Mitsubishi จรดปากกากับรัฐบาลเวียดนาม เดินหน้าพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า เพื่อเมืองปลอดมลพิษ

“เวียดนาม” เป็นอีกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีเศรษฐกิจเติบโต สังเกตจากตัวเลข GDP ในปี 2559 ที่เพิ่ม 6.2% และเหตุนี้เองก็ทำให้ตลาดรถยนต์โตก้าวกระโดด แต่ถ้าไม่มีอะไรคุม โอกาสเกิดมลพิษทางอากาศก็มีสูง

ภาพ pixabay.com

ตลาดรถยนต์โตเร็ว จึงรีบควบคุม

จากการเติบโตเฉลี่ย 38% ของตลาดรถยนต์ส่วนบุคคลในประเทศเวียดนามระหว่างปี 2555-2559 และคาดว่าปี 2563 จะมียอดจำหน่ายอยู่ที่ 2.25 แสนคัน ทำให้รัฐบาลที่นั่นต้องลงมาดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะถ้าปล่อยปละละเลย ก็คงจะเหมือนประเทศไทยที่มีปัญหาตั้งแต่ระบบโครงสร้างพื้นฐาน เช่นถนน จนไปถึงเรื่องมลพิษทางอากาศ

แต่ใช่ว่าทางรัฐบาลเวียดนามจะเดินหน้าศึกษาเรื่องนี้ด้วยตัวคนเดียว เพราะอาจไม่ได้มีความรู้ หรือประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก จึงตัดสินใจเซ็นบันทึกความร่วมมือ หรือ MOU กับ Mitsubishi Motors เพื่อช่วยกันวางรากฐานตั้งแต่การบริหารถนนหนทาง, มาตรการสนับสนุนอุตสาหกรรมนี้ จนไปถึงเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า

เนื่องจาก Tran Tuan Anh รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และการค้าของเวียดนาม มองว่า การได้ผู้มีประสบการณ์มาช่วยดูแล น่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวางมาตรการต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าทั้งประเภท EV และ Plug-in Hybrid ที่ต้องมีการสนับสนุนอย่างจริงจัง

สภาพจราจรในประเทศเวียดนาม // ภาพ pixabay.com

“เมื่อตลาดรถยนต์โตเร็ว สิ่งที่ตามมาคือการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมาก ซึ่งขัดกับนโยบายของประเทศที่ต้องการสร้างตั้งแต่ระดับเมืองให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ถ้าเราจริงจังกับรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ยอดขายรถยนต์ก็ยังเติบโตอยู่ แถมยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้เช่นเดียวกับที่รัฐบาลต้องการ”

ถ้าเจาะไปที่เรื่องรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ Mitsubishi จะเข้ามาช่วยรัฐบาลเวียดนามในการบริหารจัดการเรื่องมาตรการภาษี และการตั้งสถานีชาร์จไฟรถยนต์ตามที่ต่างๆ ที่สำคัญทาง Mitsubishi มีการเซ็นบันทึกความร่วมมือในลักษณะนี้กับประเทศฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซียแล้ว โดยไม่มีประเทศไทยแต่อย่างใด

สรุป

เมื่อตลาดรถยนต์โตเร็ว การเข้าไปดูแล แต่ไม่ใช่ควบคุมก็จำเป็น เพราะหากคุมกำเนิดไปเลย มันต้องกระทบต่อสภาพเศรษฐโดยรวมแน่ๆ แต่การปล่อยให้โตตามธรรมชาติ โดยใช้วิธีสนับสนุน พร้อมศึกษาหาทางพัฒนาอย่างยั่งยืน น่าจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องกว่า ซึ่งส่วนตัวมองว่าทางเวียดนามทำได้ดีแล้ว

ส่วนในประเทศไทยที่ตลาดรถยนต์เติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวมาระยะหนึ่งแล้ว ผ่านยอดขายรวมราว 9 แสนคัน แต่ไม่ได้มีการวางแผนอย่างชัดเจน ทั้งเรื่องถนน และล่าสุดอย่างเรื่องมาตรการรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเผลอๆ ทางเวียดนามอาจแซงเราในเรื่องนี้ก็ได้

อ้างอิง // The Japan TimesSOLIDIANCE

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา