BOL หรือ Business Online ถือเป็นหนึ่งในบริษัทเอกชนในไทยที่มีฐานข้อมูล SME จำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ให้บริการขายข้อมูลมาตลอด แต่เมื่อเดือนมี.ค. 2561 บริษัทกลับคิดใหม่ และให้บริการเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้ฟรี
ไม่เชิง Disrupt ตัวเอง แต่ก็เป็นการคิดใหม่
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น บมจ.บิซิเนส ออนไลน์ หรือ BOL เป็นผู้ให้บริการฐานข้อมูลนิติบุคคลรายเดียวที่มีข้อมูลครอบคลุมกว่า 1.5 ล้านธุรกิจทั่วประเทศ จากจำนวน SME ที่หน่วยงานภาครัฐคาดการณ์ไว้ราว 3 ล้านธุรกิจ และหารายได้จากการขายข้อมูล รวมถึงระบบวิเคราะห์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจทางธุรกิจในแง่มุมต่างๆ
แต่ด้วยทิศทางการทำธุรกิจในประเทศไทยที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะเรื่องดิจิทัลที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นทั้งฝั่งเจ้าของธุรกิจ และผู้บริโภค ทำให้บริษัทดังกล่าวตัดสินใจคิดใหม่ทำใหม่ด้วยการนำข้อมูลธุรกิจมาเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าถึงได้ฟรี พร้อมกับสร้างธุรกิจใหม่ภายใต้ชื่อว่า MatchLink
ชัยพร เกียรตินันทวิมล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร และกรรมการของ BOL เล่าให้ฟังว่า MatchLink ก่อตั้งเมื่อต้นปี 2560 ผ่านการตั้งบริษัท “บีโอแอล ดิจิตอล” เป็นผู้ดูแล และเริ่มให้บริการอย่างไม่เป็นทางการเมื่อปลายเดือนมี.ค. 2561 ถือเป็นการยกระดับธุรกิจของบริษัทแม่ไปอีกขั้นในยุคที่ความคิดของธุรกิจ SME จะอยู่ที่เดิมไม่ได้
ประสบการณ์ 19 ปี กับการเชื่อมต่อองค์กรแบบดิจิทัล
“BOL มีประสบการณ์การรวบรวมข้อมูลกว่า 19 ปี และเห็นการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ SME มาโดยตลอด ยิ่งตอนนี้เกือบทุกคนใช้งานอินเทอร์เน็ต และ Social Media แถมซื้อขายออนไลน์กันเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการยกระดับพวกเขาขึ้นออนไลน์ก็จำเป็น แต่มันต้องคงเรื่อง Networking และช่วยพวกเขามีเครดิตชัดเจนในโลกธุรกิจด้วย”
สำหรับ MatchLink นั้นใช้เงินลงทุนตั้งแต่เริ่มก่อตั้งราว 30 ล้านบาท มีจุดเด่นที่รวบรวมข้อมูลธุรกิจของ BOL ไว้ให้บุคคลทั่วไปใช้งานได้ฟรี ผ่านแอปพลิเคชั่น และหน้าเว็บไซต์ของ MatchLink นอกจากนี้ยังมีลักษณะเหมือน Social Media ที่จะเชื่อมต่อคนในธุรกิจ SME เข้าด้วยกัน (คล้ายกับ LinkedIn)
พร้อมกับฝั่งการจำหน่ายสินค้าระหว่างธุรกิจด้วยกัน (คล้ายกับ Alibaba) โดยตัวระบบสามารถให้ผู้ต้องการเสนอขายส่งใบเสนอราคาไปยังผู้เสนอซื้อได้ รวมถึงการเสนอสินเชื่อให้กับ SME ที่สนใจผ่านการร่วมมือกับทางธนาคารต่างๆ ถือเป็นการรวม 3 สิ่งที่ SME ต้องการคือ Digital Platform, Credibility และ Networking เอาไว้
สร้างรายได้ในระยะยาว ไม่หวั่นคู่แข่งรายอื่น
ทั้งนี้ตัวแพลตฟอร์ม MatchLink ในระยะแรกยังทำได้แค่ค้นหาข้อมูลบริษัทต่างๆ, สร้างหน้าเพจของแต่ละบริษัท และสร้างนามบัตรดิจิทัล แต่ภายในไตรมาสที่ 3 เป็นต้นไปจะมี Feature ดังที่กล่าวไว้ข้างต้นทยอยออกมา ที่สำคัญตัวแพลตฟอร์มนี้ยังไม่มีคู่แข่งในประเทศไทย เนื่องจากไม่มีใครมีข้อมูล SME มากเท่ากับ BOL
“จริงๆ ก่อนจะทำ MatchLink เราลองทำเว็บไซต์ชื่อ SMELink มาก่อน โดยรวบรวมชื่อ และรายละเอียดบริษัท SME ที่เรามีไว้ เพราะเริ่มสังเกตว่าก่อนที่ SME จะดีลธุรกิจกันมักจะเอาชื่อบริษัทคู่ค้ามาเสิร์ชบนกูเกิล ซึ่งตอนนี้เวลาเสิร์ชเว็บเราก็ขึ้นเป็นอันดับแรกๆ ดังนั้นจะกว่าไหมถ้าเอาข้อมูลที่เรามีอยู่มาต่อยอดธุรกิจขึ้นไปอีกขั้น”
ด้านรายได้ของ MatchLink นั้นจะมาจากค่าบริการต่างๆ เช่นการส่งใบเสนอราคาให้คู่ค้าอาจคิด 20-30 บาท/ครั้ง รวมถึงค่า Boost Post เพื่อให้คนอื่นในระบบรู้ว่าบริษัทตัวเองทำธุรกิจอะไร, ต้องการซื้อ หรือขายอะไรด้วย ปัจจุบันมีตัวเลขเข้าใช้บริการราว 8 แสน/เดือน มีผู้สมัครสมาชิกแล้ว 30,000 ราย และคาดว่าปี 2562 จะเป็น 2 แสนราย
สรุป
แม้จะไม่ได้บอกว่า Disrupt ตัวเอง แต่การเอาข้อมูลที่ตัวเองมีมาเปิดให้ใช้ฟรี แทนที่จะขายแบบเดิมๆ ก็เท่ากับว่า Disrupt ตัวเองแล้ว คราวนี้ก็เหลือแค่ฝ่าย Marketing ว่าจะดึงดูดให้องค์กรต่างๆ เข้ามาใช้แพลตฟอร์มนี้ได้อย่างไร เพราะถึงจะทำแพลตฟอร์มออกมาดี แต่ถ้าไม่มีใครใช้ การจะสร้างดีลธุรกิจให้เกิดภายในนี้ก็ยาก
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา