FIFA จัด Half-Time Show ในฟุตบอลโลกที่สหรัฐอเมริกาปี 2026 หวังเพิ่มเม็ดเงินโฆษณาอีกทาง

สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ FIFA ประกาศแผนจัด Half-Time Show หรือการแสดงระหว่างพักครึ่งการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศศึกฟุตบอลโลกปี 2026 ที่จะจัดขึ้นในสหรัฐอเมริกา ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การแข่งขัน หวังดึงผู้ชม และเพิ่มเม็ดเงินจากการโฆษณาให้สะพัดได้เหมือนการแข่งขัน Super Bowl ในสหรัฐอเมริกา

FIFA

FIFA หวังสร้างเม็ดเงินโฆษณาด้วย Half-Time Show

Gianni Infantino ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ FIFA แจ้งบน Instagram ส่วนตัวว่า ในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2026 นัดชิงชนะเลิศที่จะจัดขึ้นในสหรัฐอเมริกา จะมีการจัด Half-Time Show หรือการแสดงระหว่างพักครึ่งการแข่งขัน ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกที่มีการจัดแสดงในลักษณะนี้

ประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นภายในการประชุม FIFA World Cup 26: FIFA Commercial & Media Partners Convention ที่หารือเกี่ยวกับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันต่าง ๆ ที่ FIFA ดูแล โดยการแสดงระหว่างพักครึ่ง FIFA ร่วมมือกับ Global Citizen องค์กรระดับโลกด้านสิทธิมนุษยชนและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในการจัดงาน

นอกจากนี้ FIFA ยังเตรียมใช้พื้นที่ Time Squares กลางนิวยอร์ก เพื่อจัดกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงสัปดาห์ของนัดชิงอันดับ 3 และนัดชิงชนะเลิศของฟุตบอลโลกที่จัดขึ้นในสหรัฐอเมริกาด้วย ซึ่งทาง FIFA มองว่า การทำกิจกรรม และการแสดงทั้งหมดนี้จะช่วยเพิ่มความยิ่งใหญ่ของการแข่งขันฟุตบอลโลกได้มากขึ้น

มี Coldplay ช่วยคัดเลือกศิลปิน

Half-Time Show ครั้งนี้มี Chris Martin และ Phil Harvey สมาชิกวง Coldplay ช่วยคัดเลือกศิลปินที่จะร่วมแสดงอีกด้วย โดยนอกจากการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้จะมี Half-Time Show แล้ว ยังเป็นการแข่งขันที่มีทีมร่วมมากถึง 48 ทีม จากเดิม 32 ทีม และกระจายแข่งขันใน 16 เมือง 3 ประเทศคือ สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก

Brand Inside มองว่า การจัดแสดง Half-Time Show นั้นยกความสำเร็จของการแสดงระหว่างพักครึ่งของนัดชิงชนะเลิศของ Super Bowl หรือการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลที่มีผู้ชมเกือบทั้งสหรัฐอเมริกา และเป็นช่วงเวลาที่มีเม็ดเงินโฆษณาสะพัดมากที่สุดในโลก

อย่างไรก็ตาม การแข่งขันฟุตบอลนั้นไม่เหมือนกับอเมริกันฟุตบอล กล่าวคือไม่ได้มีโฆษณาระหว่างการแข่งขันขึ้นบ่อย ๆ แต่จะเป็นโฆษณาที่แสดงขึ้นระหว่างพักครึ่งเป็นหลัก ดังนั้นการแสดงโชว์นี้น่าจะช่วยสร้างความตื่นเต้นใหม่ ๆ ให้กับการแข่งขันฟุตบอลโลกได้ประมาณหนึ่ง แต่ฝั่งเม็ดเงินโฆษณาอาจต้องศึกษากันอีกที

เจาะตัวเลขโฆษณาในการแข่งขัน Super Bowl

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น Super Bowl เป็นรายการที่มีเม็ดเงินโฆษณาแทบจะสูงที่สุดในโลก เพราะในแต่ละ 30 วินาทีที่ยิงโฆษณานั้นมีมูลค่ามากกว่า 150 ล้านบาท ซึ่งใน 1 การแข่งขันนั้นมีหลายสิบโฆษณาแพร่ภาพ ซึ่งล้วนแต่เป็นแบรนด์ใหญ่ระดับโลก และหวังให้โฆษณาเหล่านั้นเข้าถึงผู้ชมในสหรัฐอเมริกา

จุดนี้เองทำให้ FIFA ที่มองว่าการแข่งขันฟุตบอลโลกนั้นมีผู้ชมอยู่ทั่วโลก และเป็นที่นิยมกว่ากีฬาอเมริกันฟุตบอลแน่ ๆ อยากแบ่งเม็ดเงินโฆษณานี้บ้าง เพราะขนาด Half-Time Show ของ Super Bowl ยังมีสปอนเซอร์สนับสนุน เช่น Apple Music หรือ Pepsi

ดังนั้นหาก FIFA สามารถสร้างบันทึกบทใหม่ของการแข่งขันฟุตบอลโลกด้วยการทำ Half-Time Show ย่อมทำให้ FIFA สามารถสร้างเม็ดเงินได้มากกว่าแค่การสนับสนุนผ่านสปอนเซอร์ หรือการจำหน่ายค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด และยังดึงผู้ชมคนรุ่นใหม่ที่อาจไม่ได้สนใจการแข่งขันฟุตบอลให้เข้ามารับชมในสนาม หรือโทรทัศน์มากขึ้นด้วย

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา