กระแสเรื่องของ AI และ Robot กำลังมาแรง เพื่อร่วมเตรียมความพร้อมสู่การเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศเกาหลีใต้ แอลจี อีเลคทรอนิคส์ หรือ LG เลยเปิดตัวหุ่นยนต์อัจฉริยะที่สนามบินนานาชาติอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งจะให้บริการแก่นักเดินทางจำนวนราว 57 ล้านคนจากทั่วโลกที่เดินทางมาเยือนเกาหลีใต้ในแต่ละปี
ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา LG ได้ทดลองให้บริการ Airport Guide Robots หุ่นยนต์นำทางอัจฉริยะและ Airport Cleaning Robots หุ่นยนต์ทำความสะอาดภายในสนามบิน เพื่อช่วยเหลือผู้ที่เดินทางเข้าและออกจากประเทศเกาหลีใต้ หุ่นยนต์นำทางจะเคลื่อนที่ไปทั่วสนามบิน เพื่อให้ข้อมูลที่สำคัญต่างๆ แก่ผู้โดยสาร สำหรับหุ่นยนต์ทำความสะอาดนั้นจะคอยสอดส่องดูแลความสะอาดทั่วพื้นที่สนามบิน
หุ่นยนต์นำทางในสนามบินได้รับการยกระดับด้วยระบบจดจำเสียงของ LG สามารถเข้าใจและสื่อสารได้ 4 ภาษา คือ เกาหลี, อังกฤษ, จีน และ ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นภาษาที่มีการใช้งานมากที่สุด ณ สนามบินอินชอน เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้โดยสารผ่านเสียงพูดได้ หุ่นยนต์ดังกล่าวยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบส่วนกลางของสนามบิน เพื่อแสดงข้อมูลของเที่ยวบินต่างๆ ตำแหน่งของร้านอาหาร ร้านค้า และอื่นๆ โดยสแกนบัตรที่นั่ง หุ่นยนต์นำทางสามารถพาผู้โดยสารที่เดินทางมาสายหรือหลงทางไปสู่ประตูทางเข้าเครื่องบินที่ถูกต้อง
สำหรับหุ่นยนต์ทำความสะอาดของสนามบิน ใช้ความสามารถในการทำความสะอาดจากเครื่องดูดฝุ่น LG HOM-BOT, ระบบนำทางที่ทำงานอย่างอิสระ และความสามารถในการหลบหลีกวัตถุต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อใช้ในส่วนของพื้นที่ร้านค้าและพื้นที่สาธารณะ สามารถตรวจจับพื้นที่ที่ต้องการการทำความสะอาดบ่อยครั้งที่สุด จัดเก็บข้อมูลตำแหน่งของพื้นที่นั้นๆ ไว้ในฐานข้อมูล และคำนวณหารูปแบบการเคลื่อนที่ไปยังจุดดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยหุ่นยนต์สนามบินอัจฉริยะเหล่านี้ LG แสดงให้เห็นถึงความคิดริเริ่มในการพัฒนาและต่อยอดธุรกิจหุ่นยนต์เชิงพาณิชย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนขับเคลื่อนสู่การเติบโตในอนาคต ปัจจุบัน ธุรกิจหุ่นยนต์ของ LG แบ่งออกเป็นสองส่วนคือ หุ่นยนต์ภายในบ้าน ได้แก่ เครื่องดูดฝุ่น HOM-BOT และหุ่นยนต์ผู้ช่วยในบ้านใหม่ล่าสุดที่ชื่อว่า Hub Robot ส่วนที่สองคือธุรกิจหุ่นยนต์เชิงพาณิชย์ ประกอบด้วยหุ่นยนต์ที่ออกแบบสำหรับบริการต่างๆ ในพื้นที่สาธารณะโดยเฉพาะ เช่น สนามบิน โรงแรม และธนาคาร
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา