- BOUNCE กีฬาแนวใหม่ กระโดดกับแทรมโพลีน คน Gen Y ให้การตอบรับดี ปีนี้คาดรายได้ 100 ล้านบาท
- วางแผนขยายสาขาใหม่ 6 แห่งถึงปีหน้า พร้อมเพิ่มโซน x-park หรือโซนแอดเวนเจอร์ เพิ่มความสนุก ดึงดูดผู้เล่น
- เตรียมแผนขยายธุรกิจ 6 ประเทศ จีน, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, เกาหลี, ฟิลิปปินส์ และ เวียดนาม ให้บริการกว่า 50 สาขาใน 3 ปี
BOUNCE (บ๊าวซ์) โดยบริษัท BOUNCE INC (Thailand) ได้ลงทุนไปกว่า 300 ล้านบาท เพื่อดึงเอา กีฬากระโดดด้วยแทรมโพลีน จากออสเตรเลีย เข้ามาเปิดให้บริการในประเทศไทยเมื่อธันวาคม 2558 ที่ศูนย์การค้า The Street รัชดาภิเษก และได้รับการตอบรับอย่างดี จากช่วงแรกตั้งเป้าจับกลุ่มลูกค้านักเรียนนานาชาติ ซึ่งรู้จักกีฬาชนิดนี้ดีอยู่แล้ว แต่ด้วยเวลายังไม่ครบปี ปรากฏว่าคนไทยให้ความสนใจ และมาเล่นอย่างต่อเนื่อง
กระแสสุขภาพมาแรง BOUNCE เข้ามาถูกเวลา
สมพร นาคซื่อตรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ BOUNCE INC (Thailand) บอกว่า พฤติกรรมของคนไทยใส่ใจเรื่องสุขภาพและการออกกำลังกายมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้กิจกรรมด้านการออกกำลังในรูปแบบต่างๆ เริ่มได้รับความสนใจ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ BOUNCE เข้ามาทำตลาดในไทยครั้งแรก กลายเป็นการออกกำลังกายที่เรียกว่า Sportainment คือเป็นกีฬาที่มาพร้อมความบันเทิง และสามารถสนุกกับครอบครัวได้ ทำให้ BOUNCE เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมมากขึ้น
จากสถิติการเปิดให้บริการมาใกล้จะครบ 1 ปี พบว่า ผู้เล่น 70% เป็นคนไทย อีก 30% เป็นคนต่างชาติ โดยมีอายุตั้งแต่เด็กจนถึงวัยรุ่นตอนปลาย ในช่วงวันธรรมดามีผู้เล่นเฉลี่ยต่อวัน 600 – 800 คน ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ หรือหยุดยาวสัปดาห์ จะมีผู้เล่นเพิ่มเป็น 1,200 – 2,000 คนต่อวัน ถือว่ามีการตอบรับที่ดีเกินคาด ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะการสร้างแบรนด์ BOUNCE ที่ชัดเจนและแตกต่าง และการมีพนักงานคอยดูแลให้ความปลอดภัยตลอด สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้
เปิดสาขาที่ 2 เอ็มควอเทียร์ ยกระดับแบรนด์ BOUNCE
กลยุทธ์ของ BOUNCE คือ เปิดสาขาในศูนย์การค้าเท่านั้น เพราะพฤติกรรมคนไทยนิยมอยู่กับศูนย์การค้า เพราะสะดวกสบายกว่า มีจุดจอดรถ มีร้านอาหารและร้านค้าในตัวเอง หลังจากเปิดที่ The Street ซึ่งเป็น แทรมโพลีน อารีน่า ที่ใหญ่ที่สุดของ BOUNCE พื้นที่ 5,600 ตร.ม. ได้เตรียมเปิดสาขาที่ 2 ที่ เอ็มควอเทียร์ พื้นที่ 2,000 ตร.ม. เชื่อว่าจะช่วยยกระดับแบรนด์ BOUNCE ให้มีระดับมากขึ้น
พร้อมกันนี้ BOUNCE ที่ The Street จะเปิดโซนใหม่เพิ่มในชื่อ x-park เป็นเหมือนโซนแอดเวนเจอร์ ให้ผู้เล่นได้สนุกมากขึ้น โดยมีอุปกรณ์ลักษณะเดียวกับรายการ นินจาวอริเออร์ ให้ได้ทดสอบความแข็งแรงของร่างกาย เชื่อว่าจะสร้างความสนุกและดึงดูดให้ผู้เล่นใช้เวลากับ BOUNCE มากขึ้น จากปัจจุบันเฉลี่ยเล่นครั้งละ 2 ชั่วโมง โดยคิดค่าบริการเท่าเดิม คือ ผู้ใหญ่ 490 บาท/ชั่วโมง เด็ก 390 บาท/ชั่วโมง
ขยาย 6 สาขาทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัด พร้อมเตรียมบุกต่างประเทศ
มาร์ค จอบบลิงค์ ประธานบริษัท BOUNCE INC (Thailand) บอกถึง แผนการขยายในประเทศไทยนอกจากสาขา เอ็มควอเทียร์ที่กำลังจะเปิด ในปีนี้ 2560 มีแผนจะเปิดสาขาที่เซ็นทรัล บางนา พื้นที่ 3,000 ตร.ม. ซึ่งมีโซน x-park เพิ่มขึ้นมา และอยู่ระหว่างการเจรจาพื้นที่ย่าน ราชพฤกษ์ และ เจริญนคร ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายและกำลังซื้อที่ดี ขณะที่ต่างจังหวัดมีแผนเปิดให้บริการที่เซ็นทรัล นครราชสีมา ประมาณเดือน ก.ย. รวมทั้งหมดจะมี 6 สาขา และอยู่ระหว่างการดูพื้นที่ในจังหวัดขอนแก่นอีกแห่งหนึ่งด้วย
ส่วนแผนการลงทุนในต่างประเทศ ภายในปี 2560 จะร่วมลงทุนเพื่อขยายในอีก 6 ประเทศ โดยใช้งบลงทุนกว่า 100 ล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมาย เช่น จีน, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, เกาหลีใต้, ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม โดยตั้งเป้าเปิดให้บริการประมาณ 50-60 สาขา
สำหรับในปีนี้ BOUNCE คาดว่าจะมีรายได้ 100 ล้านบาท ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และในปีหน้าซึ่งมีสาขาเปิดเพิ่มขึ้นทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด คาดว่าจะมีรายได้ 350 – 400 ล้านบาท
ความรู้เกี่ยวกับการเล่น แทรมโพลีน
แทรมโพลีน เป็นรากฐานของการเล่นกีฬาเกือบทุกประเภท ได้ทั้งความสนุก ส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก และช่วยยืดกล้ามเนื้อที่เหมาะสมสำหรับการเพิ่มความสูงผ่านการออกกำลังกายกระตุ้นในแนวดิ่ง ซึ่งช่วยทำให้กระดูกหนา และแข็งแรงขึ้นจากการทำงานของฮอร์โมนที่ช่วยในเรื่องการเจริญเติบโต (Growth Hormone) โดยมีผลวิจัยว่า การบ๊าวซ์ อย่างสม่ำเสมอ สามารถช่วยยืดกระดูกได้ 2.5 – 5 เซนติเมตร
องค์การนาซ่า ระบุว่า การบ๊าวซ์บนแทรมโพลีน เป็นการออกกกำลังกายแนวดิ่งที่ต้องต้านทานกับแรงโน้มถ่วง ช่วยให้เซลล์มีความเคลื่อนไหวผ่านไปตามจุดต่างๆ ภายในร่างกาย หากเทียบเท่ากับการวิ่งจ๊อกกิ้งในระยะเวลาที่เท่ากัน การบ๊าวซ์สามารถเผาผลาญได้มากกว่า อีกทั้งช่วยลดต้นขา กระชับสะโพก และทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องแข็งแรง จัดอยู่ในกลุ่มการออกกำลังแบบโล-อิมแพค
การบ๊าวซ์บนแทรมโพลีน 10 นาที ช่วยบริหารกล้ามเนื้อหัวใจเทียบเท่ากับการวิ่ง 30 นาที โดยในรายงานกล่าวว่า หากต้องการเทียบอัตราการเต้นของหัวใจ และการสูบฉีดออกซิเจน ผลการศึกษาได้แสดงค่าไว้ว่า การออกกำลังที่ต้องใช้ทักษะสูง ดังเช่นการกระโดดบนแทรมโพลีน ให้ผลลัพธ์ที่สูงกว่าการวิ่ง
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา