อุตฯ นี้ยังยาก! CNN ปลดพนักงาน 6% หรือ 200 ตำแหน่ง พร้อมปรับโครงสร้าง เดินหน้าดิจิทัลเต็มกำลัง

CNN ได้ประกาศการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งสำคัญ โดยจะมีการปลดพนักงานประมาณ 6% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด หรือราว 200 ตำแหน่ง ควบคู่การเปลี่ยนแปลงแผนงานครั้งใหญ่ ซึ่งรวมถึงการปรับเปลี่ยนรายการช่วงวันธรรมดา และกลยุทธ์ดิจิทัลใหม่

CNN

CNN เร่งปรับโครงสร้างองค์กร

Mark Thompson ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CNN เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนเปิดตัวบริการสตรีมมิงใหม่ พร้อมทั้งปรับปรุงแพลตฟอร์มดิจิทัล และเพิ่มบริการสมาชิก โดยมีการลงทุนจากบริษัทแม่ Warner Bros. Discovery ราว 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนแผนงานดิจิทัลของ CNN

หากอ้างอิงจากจดหมายที่แจ้งถึงพนักงานจะพบว่า การปรับโครงสร้างครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การสร้างความสมดุลในจำนวนพนักงาน และแม้จะมีการปลดพนักงาน แต่ CNN มีแผนเปิดตำแหน่งงานใหม่ในส่วนที่สำคัญ ซึ่งคาดว่าจะทำให้จำนวนพนักงานทั้งหมดไม่ลดลงมากนักภายในสิ้นปี 2025

“การเปลี่ยนแปลงที่เราประกาศในวันนี้ เป็นการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของผู้ชมในอเมริกา และทั่วโลกที่บริโภคข่าวสาร เป้าหมายของเราคือการปรับตัวให้เข้ากับแพลตฟอร์มและผลิตภัณฑ์ที่ผู้ชมใช้งานอยู่ เพื่อรับรองว่า CNN จะยังคงเป็นองค์กรข่าวที่ยิ่งใหญ่ และน่าเชื่อถือที่สุดแห่งหนึ่งในโลกในอนาคต”

การลดจำนวนพนักงานของ CNN ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา CNN ได้ปลดพนักงานราว 3% หรือประมาณ 100 ตำแหน่ง เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานด้านข่าว และในปัจจุบัน อุตสาหกรรมข่าวทั่วโลกเผชิญความท้าทายจากการลดลงของผู้ชมและรายได้ โดยมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคข่าวไปสู่แพลตฟอร์มดิจิทัล

เปิดบริการสมัครสมาชิก และสตรีมมิง

ขณะเดียวกัน CNN ได้เปิดตัวบริการสมาชิกที่มีค่าบริการ 3.99 ดอลลาร์ต่อเดือน โดยมีการจำกัดจำนวนบทความฟรี และบางเรื่องถูกจัดไว้สำหรับสมาชิกเท่านั้น ทั้งยังเผยแผนเปิดตัวบริการสมาชิกใหม่ที่เน้นเนื้อหาไลฟ์สไตล์เป็นครั้งแรก แม้ปัจจุบัน CNN จะมีบริการ CNN Max ที่ให้บริการอยู่แล้วก็ตาม

ควบคู่ไปกับการปรับผังรายการในวันธรรมดาเพื่อเพิ่มความน่าสนใจของรายการต่าง ๆ มากขึ้น ซึ่งการเดินหน้ากลยุทธ์เหล่านี้จะช่วยให้ CNN สามารถแข่งขันในตลาดข่าวสารได้ดีกว่าเดิม และลดต้นทุนการดำเนินงานให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน รวมถึงสถานการณ์การรับชมโทรทัศน์ของผู้ชมที่ไม่เหมือนเดิม

Brand Inside มองว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของ CNN ในการปรับตัวให้เข้ากับยุคดิจิทัล โดยเน้นการลงทุนในแพลตฟอร์มที่ผู้ชมให้ความสำคัญ เช่น บริการสตรีมมิงและเนื้อหาสำหรับสมาชิก ซึ่งความมุ่งมั่นนี้น่าจะช่วยให้ CNN สามารถรักษาตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมข่าวในอนาคต

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา