- ปรัชญาการทำงาน “AP – The Differentiator” เอพีผู้สร้างความแตกต่างให้วงการอสังหาฯ กับบริบทใหม่ คุณภาพสูงสุดด้านการออกแบบพื้นที่ใช้สอยเพื่อการอยู่อาศัย
- นำหน้าด้วยศักยภาพครบรอบด้าน ทั้ง “ผลิตภัณฑ์ที่อยู่อาศัยคุณภาพ” “ทีมงานคุณภาพ” และ “พันธมิตรคุณภาพ”
- เดินเกมครึ่งปีหลัง ด้วยแผนเปิดโครงการใหม่ 13 โครงการคุณภาพ มูลค่า 26,000 ล้านบาท พร้อมเตรียมรับรู้รายได้ก้อนใหญ่ช่วงสิ้นปีกับแผนการส่งมอบคอนโดบิ๊กแพคมากถึง 8 โครงการ
- นำหน้าด้วยการเสริมแกร่งคุณภาพทุกระดับด้วย ‘AP Academy’ สถาบันอสังหาฯ คุณภาพ แห่งแรกในไทย ล่าสุดเตรียมพัฒนา ‘AP Checklist’ โดยร่วมกับ ‘MEC’ จัดทำคู่มือควบคุมและตรวจสอบคุณภาพการก่อสร้างในทุกขั้นตอน เพื่อการส่งมอบที่อยู่อาศัยคุณภาพ
อนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า เอพี ไทยแลนด์ มีเป้าหมายการมุ่งก้าวขึ้นสู่การเป็น 1 ใน 3 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยที่อยู่ในใจผู้บริโภค ด้วยกลยุทธ์ “การมอบความแตกต่างด้วยคุณภาพ” มีปรัชญาการทำงาน “AP – The Differentiator” หรือเอพีผู้สร้างความแตกต่างให้วงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ผ่านทั้งตัวสินค้าและบริการ ภายใต้ 4 แนวคิดหลัก
- SPACE OPTIMIZATION แตกต่างในการพัฒนานวัตกรรมดีไซน์ เพื่อพื้นที่ใช้สอยที่ไม่จำกัด
- CONVENIENT แตกต่างในวิธีคิดที่ทุกพื้นที่ต้องเอื้อให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายทั้งในบ้านและนอกบ้าน และเชื่อมต่อทุกรูปแบบการเดินทางที่สะดวกที่สุดสำหรับคนเมือง
- QUALITY มุ่งยกระดับคุณภาพสินค้าให้ดียิ่งขึ้น โดยล่าสุดได้ผสานความร่วมมือกับมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (MEC) พันธมิตรทางธุรกิจในการร่วมกันสร้าง AP CHECK LIST ขึ้น ซึ่งจะเป็นคู่มือสำคัญในการควบคุมการพัฒนาโครงการที่เริ่มต้นตั้งแต่กระบวนการออกแบบที่มีคุณภาพ ไปจนถึงขั้นตอนการก่อสร้างและกระบวน การตรวจสอบงานที่มีประสิทธิภาพ ผ่านการถ่ายทอดองค์ความรู้จากทางญี่ปุ่น
- HUMAN DEVELOPMENT มุ่งสร้างความแตกต่างทั้งระบบความคิดและการบริหารจัดการให้กับคนเอพีอย่างต่อเนื่อง ผ่าน AP ACADEMY สถาบันเพื่อการเรียนรู้ครบวงจรด้านอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกของไทย
เอพี (ไทยแลนด์) เน้นเรื่องคุณภาพทั้งคอนโดมีเนียม, บ้านเดี่ยว และทาวน์โฮม และมีพันธมิตรคือ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (MEC) ตลอดระยะเวลา 2 ปีกว่าของการจับมือเป็นพันธมิตร มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป มองภาพการร่วมทุนมากกว่าเรื่องของผลกำไรตอบแทน ร่วมแบ่งปันองค์ความรู้ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้กับทีมงานเอพี การออกแบบพื้นที่ใช้สอย กระบวนการก่อสร้างและการตรวจสอบคุณภาพงาน รวมไปถึงการขยายต่อองค์ความรู้ไปยังสถาบัน AP Academy ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมยกระดับมาตรฐานอสังหาริมทรัพย์ไทยในภาพรวม
สิ่งหนึ่งที่การันตีถึงการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจระยะยาวได้อย่างชัดเจนคือ มิตซูบิชิ เอสเตท ส่งพนักงานซึ่งเป็นคนญี่ปุ่น มานั่งประจำ ณ สำนักงานใหญ่เอพี จำนวน 4 คน เพื่อให้การทำงานและอำนาจการตัดสินใจสะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น
สำหรับยอดขาย ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2559 เอพี มียอดขายรวม 13,200 ล้านบาท และในช่วงไตรมาส 3-4 บริษัทฯ มีแผนการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 13 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 26,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นแนวราบมากถึง 10 โครงการ ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว 8 โครงการ และทาวน์โฮม 2 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 10,800 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมจำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 15,200 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยเปิดตัวตามแผนงานที่วางไว้ และเชื่อว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
นอกจากนั้นแล้วในช่วงไตรมาส 3-4 ยังถือเป็นช่วงที่เอพีมีคอนโดมิเนียมที่ก่อสร้างพร้อมกันมากถึง 8 โครงการ ได้แก่
- Aspire งามวงศ์วาน มูลค่า 2,680 ล้านบาท
- Vittorio มูลค่า 3,500 ล้านบาท
- RHYTHM สุขุมวิท 42 มูลค่า 3,500 ล้านบาท
- RHYTHM อโศก มูลค่า 1,500 ล้านบาท
- Aspire วุฒากาศ มูลค่า 390 ล้านบาท
- RHYTHM สุขุมวิท 36-38 มูลค่า 2,900 ล้านบาท
- Aspire รัชดา-วงศ์สว่าง มูลค่า 2,850 ล้านบาท
- Aspire สาทร-ท่าพระ มูลค่า 3,500 ล้านบาท
สำหรับ 3 โครงการหลังเป็นคอนโดมิเนียมร่วมทุนกับทาง MEC ซึ่งคาดว่าจะเริ่มพร้อมเปิดให้ลูกค้าเข้าตรวจรับห้องชุดและชมความสมบูรณ์ของโครงการได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม และพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ย้ายเข้าอยู่ได้ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนกรฎาคม บริษัทฯ มีสินค้ารอรับรู้รายได้ (Backlog) 12,834 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นแนวราบ มูลค่า 3,210 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในปีนี้ และคอนโดมิเนียม มูลค่า 9,624 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปีนี้มูลค่าประมาณ 4,633 ล้านบาท และส่วนที่เหลือในปี 2560-2561 สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรก บริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 8,602 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิเท่ากับ 981 ล้านบาท
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา