ภายหลังการผนึกกำลังของแบรนด์แม็คโคร และ โลตัส ภายใต้ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด
(มหาชน) ได้กำหนดทิศทางธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกที่ชัดเชน โดยใช้ 3 กลยุทธ์สำคัญ คือ การเพิ่มความแข็งแกร่งกลุ่มสินค้าอาหารสด ช่องทางออนไลน์และการส่งสินค้าถึงลูกค้า (Omni Channel) รวมถึงการขยายสาขาใหม่และการปรับโฉมเดิม ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคและผู้ประกอบการ ทำให้ผลประกอบการมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รายได้เติบโตด้วยกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2567 ซีพี แอ็กซ์ตร้า มีกำไรสุทธิหลังการปรับปรุงรายการอยู่ที่ 2,410 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.3% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (YoY) และทำรายได้รวม 124,441 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1% โดย ปัจจัยหลักมาจากการขายอาหารสดและสินค้าที่มีส่วนแบ่งจากค่าดำเนินการ (GP) ในอัตราสูงของทั้งธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก
นอกจากนี้ยังเห็นได้ว่าหลังจากผ่านช่วงโควิด ผู้คนมีพฤติกรรมการบริโภคและการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป แม้ว่าจะออกมาซื้อสินค้านอกบ้านมากขึ้น แต่อีกหนึ่งช่องทางสำคัญของการจับจ่ายซื้อสินค้าของผู้คนในยุคปัจจุบันนิยมใช้ก็คือ ช่องทางออนไลน์และบริการเดลิเวอรี่ สิ่งนี้เองที่ทำให้ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ปรับการเดินกลยุทธ์ โดยเฉพาะ Omni Channel ที่ต้องตอบโจทย์และตรงใจผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งในไตรมาส 3/2567 ซีพี แอ็กซ์ตร้าสามารถสร้างสัดส่วน Omni Channel ได้สูงถึง 19% ของยอดขายรวม ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้
สิ่งนี้ยิ่งตอกย้ำความสำเร็จของกลยุทธ์ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ที่มีประสิทธิภาพและเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง นอกจากนี้ อีกสิ่งที่ทำให้ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ครองใจผู้บริโภคมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี คือ การจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพและครบครัน ในราคาที่คุ้มค่า ทำให้ 9 เดือนแรกของปี 2567 ซีพี แอ็กซ์ตร้า สามารถทำรายได้รวม 378,416 ล้านบาท เติบโตขึ้น 4.7% กำไรสุทธิ 6,609 ล้านบาท เติบโต 23.3% เทียบกับปีก่อน
ตอกย้ำผู้นำค้าปลีก-ค้าส่ง ด้วยการพัฒนาทุกช่องทางจำหน่าย
ซีพี แอ็กซ์ตร้า ยังตอกย้ำการเป็นผู้นำค้าส่งค้าปลีก ผ่านการพัฒนาทุกช่องทางจำหน่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพัฒนาช่องทางออนไลน์ผ่านแอปฯ Makro PRO และ Lotus’s SMART App รวมถึงบริการส่งถึงมือลูกค้า หรือ Delivery เพื่อตอบความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล ด้วยการเชื่อมคลังสินค้าออนไลน์ประมาณ 2,600 แห่งทั่วประเทศมาไว้ที่เดียวกัน พร้อมบริการส่งถึงมือลูกค้าได้รวดเร็วตามความต้องการ
ทั้ง 2 แอปฯ ยังมีการทำ Data Driven นั่นคือ การนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมเชิงลึกของลูกค้า เพื่อที่จะตอบความต้องการของลูกค้าได้แบบรายบุคคล (Personalization) ด้วยการนำเสนอโปรโมชั่นอิงตามพฤติกรรมลูกค้าแต่ละคน มีการเชื่อมต่อข้อมูล มีระบบแสดงสินค้า ราคาและการชำระเงิน มีระบบสะสมคะแนนแลกเป็นส่วนลดและสิทธิพิเศษอื่น ๆ
ทั้งหมดคือจุดที่สร้างความได้เปรียบ และทำให้ ซีพี แอ็กซ์ตร้า นำหน้าคู่แข่งรายอื่นๆ ในประเทศไทย
เดินแผนขยายสาขา Makro-Lotus’s เชื่อมข้อมูล 2 ห้างด้วยกัน
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ ซีพี แอ็กซ์ตร้า สร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีนี้ คือการขยายสาขาและปรับโฉมสาขาและพัฒนามอลล์เป็นศูนย์กลางชุมชน ให้มีความทันสมัยรองรับการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทของคนทุกวัย โดย 9 เดือนที่ผ่านมา มีการขยายสาขาใหม่ของทั้ง แม็คโครและโลตัส รวม 43 สาขา เป็นไปตามแผนที่วางไว้
ล่าสุดได้เปิดโลตัส สาขายะลา รูปแบบ Hypermarket แห่งแรกใน 3 จังหวัดภาคใต้ รวมถึงขยายสาขารูปแบบ Hybrid ที่รวมค้าปลีกและค้าส่งไว้ในที่เดียว ได้แก่ แม็คโคร-โลตัสมอลล์ สาขาชัยนาท และ สาขาถนนศรีอยุธยา รวมถึงการปรับโฉมสาขา เพื่อประสบการณ์ที่ดีกว่าให้ผู้บริโภค
ตั้งเป้าหมายเป็น Fresh & Food Destination
สำหรับธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ถือว่าส่วนของอาหารและอาหารสดเป็นความท้าทายไม่น้อย ในการต้องส่งสินค้าที่สดใหม่ออกไปทั่วประเทศ พร้อมกับรักษาคุณภาพจนถึงมือลูกค้าในทุกวัน ยิ่งพฤติกรรมผู้บริโภคมีความเปลี่ยนแปลง มีการซื้อผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เพราะผู้คนอยากได้ความสะดวกสบาย ในขณะเดียวกันก็ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพ และมีความคุ้มค่า
ขณะที่เทรนด์การรับประทานอาหารก็เปลี่ยนไป ผู้บริโภคเน้นความรวดเร็ว มองหาอาหารพร้อมปรุง อาหารพร้อมทาน และอาหารสุขภาพมากขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการธุรกิจก็มองหาวัตถุดิบพร้อมใช้ที่มีคุณภาพพร้อมใช้งาน เพื่อนำไปประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มร้านอาหาร
เทรนด์ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ได้มองเห็นและเตรียมการรับมือไว้แล้ว ทั้งการพัฒนา Omni Channel ออนไลน์-ออฟไลน์ และการส่งสินค้าถึงลูกค้า การมีเครือข่ายสาขาทั้งธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก 2,600 สาขาทั่วประเทศ พร้อมกับพัฒนาทีมขายนอกร้าน เพื่อให้บริการกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการได้ตรงความต้องการมากขึ้น
ส่วนสำคัญคือ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ตั้งเป้าหมายเป็น Fresh & Food Destination จุดหมายปลายทางของอาหารและอาหารสด เห็นได้จากการใส่ใจเรื่องความสดใหม่และความหลากหลายของสินค้า ซึ่งลูกค้าทุกคนสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวเองในทุกสาขาหรือแม้แต่การสั่งผ่านช่องทางออนไลน์ด้วยตัวเอง
บทสรุป ความคุ้มค่าที่มากกว่าแค่ราคา
ซีพี แอ็กซ์ตร้า เดินหน้าธุรกิจด้วยการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กลุ่มสินค้าอาหารสด สร้างความแตกต่างและหลากหลายในราคาที่คุ้มค่า ซึ่งได้รับการตอบอย่างดีจากผู้บริโภค และต่อยอดเป็นอาหารพร้อมปรุง อาหารพร้อมทาน เบเกอรี่ และสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัท
การผนึกกำลังของแม็คโครและโลตัส การเดินกลยุทธ์ Omni Channel พัฒนาช่องทางออนไลน์ และนำนวัตกรรมเข้ามาปรับใช้ในการให้บริการ เชื่อมต่อเครือข่ายสาขาราว 2,600 แห่ง และใช้ AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมเชิงลึก เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละคนได้อย่างแม่นยำ ทั้งหมดคือ การยกระดับการให้บริการของทั้งธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง ให้ก้าวไปอีกขึ้น โดยมีผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง ยืนยันได้ด้วยผลประกอบการไตรมาส 3 และผลการดำเนินงานรวม 9 เดือนในปีนี้ ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่คู่แข่งจะตามทัน เพราะถึงเวลานั้น ซีพี แอ็กซ์ตร้า อาจจะเดินนำหน้าไปอีกหลายก้าวแล้ว
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา