ใครบอก Gen Z เป็นเจนแห่งความขี้เกียจ แก้ข่าวใหม่ด้วยนะ เพราะนี่คือรุ่นที่เฮลตี้สุดแล้วจ้า
ปัจจุบัน ประชากรสหราชอาณาจักรวัย 16 ปีขึ้นไปสมัครสมาชิกฟิตเนสถึง 11.5 ล้านคน มากขึ้นจากปี 2022 ประมาณ 1.6 ล้านคนเลย
เมื่อถามว่าอะไรเป็นปัจจัยให้จำนวนสมาชิกมากขึ้น ‘UKActive’ หน่วยงานไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายในสหราชอาณาจักร บอกว่า คนรุ่นใหม่มีส่วนสำคัญทำให้ตัวเลขพุ่ง โดยเฉพาะ Gen Z ที่ตอนนี้กลายเป็นเจนเนอเรชันแห่งความเฮลตี้ไปแล้ว
‘Huw Edwards’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร UKActive เผยว่า นี่เป็นโมเมนต์สำคัญมากนะ เพราะมันแสดงให้เห็นว่าคนกำลังให้ค่ากับสุขภาพกายและใจมากกว่าเดิม ซึ่งความต้องการนี้เพิ่มขึ้นในคนทุกวัยเลย แต่เป็นที่นิยมมากๆ ในหมู่ Gen Z
นอกจากนั้น ‘David Minton’ ผู้ก่อตั้ง Lesiure Database บริษัทวิเคราะห์การตลาดด้านฟิตเนส ยังบอกว่า อีกสาเหตุที่คนรุ่นใหม่สุขภาพดีขึ้น เป็นเพราะพวกเขาดื่มแอลกอฮอลล์น้อยกว่าคนรุ่นก่อน และยังทานอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้นด้วย
Edwards อธิบายว่า ในมุมมองของคนรุ่นใหม่ สมรรถภาพทางกายนั้นคือส่วนหนึ่งของตัวตน และเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ โดยหลายๆ คนก็เล่าให้ฟังว่า ชอบเข้ายิมมากกว่าไปพบปะเพื่อนๆ ตามผับบาร์เสียอีก
“ถ้าได้รับการสนับสนุนอย่างถูกต้อง นี่อาจเป็นเจนเนอเรชันที่ตื่นรู้เรื่องสุขภาพมากที่สุดเลย” Edwards กล่าว
Gen Z อังกฤษเข้ายิมฉ่ำ จนมูลค่าตลาดทะลุ 2.5 แสนล้าน
แม้ Gen Z หลายๆ คนจะเข้าฟิตเนสเพื่อเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย แต่ Minton ก็เล่าว่า บางคนมาออกกำลังกายเพราะเผื่อเจอว่าที่หวานใจ และอยากพบปะเพื่อนใหม่ๆ ต่างหาก
Minton อธิบายว่า ทุกวันนี้ Gen Z เอาแต่ใช้เวลาอยู่กับโซเชียลมีเดีย ไม่ได้เชื่อมต่อกับผู้คนจริงๆ พวกเขาเลยต้องหาประสบการณ์การพบปะผู้คนจากยิมแทน
อย่างไรก็ตาม เมื่อลองไปถามสมาชิกฟิตเนสในสหราชอาณาจักรว่าอะไรเป็นแรงบันดาลใจการเข้ายิม กลับพบว่า
- 83% อยากเพิ่มสมรรถนะความแข็งแรงของตนเอง
- 76% อยากเสริมสร้างสุขภาพจิตให้ดีขึ้น รวมถึงกำจัดความซึมเศร้าและความวิตกกังวล
- 75% อยากเพิ่มความมั่นใจและพัฒนารูปร่าง
- 68% อยากนอนหลับสบายขึ้น
ไม่ว่าคนจะเข้าฟิตเนสมากขึ้นเพราะอะไร แต่ความนิยมนี้ทำให้มูลค่าตลาด Health and Fitness ในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นเป็น 2.5 แสนล้านบาท ขณะที่จำนวนฟิตเนสมีอยู่ราวๆ 5,607 แห่ง โดยมีจำนวนการเข้าใช้บริการรวมๆ 616 ล้านครั้งเมื่อปีที่แล้ว
ฟิตเนสคือบ้านหลังที่ 3 ของ Gen Z
ไม่ใช่แค่สหราชอาณาจักรหรอกที่วัยรุ่นหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น เพราะ ‘ABC Fitness’ ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีของธุรกิจฟิตเนส ได้นำข้อมูลจากฐานลูกค้ากว่า 40 ล้านคนทั่วโลกมาวิเคราะห์ แล้วพบว่า 73% ของ Gen Z มีสมาชิกฟิตเนสและยังแอคทีฟอยู่ในปี 2024 ซึ่งนับเป็นสัดส่วนที่มากกว่าเจนเนอเรชันอื่นๆ ทั้งสิ้น
‘Kofi Mframa’ นักข่าวของ USA Today พ่วงด้วยตำแหน่ง Gen Z ผู้มีใจรักในการออกกำลังกาย อธิบายว่า ส่วนหนึ่งที่คนรุ่นใหม่พากันแห่เข้ายิม ก็เพราะโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะช่วงโควิด 19 ที่ทุกคนล็อกดาวน์ แล้วหันมาออกกำลังกายตามยูทูบเบอร์หรืออินฟลูเอนเซอร์สายสุขภาพมากขึ้น
เช่น คลิป ‘Get Abs in 2 WEEKS’ ของ Chloe Ting ยูทูบเบอร์สายออกกำลังกายก็มียอดวิวมากกว่า 570 ล้านครั้งเลย
แม้โควิดจะซาลงแล้ว แต่กระแสการออกกำลังกายกลับมากขึ้น ด้วยความนิยมของ TikTok ที่ยังมีอยู่เรื่อยๆ จนจำนวนคอนเทนต์ที่ติดแฮชแท็ก ‘#GymTok’ มีเยอะถึง 31 ล้านโพสต์
Mframa มองว่า ปรากฏการณ์นี้ทำให้เกิดวัฒนธรรม ‘บ้านหลังที่ 3’ ในสหรัฐฯ หรือพูดง่ายๆ คือ ฟิตเนสกลายเป็นแหล่งแฮงเอาท์แห่งใหม่ นอกเหนือจากบ้าน โรงเรียน และที่ทำงาน
ออกกำลังกายแบบ Gen Z ดีจริงหรือเปล่า?
อย่างไรก็ตาม Mframa ตั้งคำถามว่า ใจรักที่มีต่อการออกกำลังกายของ Gen Z กำลังย้อนกลับมาทำร้ายตนเองหรือเปล่า?
Mframa เผยว่า ในฐานะที่เป็นเจนเนอเรชันที่สิงสถิตย์อยู่แต่บนโลกออนไลน์ บางทีก็อาจเผลอเอาตนเองไปเปรียบเทียบกับคนที่หุ่นสุดแสนจะเพอร์เฟกต์บนอินเทอร์เน็ต จนกลายเป็นการยัดเยียดความคิดให้ตนเองต้องมีหุ่นที่เหนือมนุษย์แบบนั้นให้ได้
“ไม่ว่าเราจะอยากยอมรับไหมก็ตาม การไปยิมและออกกำลังกายให้หุ่นดีขึ้น ช่วยเพิ่มต้นทุนทางสังคมด้วยการบีบตนเองเข้าไปอยู่ในบิวตี้สแตนดาร์ดจริงๆ” Mframa บอก
เมื่อปีที่แล้ว Men’s Health ปล่อยสารคดี ‘Generation Flex’ เรื่องราวของวัยรุ่นชาย 4 คนกับเป้าหมายในการสร้างกล้ามเนื้อและลดไขมัน
ในสารคดี ผู้ชมจะได้เห็นด้านมืดของความหมกมุ่นในความอยากหุ่นดีของคนรุ่นใหม่ ที่นำไปสู่การใช้สารอันตราย หรือการออกกำลังกายแบบผิดๆ
กลายเป็นว่า การหักโหมออกกำลังกายเพื่อปั้นหุ่นตามบิวตี้สแตนดาร์ดของวัยรุ่นชายเหล่านั้นกลับทำให้สุขภาพกายและใจแย่กว่าเดิมเสียอีก
สำหรับสาวๆ ก็เหมือนกัน Mframa เผยว่า แฮชแท็ก ‘#Skinnytok’ บน TikTok กลายเป็นพื้นที่ในการอวดความผอมของตนเอง ซึ่งหลายๆ คลิปต่างพากันโชว์วิธีอดอาหาร ทานแคลอรีน้อยๆ โดยอ้างว่านี่เป็นการรักตัวเองแบบโหดๆ ทั้งๆ ที่พฤติกรรมแบบนี้อาจนำไปสู่โรค ‘Eating Disorder’ ที่เป็นอันตรายต่อกายและใจมากๆ ได้เลยด้วยซ้ำ
เอาจริงๆ นี่เป็นเพียงมุมมองของ Mframa ในฐานะ Gen Z คนหนึ่งเท่านั้น และเราเชื่อว่าบนโลกนี้ ยังมีคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยที่ใส่ใจรักสุขภาพจริงๆ โดยไม่ติดอยู่ในหล่มความท็อกซิกของบิวตี้สแตนดาร์ด
แต่ไม่ว่าคุณจะออกกำลังกายด้วยเหตุผลอะไร ขอให้คำนึงไว้เสมอว่า สิ่งที่ทำอยู่ ทำไปเพราะรักตัวเองจริงๆ หรือแค่อยากให้สังคมยอมรับ เพราะสุดท้าย ถ้าคุณไม่รักตัวเอง ออกกำลังกายให้ตายยังไง คุณก็อาจไม่มีวันพอใจกับชีวิตเลย
ที่มา: The Guardian, USA Today
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา