กว่า 4% ของ GDP ประเทศไทยมาจากนักท่องเที่ยวชาวจีน สถิตินี้ยืนยันความสำคัญในแง่เศรษฐกิจอย่างมาก Tencent ประเทศไทยปิ๊งไอเดียให้นักธุรกิจไทยไปโฆษณาถึงประเทศจีน เวลามาไทยจะได้ซื้อง่าย ขายคล่อง
ถ้าขายของทัวร์จีนเป็นหลัก : WeChat Official Account คือโอกาส
WeChat อยู่ในตลาดไทยมาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่ไม่ได้รับความนิยมในแง่แอพพลิเคชั่นสำหรับการแชทมากนัก เพราะว่าในไทยมีแพลตฟอร์มแชทตัวอื่นๆ อย่าง LINE, Facebook, Twitter หรือในยุคสมัยหนึ่งเราก็ใช้ MSN กันอย่างแพร่หลาย กฤตธี มโนลีหกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า “แม้ WeChat จะไม่ได้เป็นแอพยอดฮิตในหมวดการแชท แต่ถ้าไปดูอันดับบน App Store ก็จะเห็นว่ายังติดในอันดับ Top 50 อยู่” (ล่าสุดที่ทีม Brand Inside สำรวจดูอันดับช่วงกลางเดือนธันวาคม 2017 WeChat อยู่อันดับที่ 60 บน App Store ใน iOS ประเทศไทย)
เมื่อรู้อยู่แล้วว่าทำตลาดสายแชทโดยตรงไม่ได้ การกลับมาทำตลาดครั้งนี้ของ WeChat จึงไม่ได้เน้นการแชทเป็นหลัก แต่หันไปเน้นด้านการทำสื่อ (Media) แทน โดยเปิดโอกาสให้ธุรกิจไทยไปลงโฆษณาบนแพลตฟอร์ม WeChat Official Account เพื่อทำให้คนจีนรู้จักแบรนด์และสินค้า เวลามาท่องเที่ยวในประเทศไทย จะได้ซื้อง่าย ขายคล่อง
โอกาสที่จะเกิดขึ้นคือ บน WeChat มีคนจีนที่ใช้งานอยู่ราว 980 ล้านคน แบ่งตามสัดส่วนได้ดังนี้
- 800 ล้านคนใช้ WeChatPay ในการจ่ายเงินแบบ e-Payment
- 90% ของผู้ใช้งาน Active ทุกวัน
- 80% ใช้ในการติดตามข่าวสารแบรนด์ต่างๆ
- เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ในจีนแล้ว เครือ Tencent มี traffic บนอินเทอร์เน็ตสูงที่สุดในจีน อยู่ที่ 56.7%
Tencent ขอลงมาจัดการด้วยตัวเอง พร้อมร่วมมือ Agency
ด้วยจำนวนผู้ใช้งาน WeChat ที่เป็นคนจีนมีสูงถึง 980 ล้านคน จึงไม่น่าแปลกใจที่ตลาดขนาดใหญ่และมีกำลังซื้อจะได้รับความสนใจอย่างมาก Agency หลายรายจึงเสนอให้นักธุรกิจไปทำสื่อโฆษณาในจีน แต่ประเด็นคือ ถ้าทำผ่าน Agency สิทธิ์ในการครอบครองหรือเป็นเจ้าของแบรนด์นั้นในจีนจะเป็นของ Agency ไม่ใช่แบรนด์นั้นๆ
- Tencent ประเทศไทยพยายามย้ำในประเด็นนี้ว่า กฎหมายของจีนมีความเข้มข้นและซับซ้อน เพราะมีมาตรฐานการตรวจสอบหลายชั้น เป็นต้นว่า ต้องมีบัญชีธนาคารที่ใช้งานในจีน หรือบิลโทรศัพท์ในจีนที่ย้อนหลังอย่างน้อย ได้ 3 เดือน
แต่การเข้ามาทำ WeChat Official Account จะไร้ปัญหาข้างต้นทั้งหมด หากร่วมมือกับ Tencent ประเทศไทย เพราะทาง Tencent ประเทศไทยจะร่วมมือทำงานกับทางต้นสังกัดในจีน ส่วนระบบโฆษณาบน WeChat จะทำงานผ่าน Tencent Social Ads (TSA) ที่สามารถเจาะจงลูกค้าเฉพาะกลุ่มได้ “ไม่ใช่ว่าลงโฆษณาไปแล้วคนจีนจะเห็นกว่า 900 ล้านคน แต่สามารถเฉพาะเจาะจงไปที่กลุ่มคนจำนวนหนึ่งได้ อย่างประเทศไทยก็สามารถเลือกให้เห็นเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนที่กำลังจะมาเที่ยวประเทศไทย เราก็ทำได้ และแม่นยำด้วย”
ทีนี้โอกาสที่นักธุรกิจชาวไทยจะทำขายสินค้าและบริการให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนมีอะไรบ้าง?
- 4% ของ GDP ไทยมาจากนักท่องเที่ยวจีน หรือคิดเป็นเงินจำนวน 4.5 แสนล้านบาทต่อปี
- 26% ของนักท่องเที่ยวที่มาไทยเป็นคนจีน คิดเป็นจำนวน 9.5 ล้านคน (ปี 2018 อาจสูงถึง 10 ล้านคน)
- ในจำนวนนี้ 55% ใช้จ่ายไปกับอาหารและของว่าง รองลงมาคือ 44% ช้อปปิ้งสินค้าในไทย
- 52% ของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาไทยไป Duty Free ส่วนอีก 26% ไปตามร้านค้าปลีกต่างๆ
แล้วถ้านักธุรกิจไทย อยากใช้งานต้องทำอย่างไรบ้าง?
อันดับแรกเปิด WeChat Official Account ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่หลังจากนั้นถ้าต้องการลงโฆษณาในประเทศจีน ควรทำ Verify โดยในส่วนนี้ Tencent จับมือกับ Third Party มีค่าใช้จ่ายที่นักธุรกิจต้องจ่ายเงินเป็นรอบปี ปีละ 120 เหรียญต่อปี (Tencent แนะนำว่า ควรทำ เพราะคนจีนที่เห็นสัญลักษณ์ Verify จะมีความมั่นใจในแบรนด์)
หลังจากนั้น ถ้าต้องการลงโฆษณาบน WeChat Official Account ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นจะอยู่ที่ 1 หมื่นเหรียญ หรือประมาณ 3.25 แสนบาท ใช้เวลาดำเนินการประมาณ 4 – 8 สัปดาห์
“เรามองว่าเงินจำนวนนี้ไม่ได้สูงเกินไป เป็นราคาที่แข่งขันได้ในตลาด การสร้าง awareness กับนักท่องเที่ยวในจีนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้าเค้ามั่นใจในแบรนด์ เวลาที่เดินทางมาท่องเที่ยวในไทย เขาจะซื้อของได้อย่างสบายใจ”
สรุป
เป็นโอกาสที่นักธุรกิจชาวไทยจะสามารถนำเสนอแบรนด์ของตนเองในจีนให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนโดยตรง การทำ WeChat Official Account ผ่าน Tencent โดยตรงจะสร้าง awareness ให้กับแบรนด์ เพราะทางทีมงานมีหน่วยที่ดูแลในการแปลภาษาโดยตรง และยังสามารถสื่อสารได้ตรงจุดด้วยเครื่องมือจัดการ TSA ของ Tencent
ปัญหาจึงอยู่ที่ว่า การโฆษณาลักษณะนี้เหมาะกับธุรกิจขนาดกลางขึ้นไป เพราะด้วยราคาโฆษณาเริ่มต้นที่หลัก 1 หมื่นเหรียญหรือประมาณ 3.25 แสนบาท ทำให้ธุรกิจรายย่อยอาจไม่มีทุนทรัพย์ในการเข้าถึง อย่างไรก็ตาม Tencent ประเทศไทยค่อนข้างชัดเจนว่าจะเริ่มจากธุรกิจที่มีศักยภาพก่อน โดยตั้งเป้าในปี 2018 ไว้ว่าจะทำเงินจากส่วนการลงโฆษณาได้ประมาณ 50 – 100 ล้านบาท
ที่สำคัญ ด้วยศักยภาพของเบอร์ 4 ในหมวดบริษัทอินเทอร์เน็ตระดับโลก มีมูลค่าทั้งหมดรวมกว่า 5 แสนล้านเหรียญ Tencent พร้อมจะแข่งในตลาดและฟาดฟันกับรายอื่นๆ ทั้งในและนอกประเทศจีนไปอีกนาน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา