Chevron บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา ประกาศแผนปลดพนักงานทั่วโลกราว 15-20% ภายในสิ้นปี 2026 โดยอ้างเรื่องการควบคุมต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ เหตุอุตสาหกรรมพลังงานยังแข่งขันอย่างดุเดือด และเริ่มมีอัตรากำไรที่ลดลง
Chevron กับการเจอแรงกดดันจากตลาด
สำนักข่าว CNN รายงานว่า การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Chevron กำลังเผชิญเจอกับหลากหลายปัญหา โดยเฉพาะกรณีการฟ้องร้องทางกฎหมายกับ Exxon Mobil เกี่ยวกับแผนเข้าซื้อกิจการของ Hess Corporation อีกบริษัทผลิตน้ำมันที่ทำให้ Chevron มีกำลังผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ธุรกิจกลั่นน้ำมันของ Chevron ยังประสบกับอัตรากำไรที่อ่อนแอ โดยในไตรมาสที่ 4 ปี 2023 บริษัทรายงาน ผลขาดทุนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2020 ส่งผลให้บริษัทต้องเร่งปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อลดต้นทุน และกลับมามีกำไรเติบโตอีกครั้ง
การปลดพนักงานข้างต้น Chevron ตั้งเป้าลดต้นทุน 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2026 โดยนำเทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพ การขายสินทรัพย์ที่ไม่จำเป็น และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการทำงาน โดยสิ้นปี 2023 บริษัทมีพนักงานรวม 40,212 คน และหากปลดพนักงานในอัตรา 20% จะส่งผลกระทบกับพนักงาน 8,000 คน ทันที
แหล่งข่าวเผยว่า Chevron จะเปิดให้พนักงานสมัครเข้าร่วมโครงการสมัครใจลาออก ตั้งแต่เดือน เม.ย. – พ.ค. 2025 ควบคู่กับการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ ด้าน Mark Nelson รองประธานกรรมการ Chevron แจ้งว่า บริษัทกำลังดำเนินงานเพื่อให้โครงสร้างองค์กรมีความคล่องตัวมากขึ้น และเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก
Brand Inside มองว่า แม้วมาตรการลดต้นทุนจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ Chevron ในระยะยาว แต่ก็สะท้อนถึงความท้าทายที่ธุรกิจพลังงานแบบดั้งเดิมต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันที่สูงขึ้น การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด และความผันผวนของตลาดพลังงาน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการเติบโตของบริษัทในอนาคต
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา