ในปี 2568 อาจได้เห็นเจ๊เกียว และผู้ให้บริการถร่วมรายอื่น ใช้รถบัสไฟฟ้าก็เป็นได้

กระแสรถยนต์ไฟฟ้าในตอนนี้ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก และไม่ได้หยุดแค่รถยนต์ส่วนบุคคล เพราะกระทบไปถึงรถยนต์เชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะรถบัสไฟฟ้าที่ขณะนี้จีนกำลังเร่งผลิต และคาดว่าจะมีถึง 1.2 ล้านคันวิ่งอยู่ทั่วโลกในปี 2568

รถบัสไฟฟ้า หรือ Electric Bus สีเขียว
รถบัสไฟฟ้า // ภาพโดย By Ryanmirjanic (Own work) [CC BY-SA 4.0 (https://creativecommons.org/licenses/by-sa/4.0)], via Wikimedia Commons

รถบัสไฟฟ้าจะเริ่มได้รับความนิยม

ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้ายังเป็นของเล่นคนรวยอยู่ เพราะด้วยราคาที่สูงจึงทำตลาดในวงกว้างไม่ได้ แต่ด้วยอนาคตที่ทิศทางราคาแบตเตอรี่ที่ต่ำลงเรื่อยๆ ประกอบกับเรื่องชิ้นส่วนรถยนต์ที่ผู้ประกอบการก็เริ่มหันมาทำเรื่องนี้มากขึ้น ทำให้ต้นทุนต่างเริ่มถูกลง และกลายเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมเป็นวงกว้างในที่สุด

ซึ่งเรื่องนี้ก็จะเกิดขึ้นกับกลุ่มรถโดยสารเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ หรือรถบัสเช่นกัน เพราะด้วยต้นทุนแบตเตอรี่ที่ถูกลงตั้งแต่ปี 2569 และการสนับสนุนเรื่องสิ่งแวดล้อมจากรัฐบาลประเทศต่างๆ ทำให้ผู้ประกอบการรถบัสจะหันมาใช้รถบัสไฟฟ้ามากขึ้นจากเดิมที่เคยใช้รถบัสเครื่องดีเซล และติดแก๊สแบบ CNG มาก่อนหน้านี้

นอกจากนี้ด้วยค่าซ่อมบำรุงที่มีต้นทุนต่ำกว่าทั้งดีเซล และ CNG ประกอบกับอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่น้อยกว่าอย่างชัดเจน ก็ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายจากทั่วโลกหันมาใช้รถบัสไฟฟ้ามากขึ้นเช่นกัน โดยในปี 2560 มีรถบัสไฟฟ้าถูกจำหน่ายในตลาดแค่ 2.86 แสนคัน แต่จะเพิ่มเป็น 1.2 ล้านคันในปี 2568 เลยทีเดียว

รถบัสที่ปล่อยควันดำ ซึ่งจะไม่เห็นในรถบัสไฟฟ้า // ภาพโดย By Ilya Plekhanov (Own work) [CC BY-SA 3.0 (https://creativecommons.org/licenses/by-sa/3.0)], via Wikimedia Commons

จีนคือผู้เล่นรายใหญ่ของตลาดนี้

ด้วยกำลังการผลิตที่มหาศาล ประกอบกับต้นทุนด้านคนที่ต่ำกว่า ทำให้ประเทศจีนน่าจะเป็นเบอร์หนึ่งในการผลิตรถบัสไฟฟ้าหลังจากนี้ไป โดยเฉพาะบริษัท BYD ที่ปัจจุบันเป็นเบอร์หนึ่งเรื่องการขายรถยนต์ไฟฟ้าผ่านยอดกว่า 1.28 แสนคันในปี 2560 จาก 200 ประเทศทั่วโลก และเป็นหนึ่งในบริษัทที่ Warren Buffet เข้าไปลงทุนอีกด้วย

โดยทางแบรนด์ได้เข้าไปทำตลาดรถบัสไฟฟ้าทั้งในสหราชอาณาจักร และไต้หวัน โดยเป็นพาร์ทเนอร์ด้านผู้ผลิตรถบัสไฟฟ้าให้กับบริษัทขนส่งสาธารณะ ซึ่งก็ทำได้ค่อนข้างดี เพราะตอบโจทย์รัฐบาลที่นั่นที่ต่างต้องการสนับสนุนเรื่องพลังงานสะอาด และน่าจะทำตลาดไปถึงระบบขนส่งสาธารณะได้มากกว่าแค่ฝั่งเอกชนร่วมบริการด้วย

อย่างไรก็ตามทิศทางของรถบัสไฟฟ้าในประเทศจีนเองอาจไม่สวยงามนัก เพราะยอดขายกลับลดลงเหลือ 89,000 คันในปี 2560 จากปี 2559 อยู่ที่ 1.15 แสนคัน เพราะรัฐบาลเริ่มหันไปสนับสนุนรถบัสแบบ Hydrogen Fuel Cell มากขึ้น ซึ่งอาจจะกระทบกับการเปลี่ยนผ่านของตลาดรถบัสระดับโลกก็ได้

สรุป

แม้การเปลี่ยนผ่านของรถบัสไฟฟ้าน่าจะเกิดกับบริการขนส่งสาธารณะของรัฐบาลก่อน แต่หลังจากนั้นเมื่อทุกคนรู้ประโยชน์ของรถบัสไฟฟ้ามากขึ้น โอกาสที่บริษัทขนส่งเอกชนจะหันมาใช้รถยนต์แบบนี้ก็มีสูง เพราะเมื่อเทียบคุณสมบัติเรื่องการประหยัด และการซ่อมบำรุง ค่อนข้างคุ้มค่ากว่าจริงๆ

อ้างอิง // Business Insider

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา