แม้ปัจจุบันผู้บริโภคจะเริ่มหาข้อมูลบนโลก Online ก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์สักคันหนึ่งแล้ว แต่ผู้บริโภคบางส่วนก็ยังชื่นชอบในการเข้าไปสอบถามข้อมูลจากเซลล์ตามศูนย์รถยนต์ และนั่นคืออีกตัวแปรที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเติบโตยาก
ยุโรปเริ่มมีปัญหา หลังเซลล์ไม่ให้ความร่วมมือ
ก่อนหน้านี้ตลาดสหรัฐอเมริกาก็มีปัญหาในการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า หรือ Electric Vehicle (EV) เพราะการสื่อสารข้อมูลที่ผิดพลาดของพนักงานขาย ทำให้ผู้บริโภคไม่ทราบถึงการใช้งาน และประโยชน์หลังจากซื้อได้อย่างชัดเจน จึงไม่แปลกที่ Tesla ต้องปฏิวัติการจำหน่ายรถยนต์ด้วยการขายตรงให้กับผู้บริโภคด้วยตนเอง
เพราะต้องการขจัดปัญหารเรื่องการสื่อสารที่ผิดพลาดออกไปให้หมด แต่ถึงตลาดสหรัฐฯ เหมือนจะรอดพ้นจากวิกฤตินี้มาได้ ปัจจุบันตลาดยุโรปก็เริ่มมีปัญหานี้มาแล้วเช่นกัน เพราะตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับกลุ่มสินค้ารถยนต์ไฟฟ้ามากนัก ทำให้การสื่อสารข้อมูลไปยังผู้บริโภคทำได้ไม่ดี
โดยมหาวิทยาลัย Aarhus ในเดนมาร์ก และมหาวิทยาลัย Sussex ได้ทำการสำรวจศูนย์บริการรถยนต์ทั้งหมด 86 แห่งในเดนมาร์ก, ฟินแลนด์, ไอซ์แลนด์, นอร์เวย์ และสวีเดน แล้วพบว่า การสื่อสารข้อมูลรถยนต์ไฟฟ้าไปยังลูกค้าที่มีความสนใจรถยนต์ไฟฟ้านั้นผิดพลาดไปมาก แถมบางครั้งยังส่งเสริมให้ไปซื้อรถยนต์เครื่องสันดาปภายในมากกว่า
เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมากๆ ก็กลายเป็นการสร้างกำแพงให้กับผู้บริโภคในการเข้าใจ และหันมาใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อรับกับนโยบายรักษาสิ่งแวดล้อมของหลายๆ ประเทศในกลุ่มยุโรปด้วย ดังนั้นหากทางค่ายรถยนต์ยังไม่กระตุ้นให้ศูนย์บริการปรับความคิด โอกาสที่ปัญหานี้จะยังอยู่ระยะยาวก็มีสูง
สรุป
เหตุการณ์นี้ก็เหมือนเคยเกิดขึ้นในประเทศไทยแล้ว เช่นตอนที่ Prius ของ Toyota เข้ามาทำตลาดใหม่ๆ ก็มีการสื่อสารที่เข้าไม่ถึง ประกอบกับการตั้งราคาที่สูงจนเกินไป ทำให้การทำตลาดครั้งนั้นของเบอร์หนึ่งรถยนต์ญี่ปุ่นไม่สำเร็จ และหากต้องการกระตุ้นให้มีผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าจริงๆ การปรับเรื่องการสื่อสารข้อมูลจึงจำเป็นที่สุด
อ้างอิง // Electrek
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา