เมื่อพูดถึงเมืองท่องเที่ยว ในใจหลายคนอาจมีชื่อของภูเก็ตหรือเชียงใหม่ แต่ยังมีอีกหลายจังหวัดที่ยังถูกมองว่าเป็นทางผ่าน และยังไม่เป็นที่นิยมเท่า จังหวัดเหล่านั้นก็คือ ‘เมืองรอง’
หากเทียบสัดส่วนรายได้การท่องเที่ยวในปี 2567 เรียกได้ว่าเมืองรองทั้งหมด ยังมีรายได้จากการท่องเที่ยวไม่ถึงครึ่งหนึ่งของ 6 เมืองหลักด้วยซ้ำ
โดยรายได้การท่องเที่ยว 40.55% กระจุกตัวอยู่ใน 5 เมืองใหญ่ ได้แก่ ชลบุรี ภูเก็ต กระบี่ เชียงใหม่ และสุราษฎร์ธานี นอกจากนี้ รายได้อีก 33.79% หรือ 9.4 แสนล้านบาท ยังอยู่ในกรุงเทพมหานครเพียงแห่งเดียว
จำนวนการท่องเที่ยวที่แตกต่างกันนี้ ส่วนหนึ่งยังมาจากอุปสรรคภายในพื้นที่ เช่น การขาดแคลนแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมที่หลากหลาย คุณภาพของสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่เพียงพอ ระบบขนส่งสาธารณะที่ยังไม่ครอบคลุม ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สะดวกในการเดินทาง
ในรายงาน Routes to Roots Forum โดย ผศ.ดร.ณัฐพงศ์ พันธ์น้อย รองผู้อำนวยการศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการออกแบบเพื่อสังคม ได้เปิดเผยจำนวนการท่องเที่ยวไทยในแต่ละพื้นที่ โดยศึกษาจาก Mobility Data หรือ ข้อมูลการใช้โทรศัพท์มือถือ จาก ทรู คอร์ปอเรชั่น อย่างการใช้อินเทอร์เน็ทหรือเปิดแผนที่
ด้วยข้อมูลนี้ทำให้เราเห็นว่านักท่องเที่ยวมีการเดินทางไปที่ไหนบ้างในทริปเดียวกัน ทริปไหนมีผู้เดินทางมากที่สุด และมีการกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ไหน เพื่อนำมาวิเคราะห์ศักยภาพเมืองรอง จุดที่น่าสนใจ และแนวทางการพัฒนาในอนาคต
ซึ่งใช้ข้อมูลการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวน 502.5 ล้านทริป นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 3.22 ล้านทริป ตลอดปี 2566-2567
และได้มีการสรุปผลออกมาเป็นกลุ่มจังหวัดเมืองรองของแต่ละภาค โดยดูจากระยะเวลาในการพำนักและการท่องเที่ยวเฉลี่ย รายได้จากการท่องเที่ยว จำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทย และปริมาณการเดินทางในกลุ่มจังหวัด จนออกมาเป็น 6 คลัสเตอร์นำร่อง ได้แก่
- ภาคเหนือ: เชียงใหม่-ลำปาง-ลำพูน
- ภาคกลาง: สุพรรณบุรี-ชัยนาท-อุทัยธานี
- ตะวันตก: ประจวบคีรีขันธ์-เพชรบุรี-สมุทรสงคราม-สมุทรสาคร
- ภาคใต้: นครศรีธรรมราช-พัทลุง
- ภาคอีสาน: บุรีรัมย์-สุรินทร์-ศรีสะเกษ
- ภาคตะวันออก: จันทบุรี-ตราด
ในรายงานยังสรุปแนวทางการพัฒนาเมืองรองออกเป็น 3 มุม คือ น่าจดจำ น่าอยู่ และน่าค้นหา โดยใช้แนวทางจากตัวอย่างของ Setouchi ในประเทศญี่ปุ่น ที่ประสบความสำเร็จในการดึงดูดนักท่องเที่ยว
- น่าจดจำ การดึงเอกลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ออกมา สร้างสรรค์ และรักษาแหล่งท่องเที่ยวที่มีกลิ่นอายเฉพาะท้องถิ่น เพื่อสร้างภาพจำในใจของนักท่องเที่ยว
- น่าอยู่ ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ ระบบสาธารณูปโภค ระบบขนส่งมวลชน ให้เป็นพื้นที่ที่น่าอยู่ ดึงดูดให้ผู้มาเยือนรู้สึกไม่อยากกลับ
- น่าค้นหา มีกิจกรรมและแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ พัฒนาสินค้าและบริการ เพิ่มระยะเวลาในการพำนัก ให้เป็นมากกว่าจังหวัดทางผ่านหรือจุดแวะพักชั่วคราว
กลุ่มจังหวัดเมืองรองทั้ง 6 คลัสเตอร์นี้ คือตัวอย่างของเมืองที่มีศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยว ด้วยเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่นที่ไม่เหมือนใคร และจำนวนของนักเดินทางที่มาเยี่ยมชม
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีอีกหลายจังหวัดที่ยังรอคอยการพัฒนาและการโปรโมตที่ดี แต่สิ่งเหล่านี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้ด้วยใครคนใดคนหนึ่ง แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวแต่ละท้องถิ่นและกระจายรายได้ไปสู่จังหวัดต่างๆ นอกเมืองใหญ่
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา