จากความนิยมของชอปปิ้งออนไลน์ในประเทศจีน ทำให้ห้างค้าปลีกต่างกันปรับตัวเพื่อเพิ่มประสบการณ์ รวมถึง Luxury Brands ที่เป็นแบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์ต่างปรับกลยุทธ์ยกใหญ่ เป็นเทรนด์ที่หันมาเปิดคาเฟ่ร้านอาหาร ร้านกาแฟ เพื่อเป็นแม็กเน็ตในการดึงดูดลูกค้ามาที่สโตร์มากขึ้น
ตอนนี้ต้องบอกว่าไม่ใช่แค่ธุรกิจแฟชั่นที่สร้างทราฟิกให้ห้างสรรพสินค้าในจีน แต่ธุรกิจร้านอาหาร หรือร้านกาแฟได้กลายเป็นธุรกิจที่นิยมมากขึ้น หลายแบรนด์เลือกที่จะทำโมเดลร้านอาหารควบคู่กับร้านแฟชั่นขงตนเอง เพื่ออุดช่องว่างระหว่างโลกออนไลน์ และออฟไลน์ เป็นการสร้างประสบการณ์หน้าร้านมากขึ้น
โดยที่ไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้เห็นแบรนด์หรูอย่าง Gucci และ Ralph Lauren ได้ใช้กลยุทธ์ในการปรับตัวของร้านค้าปลีกด้วยการปั้นร้านคาเฟ่เป็นของตัวเอง เพื่อเพิ่มทราฟิกในการมาหน้าร้าน จึงกลายเป็นเทรนด์ที่แบรนด์หรูอื่นๆ ต่างพาเปิดคาเฟ่ร้านาหาร ร้านกาแฟบ้าง เพื่อหวังดึงทราฟิกที่หน้าร้านเช่นกัน
Coco Café จากแบรนด์หรู Chanel เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างความสำเร็จให้เห็นแบรนด์หนึ่ง เป็นการสวมร่างเป็นเป็นป็อปอัพ สโตร์ชั่วคราวในร้าน Aunn Café ที่เซี้ยงไฮ้ ซึ่งสามารถสร้างความสนใจเป็นอย่างมาก มีกลยุทธ์ในการดึงคนเข้าร้านอย่างให้ลูกค้ามาทดลองสินค้าทั้งลิปสติก ยาทาเล็บ และที่ปัดแก้ม แล้วจะได้รับกาแฟฟรี ซึ่งทำให้คนต่อแถวยาวเหยียด และมีการแชร์ภาพคาเฟ่กระหึ่มโลกออนไลน์
ทั้งนี้ยังมีตัวอย่างอีก 5 คาเฟ่ จาก 5 Luxury Brands ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่เปิดคาเฟ่ร้านอาหาร ร้านกาแฟที่ประเทศจีนควบคู่กันไป ชี้ให้เห็นว่า แบรนด์แฟชั่น กับไลฟ์สไตล์ อาหาร ร้านกาแฟ สามารถไปด้วยกันได้ดี และช่วยเสริมกันอย่างมาก เป็นอีกหนึ่งหนทางในการดิ้นตายได้ในยุคค้าปลีก
-
Moleskine Café
Moleskine เป็นแบรนด์สมุด โน้ตบุคสุดแนวจากประเทศอิตาลี ได้เปิดคาเฟ่แห่งแรกในเมืองมิลาน ตอนปี 2016 และได้ขยายสาขาที่ 2 มายังกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เพราะมองว่าเมืองนี้เป็นศูนย์กลางแห่งวัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์ เป็นพื้นที่ในการจัดเวิร์คช็อป สัมมนาต่างๆ ได้ ตรงกับคอนเซ็ปต์ของแบรนด์
กลายเป็นเทรนด์ของร้านเครื่องเขียน คู่กับร้านกาแฟ ส่งผลให้ทราฟิกเข้าร้านสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เป็นคอนเซ็ปต์ของห้างค้าปลีกอื่นๆ ในการนำแนวคิดเรื่องไลฟ์สไตล์ที่รวมร้านหนังสือ กับคาเฟ่ไว้ด้วยกัน
-
Joe’s Cafe
Joseph แบรนด์แฟชั่นจากอังกฤษ ได้เริ่มแนวคิดเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร และแฟชั่นมาใช้ร่วมกันในปี 1970 ซึ่งในปี 2015 ก็ได้เริ่มคอนเซ็ปต์นี้ในปักกิ่ง ในชื่อ Joe’s Cafe แต่ทำเป็นเพียงมุมคอฟฟี่บาร์เล็กๆ สำหรับนักช็อปเท่านั้น
-
Vivienne Westwood Café
ร้าน Vivienne Westwood Café ตั้งอยู่ที่ชั้นบนห้าง K11 ในเซี่ยงไฮ้เปิดให้บริการในปี 2015 เป็นปีเดียวกันกับที่ Gucci เปิดร้านอาหารที่นี่ เป็นช่วงที่แบรนด์หรูหลายแบรนด์หาหนทางในการดึงดูดผู้บริโภคคนจีนด้วยวิธีใหม่ๆ กลายเป็นเทรนด์ของการเปิดร้านอาหารนั่นเอง
ร้าน Vivienne Westwood Café ได้ดึงเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมการดื่มชาอังกฤษมาไว้ที่นี่เต็มๆ ที่สำคัญคือคาเฟ่นี้มีเพียง 2 แห่งในโลก และอยู่ในประเทศจีนทั้ง 2 แห่งเลยด้วย
-
Kiehl’s Coffee House
มาถึงสกินแคร์ มาผนวกกับร้านกาแฟกันบ้าง อย่างแบรนด์ Kiehl ได้เริ่มเปิด Kiehl’s Coffee House แห่งแรกที่เมืองไทเป ประเทศไต้หวันเมื่อไม่นานมานี้ นำเสนอจุดขายด้วยกาแฟ และเค้กต่างๆ ที่บอกว่าเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติ เหมือนกับส่วนผสมที่มีในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของ Kiehl เอง โดยไม่กี่เดือนที่ผ่านมาก็ได้เปิดสาขาที่ปักกิ่ง ในศูนย์การค้า Taikoo Li
-
Mercedes me
ที่นี่ไม่ใช่แค่คาเฟ่ร้านกาแฟ ที่อยู่ในโชว์รูมขายรถเท่านั้น แต่ยังเป็นเหมือนสถานที่ที่มอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้า เป็นประสบการณ์สุดหรูขงแบรนด์ Mercedes คาเฟ่แห่งนี้ตั้งอยู่ที่กรุงปักกิ่ง มีการตั้งโชว์รถยนต์รุ่นล่าสุดขงแบรนด์ รวมถึงมีการทำโปรเจ็คต์ร่วมกับร้านอาหารหรูเพื่อมอบประสบการณ์ให้ลูกค้า อีกทั้งคาเฟ่แห่งนี้ยังเป็นพื้นที่สำหรับแฟชั่นโชว์ และจัดงานอีเวนต์บ้างเป็นบางครั้งด้วย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา