บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) หรือ NEO ผู้ผลิตสินค้าอุปโภค (FMCG) เจ้าของแบรนด์หลากหลาย เช่น D-nee, BeNice, Fineline และ Tros ตั้งเป้าปีนี้โตสวนเศรษฐกิจผ่านกลยุทธ์ “Segment Creator” ที่เปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคและเมกะเทรนด์ ให้กลายเป็นนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ (NPD) ที่เป็น Growth Engine ของธุรกิจอย่างแท้จริง

เพื่อเปลี่ยนจากการแข่งขันด้านราคาไปสู่นวัตกรรม เน้นไปที่การเติมเต็มช่องว่างความต้องการให้กับผู้บริโภคแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน (Unmet Need) โดยตอนนี้ ยอดขาย 9 เดือนแรกเติบโตได้มากกว่าตลาด ด้วย 4 ผลิตภัณฑ์ภายบใต้กลยุทธ์นี้ ได้แก่ D-nee Deluxe, BeNice EXOBRIGHT, Fineline 3 in 1 และ LovliTails
‘ปัทมา ถกลศรี’ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการพาณิชย์ บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ท่ามกลางตลาด FMCG ที่มีการแข่งขันสูง NEO ยังสามารถสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง ด้วยกลยุทธ์ Segment Creator ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างเซกเมนต์ใหม่ ๆ ในตลาด และตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เราได้พิสูจน์ความมุ่งมั่นนี้ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่พร้อมนวัตกรรม (NPD) มากกว่า 200 รายการ เพื่อตอบสนองความต้องการที่ยังไม่เคยถูกเติมเต็ม (Unmet Need) ของผู้บริโภคในทุกช่วงชีวิต
ความสำเร็จของกลยุทธ์ Segment Creator สะท้อนผ่านการนำเมกะเทรนด์ระดับโลก มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกกลุ่ม โดยปีนี้ NEO มุ่งเน้นหลายด้าน เช่น
- Aging Society
- Beauty Clinic Trend
- Active Lifestyle
- Pet Humanization
อย่างในกรณีของแบรนด์ใหม่อย่าง LovliTails ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง ‘ศิริสุภา อาจสัญจร’ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด ของ NEO เล่าว่าเป็นการออกแบรนด์โดยนำเมกะเทรนด์ที่เกิดขึ้นมาตอบโจทย์ของผู้บริโภค
ตัวสินค้าผ่านการพัฒนาโดยสัตวแพทย์ ใช้กลิ่นแบบ pet-friendly สารทำความสะอาดจากธรรมชาติ 100% โดยตอนนี้มีทั้งหมด 8 ผลิตภัณฑ์ เช่น แชมพู สเปรย์ดับกลื่น น้ำยาทำความสะอาดพื้น ตลอดจนสเปรย์บำรุงขนที่เพิ่งเปิดตัวออกมาใหม่ ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 100 ล้านบาท ภายใน 3 ปี

ศิริสุภา เล่าอีกว่า เบื้องหลังความสำเร็จของกลยุทธ์ Segment Creator คือการขับเคลื่อนด้วยสองแกนหลัก คือ นวัตกรรม (Innovation) และ การยกระดับผลิตภัณฑ์สู่ระดับพรีเมียม (Premiumization) หรือ Innovation-led Premiumization โดยโมเดลความสำเร็จจาก 4 ผลิตภัณฑ์นี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ที่ชัดเจนถึงแนวทางดังกล่าว ได้แก่:
- D-nee Deluxe (ตอบโจทย์เทรนด์ Aging Society): เจาะตลาด Silver Age ที่มีศักยภาพสูง ด้วยผลิตภัณฑ์ที่แก้ปัญหาเรื่องกลิ่นกายเฉพาะวัยได้อย่างตรงจุด จนสามารถสร้างยอดขายได้ถึง 100 ล้านบาท ภายใน 12 เดือน และมีอัตราการซื้อซ้ำที่สูงมาก ตั้งเป้ายอดขาย 500 ล้านบาท ภายใน 3 ปี
- BeNice EXOBRIGHT (ตอบโจทย์ Beauty Clinic Trend): นำนวัตกรรมความงามอย่าง Exosome มาสู่ผลิตภัณฑ์ สร้างการเติบโตให้ยอดขาย 15% หลังวางจำหน่ายเพียง 4 เดือน
- Fineline 3 in 1 (ตอบโจทย์เทรนด์ Active Lifestyle): แก้ Pain Point ของคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ รวม 3 ประสิทธิภาพการดูแลผ้าไว้ขั้นตอนเดียว ทั้งซักสะอาด ปรับผ้าหอมนุ่ม และรีดง่าย ช่วยประหยัดเวลาและตอบโจทย์ความสะดวกสบาย ตั้งเป้ายอดขาย 100 ล้านบาท ภายใน 6 เดือนนับจากออกจำหน่าย
- LovliTails (ตอบโจทย์เทรนด์ Pet Humanization): แบรนด์ใหม่ล่าสุดที่พัฒนาส่วนผสมจากธรรมชาติ เพื่อตอบโจทย์ Pet Parent
ศิริสุภาเล่าว่า เป้าหมายสำหรับกลุ่มสินค้า Premiumization คือต้องมียอดขายให้เติบโตจนมีสัดส่วนเป็น 10% ของยอดขายทั้งหมด โดยตอนนี้มีสินค้าหลากหลายอยู่ใน Pipeline เพื่อนำเสนอสินค้าที่ตอบโจทย์นวัตกรรมใหม่ ๆ
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา