การเดินหน้าแผนรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยของค่ายผู้ผลิตรถยนต์ต่างๆ กำลังคืบหน้าไปเรื่อยๆ อย่างล่าสุด BMW ก็เตรียมขอสนับสนุนการลงทุนเพื่อประกอบแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ Plug-In Hybrid จาก BOI แล้ว
เพิ่มความชัดเจนในการรุกตลาด
ถือเป็นอีกความชัดเจนในการเข้ามาทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า เพราะค่าย BMW เตรียมลงทุน 400 ล้านบาท เพื่อขยับขยายโรงงานที่ระยองให้รองรับการประกอบแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ไฟฟ้าประเภท Plug-In Hybrid แล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับภาครัฐเกี่ยวกับการสนับสนุนในการลงทุนตามนโยบายรถยนต์ไฟฟ้า
สเตฟาน ทอยเชอร์ต ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เล่าให้ฟังว่า การเจรจากับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ยังมีอยู่ตลอด เพื่อให้การลงทุนเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ฝั่งเดียว เพราะต้องรอดูกลุ่ม Supplier ในไทยเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย
“ปัจจุบันยังไม่มี Supplier ในประเทศไทยที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการประกอบเซลล์แบตเตอรี่ ทำให้ถ้า BMW ลงทุนไปเลยก็ไม่น่าจะใช้เวลาที่ถูกต้อง จึงต้องให้ตัวตลาดฝั่งการผลิตนั้นคุ้นชินก่อน เช่นเดียวกับฝั่งผู้บริโภคที่รถยนต์ไฟฟ้าก็ค่อนข้างใหม่ แต่เราก็พยายามทำตลาดให้ดีขึ้น ด้วยการมี Plug-In Hybrid รุ่นประกอบในไทยมาระยะหนึ่งแล้ว”
ดับเบิลยอดขาย Plug-in Hybrid
และเมื่อผลิตตัวโรงงานในประเทศสามารถผลิตรถยนต์ Plug-In Hybrid ได้ถึง 4 รุ่น จึงไม่แปลกที่ยอดขายรถยนต์กลุ่มนี้จะเพิิ่มขึ้นจาก 13% เป็น 20-25% หรือเกือบเท่าตัวในปีนี้ โดยปี 2560 กลุ่ม BMW สามารถจำหน่ายรถยนต์ไปทั้งหมด 11,030 คัน แบ่งเป็นแบรนด์ BMW 10,020 คัน ที่เหลือเป็นแบรนด์ MINI
โดยหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ยอดขายเติบโตมาจากแผนสนับสนุนทางการเงิน Freedom Choice ที่ช่วยให้การครอบครองรถยนต์ทำได้ง่ายขึ้น ส่วนยอดขายมอเตอร์ไซค์นั้นปีที่ผ่านมาทำได้ 2,001 คัน เนื่องจากมีการประกอบในประเทศถึง 8 รุ่น ทำให้ผู้บริโภคที่ชื่นชอบความเร็วสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิม
ตลาดรถยนต์หรู 25,000 คันยังเติบโต
ทั้งนี้ตลาดรถยนต์หรูในประเทศไทยปี 2560 นั้นอยู่ที่ 25,000 คัน คิดเป็น 5% ของตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล โดยในปีนี้ยังมีโอกาสเติบโตอยู่ หลังจากการแข่งขันที่มากขึ้น ประกอบกับเรื่องแผนการสนับสนุนทางการเงินของค่ายผู้ผลิตต่างๆ ที่ทำให้รถยนต์หรูสามารถหมุนเวียนได้เร็วกว่าปีก่อนๆ
สรุป
เมื่อมองตลาดรถยนต์หรูในไทย เทียบตลาดรถยนต์ระดับพรีเมียมที่เยอรมันจะพบว่า เมืองเบียร์มีรถยนต์พรีเมียมถึง 30% ของทั้งตลาด ดังนั้นในประเทศไทยจึงมีโอกาสอีกมาก แต่มันก็อยู่ที่เรื่องเศรษฐกิจ และการทำตลาดของแบรนด์ต่างๆ ด้วย แต่เชื่อว่าความชัดเจนเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าของ BMW จะช่วยสร้างความตื่นตัวให้กับคู่แข่งแน่ๆ
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา