เจ้าพ่อ Search ของโลกอย่าง กูเกิล เปิดตัวบริการใหม่ Google Duo หรือบริการวิดีโอคอลล์ โทรหากันเห็นหน้ากันได้ ถึงแม้ว่าจะมีแอปพลิเคชั่นอื่นๆ ออกมาให้ใช้กันก่อนหน้านี้เยอะแล้ว แต่ยังมี 8 สิ่งที่ Google Duo จะสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้น ลองไปดูพร้อมๆ กันว่ามีอะไรบ้าง
1 Google Duo วิดีโอคอลล์บนมือถือสำหรับทุกคน ทั้ง Android เวอร์ชั่นตั้งแต่ Jelly Bean ขึ้นไปและ iOS เวอร์ชั่น 9 ขึ้นไป ใช้ได้ทุกคนขอแค่มีแอปในมือถือ และเปิดให้ใช้งานทั่วโลก
2 โทรจากเบอร์มือถือ (Phone-number based) ไม่ต้องสร้างบัญชีผู้ใช้ (ไม่ต้องมีบัญชี Google ด้วย) ขอแค่มีหมายเลขโทรศัพท์ และทั้งคู่ดาวน์โหลด Google Duo มาไว้ในเครื่อง ก็วิดีโอคอลล์กันได้ทันที
3 Knock Knock เป็นฟีเจอร์ของ Google Duo ช่วยให้ก่อนจะรับสาย เราได้เห็น Live Video ว่าใครโทรมา (เพื่อตัดสินใจได้ว่าจะรับวิดีโอคอลล์นั้นหรือไม่) แต่ฟีเจอร์นี้ก็สามารถปิดได้ (แปลว่าโทรมาไม่มี Live Video ให้ดูก่อน) และแน่นอนว่า ถ้าไม่ชอบใจ กดเข้า Setting แล้วทำการ Block เบอร์โทรนี้ได้เลย
4 ใช้ได้ทั้งไว-ไฟ และสัญญาณมือถือ แปลว่า ระหว่างโทรหากันไม่ว่าจะอยู่บนสัญญาณอินเทอร์เน็ตแบบไหน ก็ใช้งานได้ดี และยังสลับระหว่างไว-ไฟ และสัญญาณมือถือได้โดยไม่ต้องกลัวสายหลุด
5 นี่คือ 1 ต่อ 1 วิดีโอคอลล์ ชื่อก็บอกแล้วว่า Duo นั่นคือโฟกัสที่การคุยแบบ 1 ต่อ 1 ไม่เน้นกรุ๊ปนะจ๊ะ
6 เร็วกว่าแอปวิดีโอคอลล์อื่นๆ ทาง Google Duo ถึงกับต้องขอโทษแอปอื่นๆ เพราะนี่คือ วิดีโอคอลล์ที่ติดต่อได้เร็วที่สุด แม้ว่าสัญญาณมือถือจะช้าไปบ้างก็ตาม
7 ทำงานได้ดีแม้สัญญาณไม่ดี อย่างที่บอกในข้อที่แล้ว แม้ว่าสัญญาณมือถือจะช้า เช่นในเขตพื้นที่ 2G แต่ Google Duo ก็ยังสามารถใช้งานได้ แต่คุณภาพก็อาจจะต้องลดลงบ้าง เพื่อความเหมาะสม และถ้าสัญญาณจะแย่มากๆ ก็อาจจะหยุดภาพไว้ แต่ยังคงพูดคุยกันด้วยเสียงต่อไปได้
8 หายห่วงเรื่องความปลอดภัย วิดีโอคอลล์ของ Google Duo มีการเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัย การคุยกันเป็นเรื่องของคนสองคนเท่านั้น (ยกเว้นจะมีคนนั่งอยู่ข้างๆ)
ทดลองใช้งานจริงกันดีกว่า
ทาง Brand Inside ได้รับเกียรติจาก กูเกิล ประเทศไทย ให้ได้ทดลองใช้งาน Google Duo ในรอบ Tester โดยใช้ Samsung Galaxy Note 5 และ iPad mini จากการทดลองใช้งานพบว่า
- เปิดเข้าแอป จะเจอปุ่มให้กดโทร เมื่อกดแล้วจะเชื่อมเข้ากับ Contact List ซึ่งหากใครมี Google Duo ก็สามารถโทรหาได้ทันที แต่ถ้าไม่มี ก็ต้อง Invite กันนิดนึง
- กดโทรติดได้รวดเร็วจริงๆ รู้สึกได้ เพราะกดปั๊บโทรออกทันที (ถ้าคู่สายรับเร็วด้วย จะยิ่งเร็วมาก)
- ในพื้นที่สัญญาณดีให้ภาพที่คมชัด และการเชื่อมต่อระหว่าง ไว-ไฟ กับ สัญญาณมือถือ (เซลลูลาร์) ทำได้ดี
- ถ้ากดออกจากแอป โดยไม่ได้กดวางสาย จะกลายเป็นการ Pause Video (ปิดภาพวิดีโอ) แต่ยังคุยด้วยเสียงได้ (จนกว่าจะกดวางสาย) และถ้าเปิดแอปขึ้นมา ก็จะเป็นวิดีโอคอลล์ต่อทันที
- การใช้งาน Knock Knock ใช้ได้กับมือถือ Android เท่านั้น (ยังไม่เปิดสำหรับ iOS) ทำให้เห็นพรีวิวก่อนรับสาย
- การโทรระหว่าง Android กับ iOS ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ทางกูเกิลได้ทำการสำรวจตลาดในสหรัฐอเมริกา พบว่า
- 46% ของประชาชนผู้ใหญ่ชาวสหรัฐ ไม่เคยใช้วิดีโอคอลล์บนโทรศัพท์มือถือเลย
- แต่กระนั้น 7% ของผู้ใหญ่อเมริกันชน ใช้วิดีโอคอลล์ทุกวัน (แสดงว่าติดใจ)
- สำหรับคนที่ใช้บ่อยที่สุดคือ คนอายุ 25-34 ปี โดย 13% ใช้งานทุกวัน
- 34% ของอเมริกันชน บอกว่าจะหงุดหงิดมากเวลาใช้วิดีโอคอลล์แล้ว โครงข่ายไม่ดี หรือสายหลุด
- 17% ของอเมริกันชน ยังบอกอีกว่า ไม่แน่ใจกับการใช้วิดีโอคอลล์
- 1 ใน 6 เลือกไม่ใช้วิดีโอคอลล์ เพราะรู้สึกว่าเป็นการรบกวนคนที่โทรไป ดังนั้นจึงหวังว่าฟีเจอร์ Knock Knock จะช่วยได้
สรุป
แม้ว่า Google Duo จะออกมาช้ากว่าใครเพื่อนนานมาก โดยก่อนหน้านี้หลายคนอาจจะใช้ Face time, Line Video Call หรือ การโทรวิดีโอคอลล์โดยตรง แต่ดูจากพฤติกรรมการใช้วิดีโอคอลล์ก็ยังไม่ได้แพร่หลายมากนัก ดังนั้นการมาช้าของ Google Duo ก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร และด้วยจุดเด่นคือ การโทรติดเร็ว ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก มีระบบการทำงานรวมๆ ที่ User Friendly พอสมควร
จากนี้ต้องมาดูกันว่า กูเกิล จะต่อยอดบริการ Google Duo นี้อย่างไร จะทำให้คนหันมาใช้งานวิดีโอคอลล์กันมากขึ้นได้หรือไม่
Meet Duo from Google, a new way to video call
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา