การตัดสินใจลงทุนในธุรกิจอะไรสักอย่างจำเป็นต้องมีการศึกษาข้อมูล ปัจจัยต่างๆ รวมถึงตัวเลขที่ช่วยให้เห็นภาพมากขึ้นก่อนตัดสินใจ หนึ่งในนั้นก็คือ NPV นั่นเอง
NPV คืออะไร
NPV หรือ Net Present Value หรือที่เราเรียกกันว่ามูลค่าปัจจุบันสุทธิ เป็นตัวเลขที่แสดงถึงผลตอบแทนที่คาดว่าเราจะได้จากการลงทุน หาก NPV มีค่าเป็นบวกเท่ากับว่าสิ่งที่เรากำลังจะลงทุนนั้นคุ้มค่าน่าลงทุน แต่หากผลออกมาเป็นลบแปลว่าผลตอบแทนน้อยกว่าเงินลงทุน หรือ ผลตอบแทนน้อยความที่คาดหวังไว้
สำหรับสูตรการคำนวณหา NPV สามารถใช้สูตรดังนี้
NPV = CF0+(CF1/(1+r)^1)+(CF2/(1+r)^2)+(CF3/(1+r)^3)+....(CFn/(1+r)^n)
- CF0 = เงินลงทุนในปีแรก
- CF1 = กระแสเงินสดเมื่อจบปีที่ 1
- CF2 = กระแสเงินสดเมื่อจบปีที่ 2
- CF3 = กระแสเงินสดเมื่อจบปีที่ 3
- CFn = กระแสเงินสดเมื่อจบปีที่ n
- r = อัตราคิดลด, ดอกเบี้ยเงินกู้, ต้นทุนค่าเสียโอกาส
ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ตามจำนวนปี หากต้องการคำนวณว่า 5 ปีข้างหน้า NPV จะเป็นเท่าไหร่ ก็ให้แทนค่า CF ไปจนถึงปีที่ 5
ตัวอย่าง
สมมติเราต้องการเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวที่ลงทุนเรื่องอุปกรณ์ไปแล้ว 100,000 บาท กระแสเงินสดเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 200,000 บาท คาดหวังว่าจะได้ผลตอบแทน 10% ต่อปีไปอีก 3 ปี เมื่อแทนค่าในสูตรข้างบน จะได้ค่าออกมาดังนี้
NPV = -100,000 + (200,000/(1+10%)) + (200,000/(1+10%)^2) + (200,000/(1+10%)^3)
NPV = -100,000 + 200,000/(1.1) + 200,000/(1.21) + 200,000/(1.331)
NPV = 397,370.39
ค่าที่ออกมาเป็นบวก ดังนั้นเหมาะสำหรับการลงทุนมากๆ ซึ่งการดูค่า NPV มักจะใช้ควบคู่กับ IRR หากค่า IRR นั้นอยู่ในเกณท์บวกเหมือนกับ NPV และมีค่าสูง แปลว่าการลงทุนนี้ถือว่าน่าลงทุนมาก
Source: longtunman.com, myaccount-cloud.com,HoonThai.co, terrabkk.com
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา