ทำงานหนักทั้งปี โบนัสก็ไม่มี วันลาก็น้อยยยยน้อย สงสัยคงเหลือแค่ลาเดียวแล้วมั้ง คือลาออก

ปัจจุบัน ‘วันลา’ กลายเป็นเหมือนสิ่งล้ำค่าสำหรับมนุษย์เงินเดือนหลายคน เพราะนอกจากจะมีน้อยแล้ว บางองค์กรยังไม่ให้เก็บทบไปปีหน้าอีก ไม่รู้หวงอะไรนักหนา
แน่ล่ะว่า พอพูดแบบนี้ บางคนอาจคิดว่า ถ้าอยากลาเยอะๆ ก็ลาออกไปสิ เดี๋ยวให้ AI มาทำแทน
แต่เชื่อหรือไม่? ‘Jobsdb by SEEK’ แพลตฟอร์มหางานชั้นนำของไทย ไม่คิดเช่นนั้น แถมยังบอกว่า ถ้าองค์กรอยากมัดใจคนทำงานยุคนี้ได้ ก็ต้องเพิ่มวันลาและสวัสดิการ เพื่อยกระดับ ‘คุณภาพชีวิต’ ของพนักงานให้ดีขึ้น
Jobsdb by SEEK กล่าวว่า ท่ามกลางความท้าทายของการทำงานยุคใหม่ หลายองค์กรจึงเริ่มตระหนักถึงการดูแลคุณภาพชีวิตบุคลากรแล้ว และเริ่มวางแผนในการให้ความสำคัญด้านสุขภาวะของพนักงานมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
สิ่งเหล่านี้ Jobsdb by SEEK มองว่า สะท้อนถึงการเห็นคุณค่าในมนุษย์ ความเป็นอยู่ที่ดี ไปจนถึงความมั่นคงทางการเงินของพนักงาน ซึ่งล้วนเป็นกลยุทธ์สำคัญในการรักษาคนในองค์กรไว้อย่างยั่งยืน
เพิ่มวันลาเพื่อดูแลสุขภาพจิตและครอบครัว

เมื่อความสำคัญของสุขภาวะที่ดีเริ่มมีความหมายมากขึ้น ดังนั้น การลาหยุดเพื่อดูแลสุขภาพจิต รวมถึงครอบครัว จึงกลายเป็นหนึ่งในสวัสดิการที่มาแรงในยุคปัจจุบัน
Jobsdb by SEEK อธิบายว่า วันลาแบบนี้ นอกจากจะช่วยลดความเครียดแล้ว ยังนำมาเป็น ‘กลยุทธ์หลัก’ ที่องค์กรนำมาใช้ดึงดูดและรักษาบุคลากรมากความสามารถในยุคใหม่ได้อย่างดีด้วย
ด้าน ‘Hiring, Compensation & Benefits Report 2025’ ยังพบอีกว่า ทุกวันนี้ บริษัทจำนวนมากกำลังเพิ่ม ‘วันลาพิเศษ’ เพื่อตอบสนองความเป็นอยู่ที่ดีในทุกด้านของพนักงาน โดย
- 15% เพิ่มวันลาพิเศษเพื่อดูแลครอบครัว (Family Care Leave)
- 11% เพิ่มวันลาสุขภาพจิต (Mental Health Day Off)
นอกจากนี้ สวัสดิการ ‘วันลาในวันเกิด’ ยังคงติดอันดับวันลาที่คนทำงานสนใจและต้องการมากที่สุด เพราะถือเป็นหนึ่งในวิธีที่องค์กรจะสามารถทำให้บุคลากรเห็นว่า วัฒนธรรมการทำงานที่นี่ให้ค่าความเป็นมนุษย์นะ ไม่ใช่เครื่องจักรหรือหุ่นยนต์ที่ไม่มีความรู้สึกใดๆ
โบนัสที่ให้ก็ต้องชัดเจน โปร่งใส ตรวจสอบได้

อีกหนึ่งประเด็นที่องค์กรยุคใหม่ควรให้ความสำคัญคือ ‘โบนัส’ และ ‘การขึ้นเงินเดือน’
สำหรับการทำงานยุคใหม่นี้ สุขภาวะที่ดี ไม่ได้หมายถึงแค่สุขภาพจิตยอดเยี่ยม แต่รวมถึง ‘ความมั่นคงทางการเงิน’ ด้วยเช่นกัน ซึ่ง Jobsdb by SEEK เผยว่า นอกจากเงินเดือนที่ดีแล้ว ความโปร่งใสในการให้โบนัสหรือขึ้นเงินเดือนก็เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความไว้ใจให้พนักงานในระยะยาว
Jobsdb by SEEK ระบุว่า กว่า 79% ขององค์กรไทยเปิดเผยวิธีคำนวณและจ่ายโบนัสให้บุคลากรอย่างชัดเจน ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีของการสร้างระบบผลตอบแทนที่ตรวจสอบได้ กลายเป็นแรงเสริมในการสร้างความสัมพันธ์กับบุคลากร รวมถึงรักษาคนเก่งๆ ให้อยากทำงานที่นี่ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าทุกบริษัทต้องให้โบนัสพนักงานทุกคนเท่าๆ กันนะ เพราะ Jobsdb by SEEK บอกว่า 84% ขององค์กรไทยยังคงให้โบนัสตามผลงานอยู่ และกว่า 85% มีนโยบายปรับเงินเดือนเพิ่ม
งั้นต้องให้โบนัสหรือเพิ่มเงินเดือนเท่าไรล่ะ? สำหรับคำถามนี้ Jobsdb by SEEK อธิบายว่า ส่วนใหญ่แล้ว บริษัทในไทยจะปรับเงินเดือนเพิ่มราว 1-5% ขณะที่ค่าเฉลี่ยของโบนัสโดยรวมอยู่ที่ประมาณ 1.8 เดือน
Brand Inside มองว่า แม้ตัวเลขการปรับฐานเงินเดือน โบนัส และวันลาจะเป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อย แต่สิ่งที่หลายองค์กรควรให้คุณค่าด้วยเช่นกันก็คือ ความโปร่งใสในการคิดคำนวณผลตอบแทน รวมถึงวันหยุด เพื่อที่บุคลากรจะได้มีแรงจูงใจทำงานต่อไป ไม่ใช่ว่าทำงานหนักจนหมดปี ถึงค่อยรู้ว่า องค์กรนี้ไม่มีรางวัลให้คนขยัน
- การลาหยุด ลาพักผ่อนคือสิทธิ ผู้นำหรือองค์กรที่ดีต้องไม่สร้างความสับสนว่าลางาน = ทำผิด
- อยากออกก็ออกไม่ได้ ‘Quiet cracking’ สภาวะที่ต้องทำงานไปวันๆ เพราะคนน้อยลงแต่งานเท่าเดิม แถมยังหางานใหม่ยาก
-
Jobsdb by SEEK มองว่า การถูกเลย์ออฟไม่ใช่จุดจบ แค่ต้องย้ายไปอยู่ที่ๆ ใช่
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา