สมโภชน์ ยอมรับ EA ถูก Force Sell เหตุ Private Banking เล่นงาน ย้ำธุรกิจเจ๊ง EA ก็มีเงินจ่ายหนี้

สมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA ยอมรับว่า บริษัทถูก Force Sell จริง และเหตุการณ์นี้จบลงแล้ว ต้นเหตุมาจากการนำความมั่งคั่งส่วนตัวไปค้ำประกันเงินกู้กับ Private Banking รายหนึ่งเพื่อได้เงินกู้ 3% ของความมั่งคั่ง หรือหลักพันล้านบาท ย้ำ EA ยังแข็งแกร่ง ถึงทุกธุรกิจเจ๊งก็ยังมีเงินจ่ายหนี้

EA

เปิดสตอรี่หุ้น EA ถูก Force Sell

สมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA เล่าให้ฟังว่า จากจุดเริ่มต้นเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2024 ที่มูลค่าหุ้นของ EA นั้นลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และลดลงอย่างต่อเนื่องหลังจากนั้น โดยเฉพาะวันที่ 28 มิ.ย. 2024 ที่มีมูลค่าซื้อขายจำนวนมาก หรือกว่าหมื่นล้านบาท ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจากการถูก Force Sell

“เมื่อรายหนึ่ง Call และโดน Force ทุกอย่างก็ไหลเป็น Momentum และวันนี้ (1 ก.ค. 2024) ทุกอย่างควรจะจบแล้ว ซึ่งแน่นอนผมก็เสียหาย แต่โดยรวมแล้วหุ้นที่เหลืออยู่ของผม และพันธมิตรต่าง ๆ ยังเกิน 50% ของบริษัท จึงยืนยันว่าบริษัทยังอยู่ในฐานะที่ปลอดภัย และยอมรับว่าผมเจ็บ แต่ไม่ตาย”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2024 หุ้นของ EA มีมูลค่าลดลงต่อเนื่อง หรือจาก 46 บาท ในช่วงต้นปี แต่ตอนนี้ (1 ก.ค. 2024) เหลือราว 12 บาท สะท้อนถึงความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุน และระหว่างนั้นมีข่าวลือออกมาอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจที่มีปัญหาของ EA หรือ สมโภชน์ อาหุนัย จะหนีออกไปต่างประเทศ

สาเหตุมาจากการนำสินทรัพย์ไปค้ำประกัน

สมโภชน์ กล่าวต่อว่า เมื่อ 4-5 ปีก่อน ได้เริ่มทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงินต่างประเทศในส่วน Private Banking เพื่อกระจายความเสี่ยงในการลงทุน เพราะมีการถือหุ้นไว้จำนวนมาก ซึ่งเวลานั้นมีการนำความมั่งคั่งของตัวเองไปค้ำประกันเพื่อได้มาซื้อเงินกู้ในสัดส่วน 3% ของมูลค่าความมั่งคั่ง หรือคิดเป็นมูลค่าหลักพันล้านบาท

“ถ้าถามว่าผมไปกู้ทำไม ก็ต้องถาม Private Banking เหมือนกันว่า มีหุ้นไว้ทำไมไม่กระจายความเสี่ยง จะได้เอาเงินไปกระจายการลงทุน ซึ่งมันก็ถูกต้องตามหลักที่ผมเรียนมา ซึ่งโชคดีที่ผมทำแค่บางส่วน แต่ด้วยมูลค่า 3% มัน Leverage ขึ้นมา จึงกลายเป็นปัญหาที่หนักอีกครั้งของชีวิต”

“ผมพยายามเต็มที่ไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น และผมคุยกับสถาบันการเงินดังกล่าวทันทีที่เรื่องนี้มัน Trigger ซึ่งผมมีทรัพย์สินที่อยู่กับเค้าเป็นจำนวนมาก หรือเรียกว่าพอจะจ่ายทั้งหนี้ และดอกเบี้ยได้เลย แต่เขาไม่มองอย่างนั้น และประเมินทุกอย่างเป็นศูนย์ ทำให้เขาต้องการทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินสด”

EA

เจรจาถึงขั้นให้ผู้ใหญ่มาช่วยก็ยังไม่ยอมรับ

สมโภชน์ เสริมว่า ด้วยเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่เรื่องธุรกิจ และไม่อยากให้มีผลกับมูลค่าหุ้นที่จะกระทบกับหลายฝ่าย จึงเจรจาเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้ต่อเนื่อง เช่น วันที่ 25 มิ.ย. 2024 ที่ขายบิ๊กลอตไป 2 ลอต ด้วยราคาเฉลี่ยของตลาด ซึ่งวันที่ 26 มิ.ย. 2024 มีการเจรจากันต่อแต่ก็ยังไม่ยอม และสถาบันการเงินนั้นก็ยังขายทรัพย์สินต่อเนื่อง

“ผมไปเจรจาตอนแรกก็เหมือนสถาบันการเงินจะยอมรับ แต่พอหลังเที่ยงของวันพุธก็เปลี่ยนใจ และขายสินทรัพย์ต่อแม้ผมจะไปบอกเขาแล้วว่ามีสถาบันการเงินอีกรายอยากเข้ามาช่วยผม ซึ่งต่อมาก็มีผู้ใหญ่ที่มีความมั่งคั่งแต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อมาช่วย โดยให้ทางนั้นนำหนี้ของผมไปลงบัญชีในชื่อเขา แต่ทางนั้นก็ไม่ยอมอยู่ดี”

เมื่อเรื่องมาถึงวันที่ 28 มิ.ย. 2024 มูลค่าหุ้น EA ก็เละไปแล้ว ซึ่งถือว่าโชคดีที่กู้แค่ 3% ของสินทรัพย์ หากเพิ่มเป็น 5% หรือมากกว่านั้นเหมือนผู้อื่นก็คงมีแรงขายเพิ่มขึ้นอีกเท่านั้น และคงไม่จบเร็วแน่นอน ดังนั้นผมจึงเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะ Volume ขนาดนี้ทำให้คนอื่นเสียหายไปด้วย และยืนยันว่าพยายามแก้ไขเรื่องนี้อย่างเต็มที่แล้ว

เงินสดภายใน 3 วัน ใครก็ทำได้ยาก

จากการที่สถาบันการเงินดังกล่าวตีมูลค่าสินทรัพย์เป็นศูนย์ โดยเฉพาะกับหุ้น EA ประกอบกับการต้องการให้ชำระหนี้เป็นเงินสดภายใน 3 วัน ซึ่งเป็นการยากที่จะนำเงินหลักพันล้านบาทมาส่งมอบในระยะเวลาดังกล่าว โดยช่วงระยะเวลาที่ทำสัญญาดังกล่าว มูลค่าหุ้นของ EA ลดลงมาจากจุดสูงสุดเล็กน้อย หรือไม่ถึง 100 บาท/หุ้น

“อยากบอกว่าถึงมีทรัพย์สินมหาศาล Private Banking ก็มันก็ Force เอาเงินสดคุณได้ ซึ่งถ้ามีใครให้ผมยืม หรือมาหุ้นกับผม ผมซื้อหุ้นที่โดน Force กลับคืนมาแน่นอน ยิ่งเมืองนอกมองเราไม่ใช่บริษัทขี้ไก่ แต่ในไทยผมโดนข่าวลือเล่นจนผมไม่มีตัวตน ซึ่งผมมองว่าไม่แฟร์เท่าไรนักกับเหตุการณ์นี้ และย้ำว่าผมไม่ใช่ Stark แน่นอน”

สมโภชน์ ย้ำว่า ส่วนตัวไม่ได้ Short หุ้นตัวเองแน่นอน ส่วนกรณีของผู้บริหารคนอื่นในทีมถึงจะไม่รู้ว่าพวกเขา Short หรือไม่ แต่เชื่อว่าพวกเขาก็ไม่ได้ Short เหมือนกัน เพราะทุกคนต่างได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ และพยายามช่วยกันเร่งแก้ปัญหา

ความเชื่อมั่นของบริษัทก็ต้องมาสร้างใหม่

สมโภชน์ กล่าวว่า สิ่งที่ห่วงตอนนี้คือความน่าเชื่อถือของบริษัทที่ต้องมาสร้างใหม่ เพราะจริง ๆ แล้วตอนนี้ไม่มีใครทำธุรกิจโดยมีทุนอย่างเดียว ต้องมีส่วนที่เป็นหนี้อยู่ด้วย ทำให้ข่าวลือ หรือเรื่องอื่น ๆ ที่มีผลต่อความเชื่อมั่น ตลาดทุนก็ควรมีหน้าที่ส่งเสริมให้ธุรกิจเติบโต ไม่ใช่มาเล่นเกมแบบนี้

“เอาง่าย ๆ ธุรกิจ EA เจ๊ง 100% หรือ แบตเตอรี่เจ๊ง, NEX เจ๊ง และรถเมล์เจ๊ง แบบไม่ได้เงินคืน บริษัทก็ยังจ่ายหนี้ได้ ซึ่งผมเชื่อว่าตอนนี้ Book Value ของบริษัทมันยังไม่ใช่ ในทางกลับกัน ผมเพิ่งไปเซ็นบันทึกความร่วมมือระดับพาร์ตเนอร์กลยุทธ์กับ CRRC ผู้ผลิตรถไฟรายใหญ่ที่สุดของโลกจากจีน ก็แสดงให้เห็นว่าต่างชาติมองเราอย่างไร”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด้วยการเดินทางไปเซ็นบันทึกความร่วมมือข้างต้นเกิดขึ้นในวันที่ 28 มิ.ย. 2024 ทำให้มีข่าวลือว่า สมโภชน์ อาหุนัย อาจเดินหน้าหนีออกไปต่างประเทศ และทำให้เกิดการขายหุ้นจากนักลงทุนต่าง ๆ ผ่านเหตุผลเรื่องกลัวบริษัท EA จะเจ๊ง

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา