SCBX ขยับครั้งใหญ่ สะเทือนวงการการเงินและเทคโนโลยี เมื่อประกาศปรับเปลี่ยนผู้บริหารระดับสูงหลายตำแหน่งพร้อมกัน การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ใช่แค่การสลับเก้าอี้ธรรมดา แต่คือการวางเกมระยะยาวที่เผยให้เห็นทิศทางอนาคตของกลุ่มอย่างชัดเจน โดยมีไฮไลท์สำคัญคือ อารักษ์ สุธีวงศ์ ขึ้นเป็นทายาทคนต่อไปในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของยานแม่ SCBX
การเกษียณอายุของ “อภิพันธ์” และการส่งไม้ต่อที่ AutoX
จุดเริ่มต้นของการขยับทัพครั้งนี้มาจากการเกษียณอายุของ อภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ ซีอีโอของ AutoX ผู้ปลุกปั้นธุรกิจ “เงินไชโย” สินเชื่อจำนำทะเบียนรถจนกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญในตลาดภายในเวลาเพียง 3 ปี การลงจากตำแหน่งของเธอ เปิดทางให้ SCBX ต้องหาแม่ทัพคนใหม่มาสานต่อ
มาณพ เสงี่ยมบุตร ถูกดึงจากตำแหน่ง Chief Financial Officer (CFO) ของบริษัทแม่ SCBX มานั่งเป็นซีอีโอของ AutoX แทน การย้ายผู้บริหารสายการเงินระดับคุมเงินทั้งกลุ่ม มาคุมบริษัทลูกที่เน้นการเติบโตสูงอย่าง AutoX เป็นสัญญาณที่น่าสนใจ อาจตีความได้ว่า AutoX ได้ผ่านช่วงตั้งไข่ (Startup Phase) มาแล้ว และกำลังเข้าสู่ช่วงที่ต้องเน้น “การเติบโตอย่างมีคุณภาพ” และ “ความสามารถในการทำกำไร” มากขึ้น การมีผู้บริหารที่เข้าใจโครงสร้างทางการเงินอย่างลึกซึ้งจะเข้ามาช่วยวางระบบและควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“อารักษ์” คืออนาคตของ SCBX
จิ๊กซอว์ตัวที่สำคัญที่สุดในการปรับทัพครั้งนี้คือ อารักษ์ สุธีวงศ์ ลูกหม้อของ SCB ที่เติบโตมากับสายงานกลยุทธ์และดิจิทัล
การโยก อารักษ์ จากตำแหน่งซีอีโอ DataX และ Chief Blockchain and Digital Assets Business Officer มานั่งในตำแหน่ง Chief Financial Officer (CFO) ของ SCBX พร้อมพ่วงตำแหน่ง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Deputy CEO) ไม่ใช่การลดชั้น แต่คือการ “เตรียมความพร้อม” เพื่อขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุด
- เรียนรู้งานการเงินภาพรวม การให้คุมตำแหน่ง CFO คือการเปิดโอกาสให้ อารักษ์ ได้เรียนรู้และบริหารจัดการภาพรวมทางการเงินของทั้งกลุ่ม SCBX ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเป็น CEO บริษัทโฮลดิ้ง
- บทบาท Deputy CEO คือการส่งสัญญาณ ตำแหน่งรองซีอีโอเป็นการประกาศอย่างไม่เป็นทางการว่าเขาคือ “ว่าที่” ผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจาก อาทิตย์ นันทวิทยา
- กำหนดไทม์ไลน์ชัดเจน SCBX ระบุชัดเจนว่า อารักษ์ เตรียมขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ในวันที่ 1 มกราคม 2570 (อีกประมาณปีเศษ) ซึ่งเป็นการวางแผน Succession Plan ที่ชัดเจนและลดความไม่แน่นอนในองค์กร
การเลือก อารักษ์ สะท้อนว่า SCBX ยังคงเดิมพันอนาคตไว้กับยุทธศาสตร์การเป็น “กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีทางการเงิน” (Financial Technology Conglomerate) อย่างเต็มตัว เพราะโปรไฟล์ของ อารักษ์ คือภาพตัวแทนของเทคโนโลยีและข้อมูล
ควบรวม TechX และ DataX เสริมแกร่งแกนกลางเทคโนโลยี
เมื่อ อารักษ์ ขยับไปดูภาพใหญ่ ทำให้ตำแหน่งซีอีโอของ DataX ว่างลง SCBX แก้เกมด้วยการให้ สุทธิพงศ์ กนกากร ซีอีโอของ SCB TechX ควบตำแหน่งซีอีโอของ DataX อีกตำแหน่งหนึ่ง
TechX คือหน่วยสร้างเทคโนโลยีและแพลตฟอร์ม ส่วน DataX คือหน่วยวิเคราะห์และใช้ประโยชน์จากข้อมูล การให้ผู้บริหารคนเดียวกันคุมทั้งสองบริษัท จะทำให้การทำงานร่วมกัน (Synergy) ระหว่างฝ่ายเทคโนโลยีและฝ่ายข้อมูลเป็นไปอย่างราบรื่นและมีทิศทางเดียวกันมากขึ้น ลดความซ้ำซ้อน และเร่งสปีดการนำข้อมูลไปสร้างเป็นผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆ ได้เร็วยิ่งขึ้น
การปรับทัพของ SCBX ครั้งนี้ จึงไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงตามวาระ แต่เป็นการวางโครงสร้างองค์กรและผู้นำให้สอดรับกับยุทธศาสตร์ในอีก 3-5 ปีข้างหน้าอย่างชัดเจน โดยมี “เทคโนโลยีและข้อมูล” เป็นหัวใจหลัก และมี “อารักษ์ สุธีวงศ์” เป็นแม่ทัพคนต่อไปที่จะนำพายานแม่ลำนี้ไปสู่อนาคต
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา