อยที่สุด
ที่มา – Nikkei Asian Review
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา