เปิดสาเหตุ Haier ขยายโรงงาน มองลงทุนในไทยเติบโตกว่าจีน

เปิดสาเหตุ Haier ขยายโรงงาน มองลงทุนในไทยเติบโตกว่าจีน

ไฮเออร์ ทุ่มทุนกว่า 10,000 ล้านบาทสร้างโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศแห่งแรกในประเทศไทย รองรับความต้องการของตลาดเครื่องปรับอากาศที่เพิ่มสูงขึ้น ตั้งเป้าผลิตเครื่องปรับอากาศกว่า 6 ล้านเครื่องต่อปี รองรับการจ้างงานคนไทยกว่า 3,000 ตำแหน่ง 

ไฮเออร์ ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้บริโภครายใหญ่จากประเทศจีน เดินเกมลุกสร้างโรงงานเพิ่มอีก 1 แห่ง หลังจากที่มีโรงงานผลิตตู้เย็น และเครื่องปรับอากาศ ก่อนหน้านี้ที่ จ.ปราจีนบุรี 

Brand inside มีโอกาสเข้าพูดคุยกับ มร.ต่ง เจี้ยนผิง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ถึงการมองโอกาสในการลงทุนในประเทศไทยกับการเติบโตของธุรกิจไฮเออร์ 

[ตลาดเครื่องปรับอากาศเติบโตต่อเนื่อง]

ต่ง เจี้ยนผิง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์  บอกว่า ตลาดเครื่องปรับอากาศของไฮเออร์ในประเทศไทยมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมูลค่ากว่าหลายหมื่นล้านบาท ทั้งนี้ไฮเออร์ยังคงเป็นผู้นำในตลาดโดยมีส่วนแบ่งกว่า 13% ในหมวดของเครื่องใช้ไฟฟ้า และ มีส่วนแบ่ง 11% ในหมวดเครื่องปรับอากาศ

[มองไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญ]

บริษัทไฮเออร์ เข้ามาก่อตั้งโรงงานแห่งแรกในประเทศไทยที่ จ.ปราจีนบุรี เมื่อปี พ.ศ. 2545 กำลังหลักในการผลิตตู้เย็นและเครื่องปรับอากาศส่งขายในประเทศและต่างประเทศ 

และต่อมาปี พ.ศ. 2550 ได้ซื้อกิจการโรงงานของบริษัท ซันโย ยูนิเวอร์แซล ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) และเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ไฮเออร์ อีเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) พร้อมตั้งบริษัทขายของตัวเอง คือ บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด 

โดย ต่ง เจี้ยนผิง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ บอกว่า ที่เลือกตั้งโรงงานแห่งที่ 2 บนพื้นที่ 324,000 ตร.ม. ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 (WHA ESIE 3) จ.ชลบุรี ก็เพราะว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญภายใต้โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของประเทศไทย ห่างจากท่าเรือแหลมฉบังใน จ.ชลบุรี 49 กิโลเมตร และห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 131 กิโลเมตร รวมถึงสามารถเชื่อมต่อด้านคมนาคมได้หลายเส้นทาง 

[โอกาสเติบโตกว่าจีน]

เมื่อถามว่าเหตุใดถึงเลือกเพิ่มโรงงานอีกแห่งในประเทศ ต่ง เจี้ยนผิง บอกว่า การเข้ามาลงทุนในประเทศไทยถือเป็นการสานสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยจีน และมองว่าการลงทุนในไทยมีโอกาสเติบโตมากกว่าประเทศจีน ด้วยการขนส่งที่เอื้ออำนวยต่อการนำเข้าส่วนประกอบและสะดวกต่อส่งออกสินค้า กับตลาดแรงงานที่กว้างกว่า 

อีกทั้งยังมองไทยเป็นฐานการขายและการส่งออกเครื่องปรับอากาศอีกด้วย เนื่องจากประเทศไทยมีอากาศที่ร้อน ทำให้เครื่องปรับอากาศขายดี ถึงแม้เศรษฐกิจจะชะลอตัวก็ตาม เราจึงตั้งเป้าให้โรงงานแห่งนี้ผลิตเครื่องปรับอากาศให้ได้ 6 ล้านเครื่องต่อปี 

ซึ่งคาดการณ์ว่าการเปิดโรงงานแห่งใหม่นี้จะมีการจ้างงานคนไทยในจ.ชลบุรีกว่า 3,000 อัตรา ส่วนจะมีการจ้างคนจีนเข้ามาทำงานด้วยหรือไม่นั้น เจี้ยนผิง บอกว่า อาจจะมีแค่ 30 คน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญ

สอดคล้องกับข้อมูลเรื่องมาตรการส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ ที่ระบุว่า ภาครัฐมีนโยบายสนับสนุนการลงทุนของภาคเอกชน คือ การละเว้นภาษีทั้งหมดในช่วงเวลา 8 ปีแรกและ 5 ปีถัดมาเสียภาษี 50% 

โรงงานดังกล่าวมีแผนการดำเนินการก่อสร้างแบ่งเป็น 3 เฟส และมีกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2570 ซึ่งเฟสแรกจะเปิดในส่วนของการผลิต 3 ล้านเครื่องในเดือนกันยายน 2568 เฟสที่สองและเฟสสามจะเสร็จสิ้นพร้อมเปิดดำเนินการในปี 2569 และ 2570 ตามลำดับ 

ทั้งนี้หลังจากดำเนินการก่อสร้างเสร็จสิ้น โรงงานแห่งนี้จะกลายเป็นฐานการผลิตเครื่องปรับอากาศที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา