การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะมีความเสี่ยงที่น้อยกว่าการลงทุนในหุ้น และยังให้ผลตอบแทนที่กว่าการนำเงินไปฝากไว้กับธนาคารเฉยๆ และจุดนี้เองทำให้ “กลุ่มฮาบิแทท” มุ่งหน้าเรื่องนี้เต็มที่
โฟก้สตลาดลงทุนเช่าผลตอบแทนสูง
ถ้าดูกันให้ดี อสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นจำนวนมาก โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม นั้นไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อขายให้กับผู้ที่สนใจซื้อเพื่อพักอาศัยเท่านั้น ยังมีกลุ่มที่ซื้อเพื่อไว้ลงทุนปล่อยเช่า แต่ด้วยผลตอบแทนในกรุงเทพเริ่มลดลงเรื่อยๆ ผ่านราคาที่ดิน และราคาต่อตร.ม. ที่มากขึ้น ทำให้การซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าในกรุงเทพฯ อาจให้ผลตอบแทนไม่ดีนัก
ชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด เล่าให้ฟังว่า ช่วงเกือบสิบปีก่อน การลงทุนซื้อคอนโดมิเนียมระดับ Luxury ในกรุงเทพฯ เพื่อปล่อยเช่านั้นได้ผลตอบแทนสูงถึง 10% ของราคาซื้อ แต่ปัจจุบันเหลือแค่ 5-6% เท่านั้น เพราะราคาต่อตร.ม. เริ่มพุ่งเกิน 2 แสนบาท
“กลุ่มฮาบิแทท” ได้เห็นถึงทิศทางนี้ และตัดสินใจลงทุนคอนโดมิเนียมในต่างจังหวัด พร้อมวางตำแหน่งเป็นคอนโดมิเนียมระดับ Luxury ที่ขายให้กับผู้ที่สนใจลงทุนปล่อยเช่าเท่านั้น ผ่านจุดเด่นเรื่องการการันตีผลตอบแทน 7% ใน 5 ปีแรก และหลังจากนั้นจะแบ่งรายได้ที่เกิดขึ้นระหว่างเจ้าของห้อง กับทางโครงการแล้วแต่สัญญาที่ทำไว้
กฎหมายไม่ต้องกลัว เพราะสร้างมาแบบโรงแรม
“เราโตมาจากธุรกิจซื้อคอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองเพื่อปล่อยเช่า แต่พอในเมืองมันผลตอบแทนต่ำ เราก็ไปสร้างคอนโดมิเนียมเองในพัทยามา 5 ปีแล้ว และแต่ละโครงการก็ชูเรื่อง Luxury ซึ่งตอนนี้ก็มีอยู่ 5 โครงการ และขายไปเกิน 70% ในทุกโครงการแล้ว เนื่องจากเรา Fully Furnished ทุกโครงการ มีตัวแทนหาคนเช่าให้”
สำหรับประเด็นเรื่องกฎหมายนั้น ทางกลุ่มได้ออกแบบคอนโดมิเนียม Luxury ทุกโครงการให้ตรงกับกฎเกณฑ์ของโรงแรม เช่นเรื่องลิฟท์ และบันไดหนีไฟ ประกอบกับผู้ซื้อทุกคนต่างซื้อเพื่อปล่อยเช่า ไม่ได้เข้ามาอยู่เอง รวมถึงมีนิติบุคคล จึงสามารถเปลี่ยนการจดทะเบียนจากคอนโดมิเนียม เป็นโรงแรมได้ทันที
โอกาสบ้านจัดสรรขนาดเล็กใน CBD ยังมี
อย่างไรก็ตาม “กลุ่มฮาบิแทท” เตรียมลงทุนโครงการในพัทยาบริเวณวงศ์อมาตย์มูลค่ากว่า 800 ล้านบาท เพื่อรับการท่องเที่ยวในพัทยาที่ไม่มีวันหยุด และมีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอด ในทางกลับกันทางกลุ่มเตรียมลงทุนสร้างโครงการบ้านพักอาศัยระดับ Luxury ขนาด 1 ไร่ บริเวณซอยร่วมฤดี มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท เพื่อรับความต้องการของผุ้บริหารรุ่นใหม่ที่ต้องการใช้ชีวิตในเมือง แต่ไม่ชอบชีวิตคอนโดมิเนียม
สรุป
คอนโดมิเนียมปล่อยเช่ายังเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่ เพราะนักลงทุนทั้งไทย และเทศต่างศึกษาเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะให้ผลตอบแทนค่อนข้างคุ้ม ดังนั้นการสร้างคอนโดมิเนียมเพื่อมารับตลาดนี้โดยเฉพาะ ก็คงเป็นอีกโอกาสธุรกิจ แต่ก็ยังมีความเสี่ยง เพราะหาก Location ไม่ดีพอ ก็คงไม่มีใครซื้อเพื่อปล่อยเช่าแน่ๆ
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา