7 เดือน ‘ข้อมูลคนไทย’ รั่วไหลแล้ว 5 พันกว่าเรื่อง พบขายข้อมูล 100 เคสให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์-เงินนอกระบบ-เว็บพนัน

เพียงแค่ 7 เดือนเท่านั้นจากช่วงปลายปีที่แล้วจนมาถึงต้นปีนี้ PDPC ตรวจพบข้อมูลคนไทยรั่วไหลแล้ว 5,978 เรื่อง มากสุดจากองค์กรท้องถิ่น-ภาครัฐ ส่วนขายข้อมูลพบ 100 เคสให้คอลเซ็นเตอร์-เว็บพนัน-เงินกู้

รายงานสรุปข้อมูลจาก ศูนย์เฝ้าระวังการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล (PDPC Eagle Eye) พบตั้งแต่ช่วงเดือน พฤศจิกายน 2566 – พฤษภาคม 2567 ได้ตรวจสอบแล้ว 26,301 หน่วยงาน ตรวจพบข้อมูลรั่วไหล 5,978 เรื่อง และดำเนินการแก้ไขแล้ว 5,969 เรื่อง
.
โดยหน่วยงานที่พบการรั่วไหลของข้อมูลมากที่สุด คือ
  • องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2,833 เรื่อง
  • ภาครัฐ 2,421 เรื่อง
  • การศึกษา 680 เรื่อง
  • อื่นๆ 35 เรื่อง

ละเมิดข้อมูลตรวจพบเกิดจาก human error และเผยเกินจำเป็น

ด้านปัญหาเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล สถิติถึงวันที่ 12 มิถุนายน 2567 มีการแจ้งเหตุละเมิดรวม 564 เรื่อง
สาเหตุที่เกิดละเมิดมากที่สุดมาจาก Human Error 203 เรื่อง และการเปิดเผยข้อมูลเกินความจำเป็น 145 เรื่อง
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC เผยว่า ได้มอบนโยบายให้กับหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เครือข่ายธุรกิจประกันภัย หน่วยงานภาคการเงิน และภาคเอกชน 2,216 หน่วยงานช่วยเป็นกลไกในการทำงานและช่วยลดเหตุการละเมิดข้อมูลลง

พบขายข้อมูล 100 เคส ส่วนใหญ่ขายบนโซเชียลมีเดีย

PDPC Eagle Eye ยังตรวจพบการซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคลอีก 100 เรื่อง ส่วนใหญ่เกิดบนโซเชียลมีเดีย Facebook ถึง 81 เรื่อง รวมถึงในกลุ่ม LOCKBIT 3.0, แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เงินกู้นอกระบบ และเว็บพนันซื้อขายข้อมูล

แก้ไขการรั่วไหลแล้ว 99.85% สัดส่วนลดลงทุกเดือน

โดยทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC ได้ดำเนินมาตรการป้องปราบ PDPC Eagle Eye ได้แก้ไขข้อมูลรั่วไหลแล้ว 99.85%
ทำผ่านการเข้าไปตรวจสอบการป้องกันกระบวนการป้องกันข้อมูลของทุกหน่วยงาน พร้อมประสานกับเจ้าหน้าที่ DPO ให้ดำเนินมาตรการที่รัดกุมและเข้มงวดมากขึ้น
ทำให้ตัวเลขการพบข้อมูลรั่วไหลในระยะเวลา 7 เดือนที่ผ่านมา มีจำนวนและสัดส่วนลดลงต่อเนื่องทุกเดือน จากระยะแรกที่มีสัดส่วนการรั่วไหลสูงสุด 31.40% ลดลงมาในเดือนล่าสุดเหลือเพียง 1.21%
PDPC บอกว่า อยากให้ทุกภาคส่วนหากพบเห็นการซื้อขายข้อมูลสามารถแจ้งเหตุเข้ามาที่ PDPC Eagle Eye เพื่อให้เราเร่งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และขยายผลบังคับใช้กฎหมายเข้าจับกุมทันที

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา