เรื่องของรถยนต์ไฟฟ้ายังเป็น Talk of the Town อย่างต่อเนื่อง ค่ายรถยนต์ฝั่งอเมริกาและยุโรป มีความคืบหน้าเรื่องนี้ตลอด ขณะที่ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น มีเพียง Nissan รายเดียวที่ประกาศเรื่องนี้อย่างชัดเจน รวมถึงมีรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Nissan LEAF ออกมาทำตลาดแล้ว
ขณะที่พี่ใหญ่อย่าง Toyota ปฏิเสธที่จะลงทุนและพัฒนาอย่างจริงจัง Nissan ก็ขยับไปอีกขั้น โดยประกาศลงทุน 9.5 พันล้านดอลลาร์ในจีน ร่วมกับ ตงฟง มอเตอร์ (Dongfeng Motor) เป้าหมายคือผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างน้อย 20 รุ่นออกสู่ตลาดในปี 2022
ลงทุนใหญ่ เพิ่มสัดส่วนรถยนต์ไฟฟ้าเข้าตลาด
การประกาศลงทุนก้อนใหญ่ของ Nissan มีผลกระทบถึง Toyota และ Honda อย่างแน่นอน เป้าหมายของ Nissan คือเพิ่มยอดขายในจีน โดยจากเม็ดเงิน 9.5 ล้านดอลลาร์ จะมีรถยนต์ใหม่รวมมากกว่า 40 รุ่นออกสู่ตลาด โดยครึ่งหนึ่งจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า และรวมถึงรุ่นที่มีระบบ e-POWER ของ Nissan
สำหรับระบบ e-POWER เป็นการประยุกต์มาจาก Nissan LEAF โดยติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปขนาดเล็กเพื่อเป็นเครื่องปั่นไฟฟ้าพลังงานสูง สร้างกระแสไฟฟ้าชาร์จเข้ามาเก็บในแบตเตอร์รี่ โดยภายในประกอบด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง, เครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator), อินเวอร์เตอร์ (Inverter), และ มอเตอร์ไฟฟ้า แต่ตัวรถยนต์ไฟฟ้าจะขับเคลื่อนด้วยกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าเท่านั้น
เครื่องยนต์สันดาปภายในขนาดกะทัดรัดในทำหน้าที่ในการสร้างกระแสไฟฟ้าเข้ามาเก็บอยู่ตลอดเวลาเพื่อชดเชยกระแสไฟฟ้าที่ถูกใช้งานไป แตกต่างจากระบบไฮบริด ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กเชื่อมกับเครื่องยนต์สันดาป โดยมอเตอร์ไฟฟ้าจะไม่ทำงานในภาวะที่แบตเตอร์รี่มีกำลังไฟฟ้าต่ำ หรือขับด้วยความเร็วสูง
ในปี 2019 กลุ่ม Nissan Dongfeng จะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ 6 รุ่นภายใต้แบรนด์ Venucia และเพิ่มสัดส่วนไลน์การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเป็น 30% ในปี 2022
ขยับขึ้นสู่อันดับ 3 และเตรียมกดดันอันดับ 1 และ 2
กลุ่ม Nissan Dongfeng มียอดขายรถยนต์ทั้งหมด 1.52 ล้านคันในปี 2017 เพิ่มขึ้น 12% จากปี 2016 ขึ้นสู่อันดับ 3 แซงหน้า Hyundai (ฮุนได) จากเกาหลีใต้ รวมถึง Honda และ Toyota ไปแล้ว
ส่วนอันดับ 1 คือ Volkswagen จากเยอรมัน และ GM จากอเมริกา ทั้ง 2 แบรนด์มียอดขายแต่ละรายมากกว่า 4 ล้านคันต่อปี การลงทุนครั้งนี้ของ Nissan หวังว่าจะช่วยลดช่องว่างจากอันดับ 2 ให้แคบลง
สรุป
ถ้ารถยนต์ไฟฟ้าฝั่งตะวันตก เช่น Tesla กำลังมาแรง ฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่น Nissan ถือว่ามาไวกว่าค่ายอื่นๆ ทั้งการวิจัยพัฒนา ผลิตและทำตลาดไปแล้ว และเชื่อว่าการลงทุนอีก 9.5 พันล้านดอลลลาร์ในจีน เพื่อรับกระแสรถยนต์ไฟฟ้าที่บูมอย่างมาก น่าจะช่วยให้ Nissan และ Dongfeng โกยยอดขายได้อีกมาก และน่าจะมาถึงไทยเร็วกว่าที่คิด
source: asia.nikkei.com
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา