สปา-ฮาคูโฮโด เอเจนซี่ด้านการโฆษณา แยก 3 กลุ่มธุรกิจย่อย มีธุรกิจการตลาดสำหรับลูกค้าแบรนด์จีนโดยเฉพาะ

สปา-ฮาคูโฮโด ครีเอทีฟ เอเจนซี่ เบอร์ต้นของไทย ประกาศปรับโครงสร้างและกลยุทธ์องค์กร แตก 3 หน่วยธุรกิจย่อย ดึงคนรุ่นใหม่ขึ้นมาเป็น Key Leader

กลยุทธ์และการปรับโครงสร้างองค์กร

จิรภัทร์ กาญจะโนสถ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สปา-ฮาคูโฮโด จำกัด เล่าให้ฟังถึงการให้บริการด้านการตลาดและการโฆษณาของบริษัทในปัจจุบันว่า สปา-ฮาคูโฮโดให้บริการแบบ Full-Service ที่มีจุดแข็งอยู่ตรงที่การให้บริการลูกค้าแบรนด์เป็นระดับ 10 ปีขึ้นไปและไม่ได้ให้บริการแค่เรื่องการตลาด แต่ยังมีบริการวางแผนธุรกิจ คิดกลยุทธ์เพื่อการหาโซลูชั่นทางธุรกิจที่เปรียบเป็นคุณค่าเสริมให้กับบริษัท

สำหรับปี 2023 ที่ผ่านมา สปา-ฮาคูโฮโด มีสัดส่วนลูกค้าใหม่ 30% และมีการเติบโตมากกว่า 50% สวนกระแสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงทั่วโลก 

ในปี 2024 นี้ บริษัทตั้งเป้าเพิ่มการเติบโตให้ได้มากที่สุดหรือเป็น “The Eras of Growth” ด้วยการแตกกลุ่มธุรกิจย่อย (Business Unit) ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ Space, Plant และ Archer

Space กลุ่มธุรกิจบริการด้านการวางแผนแคมเปญการตลาดที่เน้นไปที่การทำการตลาดยุคใหม่ กลุ่มธุรกิจนี้อันที่จริงได้ริเริ่มมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยเฉพาะในเรื่องการใช้สื่อที่เปลี่ยนมาเป็นการใช้สื่อดิจิทัล ทำให้งบประมาณและวิธีการคิดแคมเปญเปลี่ยนแปลงไปด้วย กลุ่มธุรกิจนี้จะมุ่งนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยวางแผนด้านการสื่อสารและการทำแบรนดิ้ง

Plant กลุ่มธุรกิจบริการในการร่วมพัฒนาแผนกลยุทธ์และแผนธุรกิจร่วมกับลูกค้า เป็นที่ปรึกษาของธุรกิจตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ เน้นที่การมองปัญหาอย่างถูกจุดและแก้ปัญหาอย่างถูกต้อง การร่วมวางแผนธุรกิจเป็นเหมือนคุณค่าเสริมของสปา-ฮาคูโฮโดทำให้ในช่วงโควิด -19 ไม่ได้รับผลกระทบ เพราะกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจก็เปลี่ยนด้วย ทำให้มีลูกค้าใหม่เข้ามาเพราะต้องการปรับกลยุทธ์ในเชิงการตลาด 

Archer กลุ่มธุรกิจที่เน้นให้บริการแบรนด์จีนและแบรนด์ไทยในตลาดค้าปลีกที่เน้นการทำการตลาดคล้ายกับธุรกิจจีน ปัจจุบัน นักลงทุนจีนมีบทบาทมากในการทำธุรกิจในประเทศไทยโดยเข้ามาพร้อมนวัตกรรมต่าง ๆ สปา-ฮาคูโฮโดจึงมองเห็นโอกาสจากธุรกิจเหล่านี้ รวมทั้งเข้าใจวิธีการคิดที่แตกต่างและการดำเนินธุรกิจแบบรวดเร็วของจีน เน้นเรื่องการสร้างสรรค์ผลงานแบบพุ่งเป้าและความคล่องตัว

การลงทุนและพัฒนาของธุรกิจ 3 กลุ่มจะเน้นใน 4 ด้าน คือ 

  • Infrastructure ปรับโครงสร้างพื้นฐานให้เข้ากับกลุ่มธุรกิจย่อย
  • Resource การพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านไปดูแลแต่ละธุรกิจ
  • Innovation นวัตกรรมเพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพและแม่นยำ 
  • Tool เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับกลุ่มธุรกิจ 

นอกจากการแตกธุรกิจเป็นกลุ่มย่อยแล้ว จะมีการปรับโครงสร้างองค์กรดึงคนรุ่นใหม่ขึ้นมาเป็นผู้นำในแต่ละด้าน ดังนี้

  • บงกช เจริญธรรม ช่วยบริหารเรื่องการเชื่อมต่อ และเสริมสร้างเครือข่ายฮาคูโฮโดทั่วโลก
  • ชาญวิทย์ ตระกูลไพรบูลย์ผล การพัฒนานวัตกรรมเพื่อการทำการตลาดยุคใหม่
  • พิมพิศา จุฬา เทิดทูลทวีเดช การพัฒนาแพลตฟอร์มทางธุรกิจ
  • ภัค บุญชูสนอง การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ (Creative Solution)
  • นัฐกาญจน์ วัฒนมงคงศิลป์ การวางกลยุทธ์ด้านการค้นคว้า

สำหรับปี 2024 นี้ การเติบโตของบริษัทอาจไม่ได้เทียบเท่าการเติบโตในปีที่แล้วที่เป็นปีที่ริเริ่มการแบ่งธุรกิจออกมาเป็น 3 กลุ่มย่อย แต่ตั้งเป้าหมายว่าทุกหน่วยธุรกิจจะสร้างการเติบโตได้ราว 30% ส่วนการเติบโตโดยรวมคาดว่าจะเติบโตเกินภาพรวมของอุตสาหกรรม

เทรนด์การตลาดของคนแต่ละรุ่น

จิรภัทร์ กาญจะโนสถ ยังได้เล่าให้ฟังถึงเทรนด์ของคนแต่ละรุ่นในปัจจุบันที่ส่งผลต่อการทำแคมเปญด้านการตลาดด้วย 

สถานการณ์ทั่วโลกและในประเทศไทยในปี 2020 มีประชากรทั่วโลก 8 ล้านล้านคน ในระหว่างปี 2020-2050 คาดว่าจำนวนประชากรจะเติบโตน้อยลงกว่าในอดีต โดยค่าเฉลี่ยอายุกลางของโลกอยู่ที่ 30 ปี ขณะประเทศไทยเฉลี่ยอยู่ที่ราว 40 ปี สูงกว่าตลาดทั่วโลก ถ้าหากแบ่งตามสัดส่วนเพศ ทั่วโลกผู้ชายมีจำนวนมากกว่าผู้หญิง แต่ในประเทศไทยกลับมีผู้หญิมากกว่า โดยเฉพาะในกลุ่มที่อายุมากจำนวนผู้หญิงยิ่งห่างจากผู้ชาย 

สรุปในภาพรวมประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว การเกิดน้อยลง ขณะที่มีจำนวนบ้านหรือครัวเรือนเพิ่มขึ้นแต่จำนวนคนที่อาศับในครัวเรือนเดียวกันกลับน้อยลง เฉลี่ยบ้านละ 1-2 คนเท่านั้น ส่วนการเติบโตของพื้นที่เมืองของไทยอยู่ที่ 52.16% ต่ำกว่าทั่วโลกที่อยู่ที่ 57% แต่ก็ถือว่าเติบโตสูงขึ้นมาก

พฤติกรรมของคนในแต่ละช่วงอายุก็เปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกัน กลุ่ม Baby Boomer อายุ 60 ปีขึ้นไป ปัจจุบันมี 25% ในปัจจุบันใช้ชีวิตดิจิทัลมากขึ้น เป็นช่วงเวลาการใช้ชีวิตของตัวเอง คิดถึงความสุขของตัวเองเป็นหลักพร้อมทดลองเริ่มทำสิ่งใหม่ ๆ เรียนรู้การใช้โซเชียล มีอินฟลูเอนเซอร์ที่เป็น Baby Boomer แคมเปญโฆษณาของบริษัทจึงเน้นไปพูดถึงการใช้ชีวิตแบบใหม่ของคนสูงอายุ

Gen X อายุ 44–59 ปี ปัจจุบันมี 17% ในอดีตเป็นกลุ่มที่ทำงานเป็นหลัก แต่ปัจจุบันเป็นคนที่มีกิจกรรมพิเศษที่ไม่ใช่แค่เรื่องานอย่างเดียว มีงานอดิเรกมากขึ้น เป็นกลุ่มที่ต้องให้เวลาคนอื่นแต่ก็แบ่งเวลาให้ตัวเอง ช่วงนี้เป็นวัยที่จะสร้าง Loyalty ต่อแบรนด์ การทำแคมเปญจึงต้องเน้นไปที่การทำการตลาดแบบย้อนหลัง (Nostalgia) หรือการเสนอสินค้าที่ตอบรับกับความต้องการของทุกคน

Gen Y อายุ 27-42 ปี ปัจจุบันมี 23.5% ในอดีตเป็นกลุ่มที่ทำงานหนัก แต่ปัจจุบันกลายเป็นกลุ่มที่ต้องการใช้ชีวิตให้เต็มที่ มองประสบการณ์การเป็นสิ่งที่มีค่า จากเดิมจะใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าแต่ในปัจจุบันใช้จ่ายไปกับการซื้อประสบการณ์มากกว่า นำไปสู่การทำแคมเปญโฆษณาที่นำเสนอการท่องเที่ยวเชิงลึก การหาประสบการณ์ใหม่ การออกไปใช้ชีวิตกับธรรมชาติ และการให้ความสำคัญกับด้านสุขภาพ

Gen Z อายุ 14-28 ปี ปัจจุบันมี 19.5%เป็นช่วงอายุที่ไม่มีกรอบ มีความเป็นตัวเอง กล้าคิด กล้าทำ มีความต้องการเปลี่ยนแปลงวิธีคิดและเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้น ยอมรับความหลากหลาย แคมเปญการตลาดเพื่อคนกลุ่มนี้จึงเน้นที่การกล้าคิด กล้าทำ ความมั่นใจในตัวเอง

Alpha Gen อายุต่ำกว่า 14 ปี ปัจจุบันมี 15% เป็นกลุ่มที่เกิดมาใช้ชีวิตในยุคของ AI และโลกดิจิทัล เป็น AI Citizen อย่างสมบูรณ์ ต้องปรับตัวในโลกจริงมากกว่าโลกดิจิทัลทำให้ผู้ปกครองพยายามสร้างความสมดุลระหว่างธรรมชาติและดิจิทัล ผู้ใช้สินค้าและบริการอาจเป็น Alpha Gen แต่ผู้ใช้จ่ายเป็นผู้ปกครองที่อยู่ใน Gen Y การทำการตลาดจึงต้องสะท้อนถึงความเข้าใจในกลุ่ม Alpha Gen 

สำหรับกลุ่มช่วงอายุที่มีโอกาสสำหรับนักการตลาดมากที่สุด กลุ่มแรก คือ Baby Boomer เพราะประชากรในสัดส่วนมากที่สุดที่ 25% กลายเป็นกลุ่มที่น่าสนใจจากเดิมที่การทำตลาดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาให้ความสนใจกับ Gen Y เพราะมองว่ามีกำลังซื้อมาก กลุ่มที่น่าสนใจอีกกลุ่มหนึ่ง คือ Alpha Gen ที่แม้จะมีประชากรน้อยกว่าแต่สมาชิกในครอบครัวพร้อมจ่ายเงินเพื่อสนุบสนุน เฉลี่ยแล้วมีคนพร้อมจ่าย 5 คนต่อเด็กเพียง 1 คน

สปา-ฮาคูโฮโด คือใคร?

สปา-ฮาคูโฮโด เป็นบริษัทเอเจนซี่ด้านการโฆษณาที่เกิดจากบริษัทไทยรวมกับเครือในญี่ปุ่น เริ่มจากในปี 1981 ก่อตั้งเอเจนซี่ SPA Advertising โดยบริษัทโอสถสภาที่เห็นโอกาสในการทำธุรกิจโฆษณาเลยแตกโมเดลธุรกิจอีกอันหนึ่งมารองรับความต้องการ โอสถสภาเองก็เป็นลูกค้าด้วย 

บริษัทได้เป็นผู้ริเริ่มการทำ Music Marketing การใช้ดนตรีในการสื่อสารการตลาด เช่น โฆษณา Toyota ครบ 30 ปี รวมทั้งนำพรีเซนเตอร์เกาหลีมาใช้กับแบรนด์ไทย Twelve Plus เพราะเห็นอิทธิพลของเกาหลีที่เริ่มเข้ามาตั้งแต่ช่วงนั้น ต่อมาในปี 2009 SPA Advertising ได้รวมกับกลุ่มฮาคูโฮโดที่เป็นเจเจนซี่ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นมีเครือข่ายอยู่ทั่วโลกทั้งสหรัฐอเมริกา ยุโรป เอเชีย ที่มีข้อมูล วิธีคิด และการเข้าใจตลาดทั่วโลก 

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา