เปิดมุมมอง 5 ต้นแบบผู้หญิง STEM พลังขับเคลื่อนสังคมไทยสู่อนาคต

เมื่อเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์เป็นพลังขับเคลื่อนนวัตกรรมและความสามารถในการรับมือความเปลี่ยนแปลงแห่งโลกอนาคต ความรู้ด้าน STEM (Science, Technology, Engineering, Mathematics) จึงกลายเป็นกุญแจสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืน แต่ในสนามวิชาชีพที่เต็มไปด้วยตัวเลข สมการ และระบบซับซ้อน ทั้งยังเป็นสายงานที่มีโอกาสก้าวหน้าและเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน ทว่าผู้หญิงกลับยังมีบทบาทน้อยเกินไป ทั้งจากกรอบทางสังคมที่มีมาเนิ่นนาน ทัศนคติและภาพจำที่ผู้คนมีต่อแต่ละเพศ และการขาดแบบอย่างที่สร้างแรงบันดาลใจ จากข้อมูลของ World Economic Forum ปี 2025 พบว่า ผู้หญิงมีสัดส่วนเป็น 28.2% ของแรงงานทั้งหมดทั่วโลกที่ทำอาชีพสาย STEM และมีเพียง 1 ใน 10 คนเท่านั้นที่ได้ก้าวสู่บทบาทผู้บริหารระดับสูง

Sea (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล Garena, Shopee และ Monee ร่วมกับพันธมิตรหลัก ได้แก่ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.), InsKru และ a-chieve เดินหน้าโครงการ “Women Made: Girls in STEM” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยเปิดพื้นที่ให้เยาวชนหญิงได้เรียนรู้ ลงมือทำ และพบปะ “ผู้หญิงต้นแบบ” ที่ใช้พลังแห่ง STEM เปลี่ยนโลกอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อจุดประกายแรงบันดาลใจ สร้างทางเลือกอาชีพให้คนรุ่นใหม่ หนึ่งในกิจกรรมเด่นภายในงานคือกิจกรรม Human Library โดยทีม a-chieve ที่ชวนเปิดบทสนทนาแบบใกล้ชิดกับต้นแบบอาชีพจริงกว่า 20 สายอาชีพ

และนี่คือ 5 เรื่องราวผู้หญิงต้นแบบในสาย STEM จากกิจกรรมดังกล่าวที่สะท้อนว่า เมื่อมีโอกาสได้ลงมือ และได้รับการสนับสนุนอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าใครก็สามารถ “สร้างการเปลี่ยนแปลง” ที่ยิ่งใหญ่ได้

เพราะอาหารคือยาที่ดีที่สุด

ภัสราภรณ์ สำเภานนท์ — นักกำหนดอาหาร โรงพยาบาลรัฐ 

“คุณแพตตี้ – ภัสราภรณ์ สำเภานนท์” นักกำหนดอาหารประจำโรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ ต้นแบบผู้หญิงที่ใช้ “อาหาร” เป็นเครื่องมือดูแลสุขภาพและป้องกันโรคอย่างยั่งยืน เส้นทางอาชีพของเธอไม่ได้เริ่มจากห้องทดลองหรือความหลงใหลตำราวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่เกิดจากความรักในการทำอาหาร และคำถามที่เรียบง่าย ว่า “อาหารส่งผลต่อร่างกายอย่างไร?” นำเธอเข้าสู่การเรียนด้านโภชนาการและการกำหนดอาหารที่มหาวิทยาลัยมหิดล และต่อยอดสู่การทำงานในโรงพยาบาลรัฐ ด้วยความเชื่อมั่นว่าอาหารคือยาที่กำหนดคุณภาพชีวิต สุขภาพจิต และอายุขัยของผู้คน

คุณแพตตี้เล่าว่า “อาชีพนี้เต็มไปด้วยความท้าทาย ทั้งการรับมือกับข้อมูลโภชนาการที่ผิดพลาดบนโลกออนไลน์ โรคใหม่ที่ซับซ้อน และการทำงานใกล้ชิดกับบุคลากรการแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาแบบองค์รวม ทั้งยังต้องมีทักษะการสื่อสาร รับฟัง และการเข้าใจผู้ป่วยแต่ละรายอย่างแท้จริง เพื่อปรับแผนการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละคน เพราะโภชนาการเป็นศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และอยากใช้ ‘อาหาร’ เป็น ‘ยา’ มากกว่าการใช้ยารักษาโรค”

นอกเหนือจากงานประจำ คุณแพตตี้ยังเข้าร่วมโครงการส่งเสริมสุขภาพชุมชน เดินทางลงพื้นที่ชนบทเพื่อถ่ายทอดความรู้ด้านโภชนาการที่ถูกต้องแก่ประชาชน และพบว่าหลายชุมชนยังเข้าไม่ถึงข้อมูลสุขภาพที่ถูกต้อง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว

“เราพบว่าหลายคนมีโรคประจำตัว แต่ไม่รู้ว่าจะดูแลตัวเองอย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เรารู้สึกว่าความรู้ที่มีเป็นประโยชน์ต่อคนจำนวนมาก และช่วยให้คนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงมีสุขภาพดีขึ้น ทุกครั้งที่เห็นผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ยิ่งทำให้เรามีความสุขและก้าวต่อไปบนเส้นทางอาชีพนี้อย่างมีความหมาย” คุณแพตตี้กล่าว

สำหรับคุณแพตตี้ นักกำหนดอาหารที่ดีไม่ใช่เพียงผู้ให้คำแนะนำ แต่ต้องเป็นที่ปรึกษาที่รับฟังด้วยหัวใจและเข้าใจความแตกต่างของแต่ละคน เธอเชื่อว่าเมื่อศักยภาพของผู้หญิงในสายอาชีพนี้ได้รับการยอมรับ ก็จะแปรเปลี่ยนเป็นพลังที่ขับเคลื่อนสังคมสู่สุขภาพที่ยั่งยืนได้

พลังผู้หญิงที่สร้างความเปลี่ยนแปลงในสายวิศวกรรม 

ผศ.ดร. เมทินี จรรยาสุภาพ — อาจารย์สถาบันวิทยาศาสตร์การวิเคราะห์และตรวจสารในการกีฬา มหาวิทยาลัยมหิดล

เบื้องหลังความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี มักมี “ครู” เป็นผู้จุดประกายให้คนรุ่นใหม่ก้าวสู่การเป็นนักคิด นักพัฒนา และนักสร้างสรรค์ “ผศ.ดร. เมทินี จรรยาสุภาพ” อาจารย์ประจำสถาบันวิทยาศาสตร์การวิเคราะห์และตรวจสารในการกีฬา มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ทำหน้าที่มากกว่าการให้ความรู้ แต่เป็น “ครูที่ปรึกษาชีวิต” คอยชี้แนะแนวทางให้นักศึกษาเดินต่ออย่างมั่นคง

เส้นทางของอาจารย์เมเริ่มต้นจาก “อาการป่วยของระบบประสาท” ผลักให้ศึกษาด้านวิศวกรรมชีวการแพทย์ ด้วยความมุ่งมั่นค้นหาคำตอบและแนวทางรักษา จนได้ทุนไปศึกษาต่อระดับปริญญาเอกที่ Case Western Reserve University สหรัฐอเมริกา และนำความรู้มาแก้ปัญหาสุขภาพของตัวเองจนกลับมาเดินได้อีกครั้ง จากประสบการณ์ทำให้เชื่อมั่นในพลังของวิศวกรรม ที่เชื่อมโยงกับการแพทย์และวิทยาศาสตร์ ไม่เพียงช่วยรักษาชีวิต แต่สร้างนวัตกรรมที่เปลี่ยนโลกได้

แม้วงการวิศวกรรมถูกมองว่าเป็นพื้นที่ของผู้ชาย แต่อาจารย์เมพิสูจน์แล้วว่าผู้หญิงก็ยืนหนึ่งได้อย่างสง่างาม เพราะงานวิจัย “เซนเซอร์ในน้ำยาฟอกไต” เพื่อผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง และ “ซอฟต์แวร์แปลงอักษรเบรลล์” เป็นภาษาไทยและอังกฤษ เพื่อผู้พิการทางสายตา ทั้งสองโครงการสะท้อนพลังผู้หญิงในการสร้างนวัตกรรมลดความเหลื่อมล้ำและเปลี่ยนชีวิตผู้คนได้จริง

“เรามองว่าจุดแข็งของผู้หญิง คือ ทักษะการจัดการ และความเข้าใจในมนุษย์ เมื่อผสานกับองค์ความรู้ด้านเคมีและไฟฟ้าของเรา ยิ่งเสริมศักยภาพการทำงานให้ดีขึ้น ซึ่งความแตกต่างทางเพศอาจไม่ใช่อุปสรรค หากเราแสดงออกด้วยท่าทีที่เหมาะสม จะสามารถสร้างความกลมกลืนในสายงานนี้ได้” อาจารย์เมกล่าว

ในบทบาทของอาจารย์ เธอไม่เพียงถ่ายทอดวิชา แต่เป็นผู้แนะแนวชีวิตให้กับนักศึกษา เพื่อให้เยาวชนก้าวต่อบนสายอาชีพที่ชอบได้อย่างมีความสุข

 “หลายคนไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร คิดว่าชอบคณิตศาสตร์เลยเลือกวิศวะ เราจึงทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา จุดประกายให้นักศึกษาค้นพบตัวเอง และเลือกเดินบนเส้นทางการเรียนหรือสายอาชีพที่ใช่ ยิ่งไปกว่านั้นทักษะภาษาอังกฤษ ยังเป็นใบเบิกทางให้เติบโตในสายงานได้จริง ๆ เราตั้งใจที่จะบ่มเพาะเมล็ดพันธ์ที่ดี เพราะอาชีพครูไม่ใช่แค่ให้ความรู้ แต่ต้องสร้างคนคุณภาพ เพื่อเป็นกำลังขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจ

เรื่องราวของอาจารย์เม คือบทพิสูจน์ว่า “ผู้หญิงในวิศวกรรม” ไม่เพียงเป็นครูผู้ถ่ายทอดความรู้ แต่ยังเป็นผู้นำทางความคิด ผู้สร้างนวัตกรรม และแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่กล้าที่จะเปลี่ยนโลกในแบบของตนเอง

ใช้ตัวเลขวางแผนอนาคตทางการเงิน

วรินท์ณดา ทุมวงษ์ – นักวางแผนการเงิน (Certified Financial Planner: CFP) 

ในโลกที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงและความไม่แน่นอน ตัวเลขจึงไม่ใช่แค่สถิติในสมุดบัญชี แต่คือเครื่องมือป้องกันความเสียหายตั้งแต่ระดับบุคคลไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ และผู้อยู่เบื้องหลังการวางแผนความมั่นคงนั้นคือ “คุณณดา – วรินท์ณดา ทุมวงษ์ นักวางแผนการเงิน CFP” สายงานที่อาศัยใจรักด้านคณิตศาสตร์ ความรอบคอบ และการสื่อสารที่เฉียบคม

“นักวางแผนการเงิน CFP คือที่ปรึกษารอบด้าน ทั้งการออม การเกษียณ ภาษี ประกันภัย ไปจนถึงการส่งต่อทรัพย์สิน เพื่อให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายชีวิตอย่างมั่นคง ซึ่งความท้าทายของสายงานนี้ไม่ใช่ความรู้ทางคณิตศาสตร์ หรือมายาคติทางเพศ แต่เป็นการสื่อสารเรื่องตัวเลขให้ผู้คนเห็นความมั่นคงของชีวิต และความละเอียดรอบคอบในการวิเคราะห์ ประเมิน และวางแผน เพื่อนำความรู้ทางการเงินมาปกป้องความฝันของทุกคน” คุณณดากล่าว

ด้วยความหลงใหลในตัวเลขตั้งแต่เด็ก คุณณดาเลือกเดินบนเส้นทางนี้อย่างมั่นใจ และก้าวสู่อาชีพ “นักวางแผนการเงิน CFP” 1 ในเพียง 800 คนของไทย ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสากลจากสมาคมนักวางแผนการเงิน (Financial Planning Standards Board – FPSB) นับเป็นสายอาชีพที่เต็มไปด้วยพลังผู้หญิง

“การโลดแล่นในสายอาชีพนี้กว่า 10 ปี และก้าวสู่การเป็นนักวางแผนการเงินในบริษัท ชับบ์ ไลฟ์ แอสชัวรันซ์ จำกัด (มหาชน) ความสามารถด้านคณิตศาสตร์ อาจไม่สำคัญเท่ากับ ‘ความอดทน’ เพราะกว่าจะได้รับรองมาตรฐาน CFP จะต้องผ่านการสอบและการประเมินหลายขั้นตอนนานนับหลายปี เราต้องใช้ความพยายาม ความอดทน และแรงผลักจากตัวเองเป็นหลัก เพื่อความก้าวหน้าในสายอาชีพ”

คุณณดา พิสูจน์ให้เห็นว่า เบื้องหลังความสำเร็จขององค์กรใหญ่มีผู้หญิงเป็นแรงผลักดัน ที่สำคัญช่วยทลายความกลัวของเยาวชนต่อวิชาคณิตศาสตร์ ต่อยอดสู่ความก้าวหน้าและการทำงานทั่วโลก เพราะคณิตศาสตร์ คือภาษาสากลของการวางแผนชีวิต และเป็นรากฐานสำคัญของระบบเศรษฐกิจสมัยใหม่

วิทยาศาสตร์ที่มองไม่เห็น แต่เปลี่ยนชีวิตคนได้

สิรินธร สุนทรธรรมาสน์ — นักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญด้านจุลชีววิทยา

ในโลกการแพทย์ที่ผู้คนมักให้ความสนใจกับแพทย์ผู้รักษา แต่ยังมีอีกหนึ่งอาชีพเบื้องหลังที่สำคัญต่อชีวิตผู้คนไม่แพ้กัน “นักวิจัยด้านจุลชีววิทยา” แม้ไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่กลับมีบทบาทในการขับเคลื่อนนวัตกรรมทางสุขภาพ โดยผู้หญิงต้นแบบสายอาชีพนี้คือ “คุณเม – สิรินธร สุนทรธรรมาสน์” ผู้ใช้ชีวิตกับกล้องจุลทรรศน์ เพื่อค้นหาคำตอบที่อาจเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนได้

การก้าวเข้าสู่สายอาชีพนี้ของคุณเม เริ่มต้นจากเด็กสายวิทย์ที่ชอบเรียนวิชาชีววิทยาเป็นชีวิตจิตใจ จึงเลือกศึกษาต่อในสาขาจุลชีววิทยาที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ศึกษาลงลึกถึงบทบาทของจุลินทรีย์ภายในลำไส้มนุษย์ที่ส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว ในระดับปริญญาเอกด้านเทคโนโลยีชีวภาพ

“เราศึกษาจุลินทรีย์ภายในลำไส้มนุษย์ เพื่อทำความเข้าใจบทบาทและประโยชน์ต่อร่างกาย ต่อยอดสู่การพัฒนาแพลตฟอร์ม ‘GutPredict’ ฐานข้อมูลจุลินทรีย์ของประชากรไทย ที่จะสร้างประโยชน์ในเชิงการวิจัย สังคม และพาณิชย์ โดยนำไปสู่เครื่องมือทำนายโรค พัฒนาวัคซีน หรือค้นคว้ายาปฏิชีวนะ และเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาอย่างแม่นยำ” คุณเมกล่าว

สิ่งที่ต้องฝ่าฟันในสายอาชีพนี้อาจไม่ใช่ข้อจำกัดด้านเพศ แต่เป็นความรับผิดชอบต่อหน้าที่และความท้าทายในการทำงาน ที่คนทั่วไปนิยามเราว่า ‘นักวิจัยคุณภาพ’ ในสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

“งานวิจัยต้องใช้เวลาในการค้นหาคำตอบรอบด้านและถูกต้องที่สุด เพื่อให้ผลงานสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมได้ การทำงานวิจัยสำเร็จ ไม่ได้หมายถึงการประสบความสำเร็จในอาชีพนักวิจัย แต่คือการสร้างนวัตกรรมใหม่ที่เปลี่ยนแปรงสังคมอย่างยั่งยืน ซึ่งความสามารถด้านวิทยาศาสตร์เพียงอย่างเดียว อาจไม่ใช่คำตอบของนักวิจัยที่ดี แต่ต้องไม่หยุดที่จะเรียนรู้ และอดทนหาคำตอบงานวิจัยที่ดีที่สุด เพราะหนึ่งหัวข้อวิจัย อาจไม่ใช่คำตอบที่ตายตัวเสมอไป”

คุณเม คือหนึ่งพลังผู้หญิงที่ขับเคลื่อนวงการวิทยาศาสตร์ และสร้างความเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้ เมื่อผู้หญิงได้รับโอกาสในการเรียนรู้และลงมือทำ

เบื้องหลังความสำเร็จของคอมมูนิตี้เกม

ภวิษย์พร เจียรประเสริฐ — ผู้จัดการอาวุโส บริษัท การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด

จากเด็กสายการเงินที่เปลี่ยนความสนใจมาสู่โลกเทคโนโลยี “คุณหมิว – ภวิษย์พร เจียรประเสริฐ” ผู้จัดการอาวุโส บริษัท การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด คือหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่ปลุกปั้นความสำเร็จของเกมยอดนิยมจาก Garena โดยผลักดันให้เทคโนโลยีและความบันเทิงเข้าถึงผู้คนทุกกลุ่ม สร้างประสบการณ์ร่วมกับผู้เล่นจนเกิดเป็นคอมมูนิตี้ที่แข็งแกร่ง

“หลังจบ BBA สาขา Finance ที่ National University of Singapore เราก็ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ Sea Global Management Associate Program ทำให้ได้มีโอกาสเรียนรู้ธุรกิจที่หลากหลายในเครือ Sea และได้รับผิดชอบบริหารจัดการโปรเจกต์ต่าง ๆ อย่างเข้มข้นตลอด 2 ปี ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีในการเรียนรู้และค้นหาสิ่งที่ชอบไปพร้อมกัน ก่อนจะมารับหน้าที่บริหารเกมของ Garena ในปัจจุบัน ซึ่งนอกจากต้องปรับตัวให้ทันกับเทรนด์ของตลาดเกมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วแล้ว ยังต้องคำนึงถึงความคาดหวังของผู้เล่นด้วย ทำให้การทำงานรู้สึกสนุก ท้าทาย และได้เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา” คุณหมิวกล่าว

ท่ามกลางอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ผู้หญิงยังถือเป็นส่วนน้อย แต่ Sea (ประเทศไทย) กลับเป็นหนึ่งในองค์กรที่เปิดกว้างและสนับสนุนให้ผู้หญิงมีบทบาทสำคัญ สะท้อนผ่านโครงการ Woman Made: Girl in STEM ที่คุณหมิวมีส่วนร่วมต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนหญิงกล้าก้าวเข้าสู่สายอาชีพด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

“Sea (ประเทศไทย) จัดโครงการนี้เป็นปีที่ 2 แล้ว โดยเปิดพื้นที่ให้เยาวชนได้ทำความรู้จักกับอาชีพ และพบกับต้นแบบผู้หญิงในสาย STEM อย่างใกล้ชิด เราเชื่อว่าการส่งต่อประสบการณ์จากพี่ ๆ ที่ทำงานด้านนี้ จะทำให้เด็ก ๆ เห็นแนวทางในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพในอนาคต รวมถึงช่วยสร้างความมั่นใจให้เด็กผู้หญิงพร้อมที่จะเลือกทำงานในสายงานนี้มากขึ้น”

วันนี้ คุณหมิวพิสูจน์ให้เห็นว่า แม้จะไม่ได้เรียนจบตรงสาย แต่ด้วยความตั้งใจ การไม่หยุดเรียนรู้ และความเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ คือปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จ และสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในสังคมได้อย่างแท้จริง ในวันที่วงการเทคโนโลยีของไทยยังต้องการ “พลังของผู้หญิง” มาร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลให้ก้าวไกลต่อไป

เปลี่ยนแรงบันดาลใจให้กลายเป็นโอกาส

เรื่องราวของผู้หญิงทั้ง 5 คนคือตัวอย่างของพลังที่เกิดขึ้น สะท้อนชัดเจนว่า เมื่อมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะคว้าโอกาส ผู้หญิงสามารถแสดงศักยภาพในสายอาชีพ STEM และสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมต่อชีวิตผู้คนและสังคมได้ และเป็นบทพิสูจน์ว่าการส่งเสริมความหลากหลายในสายวิชาชีพไม่ใช่แค่เรื่องความเท่าเทียม แต่คือกุญแจสำคัญในการลงทุนเพื่ออนาคตของสังคมไทย สร้างอนาคตของนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของสังคมไทยอย่างแท้จริง พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่สังคมดิจิทัลอย่างมั่นคง..เพราะโลกอนาคตไม่ควรมีใครหายไปจากวงการวิทยาศาสตร์เพียงเพราะเธอเป็นผู้หญิง

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา