สร้าง Wealth ด้วย Food Waste จัดการขยะอาหารแบบ CP AXTRA สร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนให้เกษตรกรไทย

ขยะอาหาร (Food Waste) เป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญระดับโลก ข้อมูลจากรายงาน Food Waste Index 2024 ของ UNEP ระบุว่ามี Food Waste เกิดขึ้นมากกว่า 1,000 ล้านตันต่อปี ประเทศไทยที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศศูนย์กลางด้านอาหารของโลก จากข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษก็มีขยะอาหารเกิดขึ้นกว่า 10 ล้านตันต่อปีเช่นกัน

ปัญหาขยะอาหารไม่เพียงเกี่ยวข้องกับมิติด้านสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นประเด็นสำคัญต่อเศรษฐกิจและสังคมด้วย ทุกปีมีอาหารกว่า 1 ใน 3 ของอาหารที่ผลิตขึ้น ถูกทิ้งหรือไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ แต่รู้หรือไม่ว่าขยะอาหารที่หลายคนมองข้าม หากมีการจัดการอย่างสร้างสรรค์สามารถเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้ให้เกิดมูลค่าและประโยชน์ สร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้

และหนึ่งในบริษัทที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนการลดขยะอาหารมาโดยตลอด คือ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) เจ้าของแบรนด์ค้าส่งค้าปลีก แม็คโคร – โลตัส” ได้ตอกย้ำความมุ่งมั่นว่า “ความยั่งยืนเป็นรากแก้วขององค์กร” ด้วยการประกาศวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ ควบคู่ไปกับการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืน และเป็นจังหวะที่ตรงกับ International Day of Awareness of Food Loss and Waste ในวันที่ 29 ก.ย. ของทุกปี ทำให้การเคลื่อนไหวครั้งนี้น่าสนใจมากยิ่งกว่าเดิม

AXTRA Zero Waste เมื่อค้าปลีกตั้งเป้าใหญ่ “การลดขยะอาหารสู่หลุมฝังกลบเป็นศูนย์ภายในปี 2573“

ซีพี แอ็กซ์ตร้า ไม่ได้มองปัญหาขยะอาหารเป็นเพียงกิจกรรมเพื่อสังคม แต่ยกระดับเป็นยุทธศาสตร์หลักทางธุรกิจผ่านโครงการ ลดทิ้ง สร้างค่า AXTRA Zero Waste” ซึ่งตั้งเป้าหมายที่ท้าทายอย่างยิ่ง คือ ลดขยะอาหารสู่หลุมฝังกลบให้เป็นศูนย์ (Zero Food Waste to Landfill) ภายในปี 2573

แนวคิดสำคัญของโครงการนี้ คือการนำนวัตกรรมสีเขียว (Green Innovation) เข้ามาเปลี่ยน “ขยะ” ที่เคยถูกทิ้ง ให้กลายเป็น “ทรัพยากร” ที่สร้างประโยชน์คืนสู่สังคม เกษตรกร และสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิดหลัก ขยะเป็นศูนย์ ประโยชน์เป็นแสน (From Waste to Wealth)”

นวัตกรรมแมลงโปรตีน BSF เปลี่ยนอาหารส่วนเกินสู่การสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน

จุดน่าสนใจที่สุดของโครงการนี้ คือการนำนวัตกรรมสีเขียวเข้ามาใช้แก้ปัญหาอย่างครบวงจร โดยเริ่มต้นจากการมอบอาหารส่วนเกิน จากสาขาของแม็คโครและโลตัสทั่วประเทศ ส่งต่อให้เกษตรกร เพื่อใช้เลี้ยง แมลงโปรตีน BSF (Black Soldier Fly)

แมลงโปรตีน BSF ไม่ใช่แค่แมลงธรรมดา แต่คือ “โรงงานแปรรูปขยะอินทรีย์ด้วยวิธีชีวภาพ” ให้เกิดประโยชน์ โดยจากข้อมูลพบว่า

  • แมลงโปรตีน BSF มีโปรตีนสูงถึง 50% อุดมไปด้วยโปรตีนและกรดอะมิโนจำเป็น รวมถึงไขมันดีอย่าง โอเมก้า 3, 6, 9 ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเป็นอาหารสัตว์คุณภาพสูง
  • จัดการขยะอาหารได้เร็วกว่า การใช้แมลงโปรตีน BSF สามารถกำจัดขยะอาหารได้เร็วกว่าการทำปุ๋ยถึง 45 เท่า ช่วยลดปัญหาขยะอาหารได้เป็นอย่างดี

โมเดลนี้ได้สร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนที่จับต้องได้ โดยแมลงโปรตีน BSF ที่เติบโตเต็มที่ จะถูกนำไปแปรรูปเป็นอาหารสำหรับสัตว์ เช่น “จิ้งหรีด” เป็นต้น ก่อนจะต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มหลากหลายชนิด เช่น จิ้งหรีดทอดกรอบ, ผงโปรตีนจิ้งหรีด ซึ่งช่วยลดต้นทุนค่าอาหารสัตว์ และสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้แก่เกษตรกร

ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น “มูล” ของแมลงโปรตีน BSF ยังสามารถนำไปใช้เป็นปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงสำหรับปลูกผักออร์แกนิก เช่น “ผักเคล” ซึ่งถูกนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ ‘แคบเคล’ สร้างมูลค่าเพิ่มอีกทอดหนึ่ง เรียกได้ว่าเป็นการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทุกส่วนอย่างแท้จริง

และยังเพิ่มความน่าสนใจยิ่งขึ้น ด้วยการนำแมลงโปรตีน BSF ไปพัฒนาเป็น ผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง (Pet Food) สร้าง Ecosystem การจัดการขยะอาหารที่สมบูรณ์ สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ข้อที่ 12 การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน

ขยะเป็นศูนย์ ประโยชน์เป็นแสน ไม่ใช่แค่แนวคิด แต่คือการลงมือทำจริงในทุกสาขาของแม็คโคร–โลตัส ภายใต้ซีพี แอ็กซ์ตร้า โดยการนำนวัตกรรมสีเขียวมาจัดการขยะอาหาร เปลี่ยนสิ่งที่เคยถูกทิ้งให้กลับมาสร้างคุณค่าแก่สังคม เกษตรกร และสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน

นี่คือบทพิสูจน์ที่ชัดเจนว่า ธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่สามารถเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงได้ นวัตกรรมสีเขียวของ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ไม่เพียงช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่ยังสร้างประโยชน์ร่วมกันให้กับทุกภาคส่วน ตั้งแต่ผู้บริโภค เกษตรกร ชุมชน และสังคม นับเป็นการตอกย้ำความสำเร็จในการ ‘เปลี่ยนขยะเป็นประโยชน์’ อย่างเป็นรูปธรรม และกำลังปูทางไปสู่ภาพอนาคตของ ค้าปลีกไร้ขยะ” ที่ไม่ใช่แค่ความฝันอีกต่อไป

#cpaxtra #ซีพีแอ็กซ์ตร้า #makroxlotuss #แม็คโครโลตัส #ลดทิ้งสร้างค่าaxtrazerowaste #ขยะเป็นศูนย์ประโยชน์เป็นแสน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา