ผมเชื่อว่าเราน่าจะเคยคิดอะไรแบบนี้ในหัวกันบ้าง
“อยากได้เงินจากการไปเที่ยวต่างประเทศบ้าง” หรือ
“อยากฝากใครซักคนหิ้วของจากประเทศนั้นๆ มาให้ แต่ไม่รู้จะฝากใคร”
ด้วยสาเหตุนี้เองที่ทำให้เกิดบริการที่ชื่อว่า Grabr ขึ้น
แม้จะชื่อคล้ายๆ กับ Grab ในบ้านเราแต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริการแท็กซี่แต่อย่างใดครับ เพราะ Grabr เป็น Peer-to-peer Service ประเภทหนึ่ง คล้ายๆ กับ Airbnb หรือ Uber แต่แทนที่จะใช้หาที่พักหรือหารถ Grabr นั้นใช้สำหรับ “ฝากซื้อสินค้าต่างประเทศ”
การทำงานก็ไม่มีอะไรซับซ้อนครับ สมมติว่าเราอยากได้มือถือรุ่นหนึ่งซึ่งขายเฉพาะในญี่ปุ่น เราก็สามารถใช้ Grabr ประกาศความต้องการออกไป จากนั้นคนที่อยู่ญี่ปุ่นและมีแพลนจะมาเมืองไทยจะเข้ามาเสนอราคาว่าเค้าจะรับหิ้วมาให้เราในราคาเท่าไหร่ ถ้าตกลงราคากันได้ ก็นัดวัน เวลา และสถานที่ในการรับต่อไป และแน่นอนว่าเราเองก็สามารถสมัครเป็นผู้ให้บริการ Grabr ได้เช่นกัน เช่น เรากำลังจะไปเที่ยวอังกฤษ เราก็สามารถเข้าไปดูได้ว่มีความต้องการสินค้าอะไร หรือเราจะประกาศขายเลยก็ได้เช่นกันว่ากำลังจะไปอังกฤษและจะหิ้วสินค้าไปให้คนที่สนใจสามารถติดต่อซื้อได้ ถือเป็นการหาเงินสำหรับการท่องเที่ยวไปในตัว นอกจากนี้ Grabr ก็ยังมีบริการอื่นๆ อีกเช่น สั่งซื้อของขวัญไปส่งให้เพื่อน, สั่งซื้อสินค้าที่ Unique มากๆ ของแต่ละประเทศจากในเว็บ Grabr เอง
จริงๆ ดูไปแล้วตัวธุรกิจก็คล้ายกับการรับหิ้วสินค้าหรือร้านรับพรีออเดอร์ที่เราเคยเห็นครับ เป็นโมเดลธุกิจที่อาจจะไม่ได้ใหม่นัก เพียงแต่ Grabr ตัดตัวกลางที่เป็นร้านค้าออกไป และเสนอตัวเองเป็น Platform ตัวกลางที่ช่วยอำนวยควมสะดวกและเปิดโอกาสให้ใครก็ได้มาเสนอราคา ทำให้เกิดการแข่งขันในราคาที่เป็นธรรม ไม่ต้องรอระยะเวลาในการพรีออเดอร์ รวมถึงเปิดโอกาสให้ใครๆ ก็สามารถหารายได้จากการหิ้วสินค้าได้ ซึ่งผมมองว่าด้วยคอนเซ็ปต์ “get anything delivered to you, on demand, from anywhere in the world.” จะทำให้ Grabr เติบโตได้อย่างน่าสนใจทีเดียว
แถมข้อมูลทิ้งท้ายเล็กน้อยครับ
Grabr มีข้อมูลว่าประเทศไหน เมืองไทย ที่มีมูลค่าการฝากซื้อมากที่สุด ซึ่งมีกรุงเทพฯ ติดหนึ่งในนั้นด้วย
ที่มา – grabr.io
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา