ตลาดสกินแคร์ไทยที่มีมูลค่า 4-5 หมื่นล้านบาท กำลังแข่งกันกันอย่างคึกคัก เพราะยุคนี้มีทั้งแบรนด์นอกและแบรนด์ไทยที่แข่งกันอย่างดุเดือด
- หนึ่งในคำถามที่สำคัญคือ ในยุคที่เศรษฐกิจไม่ดี กำลังซื้อตก เวชสำอางยังขายดีไหม?
นางสาวอรวรรณ ลาภอำนวยผล ผู้จัดการทั่วไป แผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอาง บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) บอกว่า “แม้เศรษฐกิจไทยจะเผชิญแรงกดดันจากกำลังซื้อตกต่ำ แต่ธุรกิจ เวชสำอางยังเติบโตระดับ Double Digit เนื่องจากผู้บริโภคมองว่าเป็น ‘สินค้าจำเป็น’ ที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิตและความมั่นใจ”
นอกจากนั้น ผู้บริหารของ La Roche-Posay บอกด้วยว่า เป็นเพราะ “คนไทยยุคนี้มีความรู้เรื่องเวชสำอางมากขึ้น” ซึ่งนี่เป็นผลจากการแข่งขันที่สูงขึ้นของทั้งแบรนด์ไทยและแบรนด์นอกโดยตรง ส่งผลให้ในภาพรวมแล้วเป็นผลดีกับผู้บริโภค
La Roche-Posay อยู่ภายใต้แบรนด์ L’Oréal ซึ่งในเครือมีแบรนด์เวชสำอางอีก 2 แบรนด์คือ CeraVe และ Vichy ซึ่งมีจุดเด่นที่การทำงานร่วมกับแพทย์ผิวหนังอย่างใกล้ชิด และได้รับการยอมรับด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
แต่ถ้าเฉพาะเจาะจงไปที่ La Roche-Posay ท่ามกลางการแข่งขันที่มีความท้าทาย คำถามคือ La Roche-Posay ในฐานะของผู้นำตลาดเวชสำอาง ทำการตลาดอย่างไร?
3 กลยุทธ์การตลาด แพทย์ – ความเชื่อมั่น – อินฟลูเอนเซอร์
ผู้บริหาร La Roche-Posay บอกว่า จะเดินเกมการตลาดด้วย 3 แกนหลัก
- Medical First – ทำงานกับเครือข่ายแพทย์ผิวหนังทั่วโลกกว่า 90,000 คน และในไทยมากกว่า 700 คน ถ่ายทอดความรู้ที่ถูกต้องและเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์
- Influencer & Silver Gen – ใช้พลังอินฟลูเอนเซอร์เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ พร้อมทั้งขยายฐานสู่ Silver Generation (วัย 45+) ผ่านการสื่อสารเรื่อง “ผิวแพ้ง่าย-ผิวบอบบาง” ซึ่งตรงกับเทรนด์ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ
- Omnichannel Communication – ขยายการสื่อสารครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในทุกช่วงวัย
ครบรอบ 50 ปี: “Life-Changing House Since 1975”
อย่างไรก็ตาม ในงานเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของ La Roche-Posay ได้มีการจัดนิทรรศการ Life-Changing House Since 1975 ย้อนรอยความสำเร็จตลอด 50 ปี แห่งความมุ่งมั่นและนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยวิทยาศาสตร์พร้อมขอบคุณพาร์ทเนอร์ทางการแพทย์ และมอบรางวัลให้แก่ นักวิจัยผิวหนัง (Dermatologist Awards)
โดยแบรนด์มุ่งเน้นการทำงานร่วมกับสังคม เช่น โครงการ Cancer Support ที่ช่วยผู้ป่วยโรคมะเร็งฟื้นความมั่นใจด้านผิวหนัง รวมถึงการวิจัยด้าน Neuroscience ที่ชี้ให้เห็นพลังของ “การสัมผัส” (Healing Power of Touch) ต่อกำลังใจของผู้ป่วย
โดยทาง La Roche-Posay ได้วางเป้าหมาย ติด TOP 3 แบรนด์สกินแคร์ในประเทศไทย พร้อมขับเคลื่อนด้วย 2 แกนหลัก
- นวัตกรรม เช่น SPOTSCAN (AI วิเคราะห์ปัญหาผิว) และโมเลกุลใหม่ MELASYL สำหรับจัดการจุดด่างดำ
- ความยั่งยืน โรงงานใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ตั้งแต่ปี 2023 และตั้งเป้าใช้บรรจุภัณฑ์รีไซเคิลทั้งหมดภายในปี 2030
นอกจากนี้ La Roche-Posay บอกว่า ตลอดการเดินทาง 50 ปี ได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ไอคอนิกมากมาย จนได้รับการยอมรับในฐานะ “สกินแคร์เปลี่ยนชีวิต” อย่างแท้จริง อาทิ EFFACLAR DUO+M กลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงสำหรับผิวที่มีปัญหาสิว ANTHELIOS UVMUNE 400 SPF50+ PA++++ กลุ่มผลิตภัณฑ์กันแดดเนื้อเบา ปกป้องผิวถึง Ultra-long UVA MELA B3 SERUM เซรั่มลดเลือนจุดด่างดำฝังลึก ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ CICAPLAST BAUME B5+ บาล์มเข้มข้นสูตรอ่อนโยนสำหรับผิวที่มีผิวบอบบางมีแนวโน้มระคายเคืองง่าย เหมาะกับทุกคนในครอบครัว และ LIPIKAR BAUME AP+M บาล์มบำรุงผิวสำหรับผิวแห้งและมีแนวโน้มระคายเคืองง่าย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา