Glassiq (กลาสสิค) สตาร์ทอัพแว่นตาเจ้าแรกของไทย ภายใต้ บริษัท วิชั่น เวนเจอร์ส จำกัด (Vision Ventures) ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเกี่ยวกับสายตาตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เปิดตัวแฟล็กชิพสโตร์ครั้งแรก Glassiq @Emsphere เน้นจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ด้วยแว่นตาที่เข้าถึงง่าย ราคาเป็นกันเองเริ่มต้น 1,990 บาท เตรียมขยายสาขาเพิ่มอีก 2 แห่ง และปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อกลับมาขายช่องทางออนไลน์ในปี 2024
พิริยะ ตันตราธิวุฒิ ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์แว่นตา Glassiq และ CMO บริษัท วิชั่น เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า Glassiq ก่อตั้งเมื่อปี 2016 โดยวางจำหน่ายรูปแบบออนไลน์อย่างครบวงจร ด้วยคอนเซปต์จากการเห็น pain point การจำหน่ายแว่นตาแบบเดิมที่มีราคาสูงและขั้นตอนที่มากมาย จึงต้องการทำร้านแว่นที่เน้นความสะดวก สบาย ทันสมัย และเป็นมิตร ถัดมาในปี 2022 Glassiq ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท วิชั่น เวนเจอร์ส จำกัด และได้ทำการรีแบรนด์ใหม่ภายใต้ชื่อ Glassiq ที่เดิมใช้ชื่อว่า Glazziq เพื่อให้จดจำง่ายพร้อมเปลี่ยนโลโก้ใหม่ให้ทันสมัยขึ้น โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม 2023 พร้อมแฟล็กชิพสโตร์ครั้งแรก Glassiq @Emsphere
สำหรับ Glassiq เน้นจับกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุ 20-40 ปี โดยมีจุดเด่น 4 ด้าน
1. สินค้าคุณภาพไม่แพ้แบรนด์ในราคาที่เข้าถึงได้ แว่นตาของ Glassiq มีดีไซน์ที่สวย คุณภาพดี ตอบโจทย์คนไทยเพราะทีมงาน Glassiq ออกแบบเอง และผลิตกับโรงงานในประเทศเกาหลีใต้ที่เชี่ยวชาญด้านการใช้วัสดุคุณภาพและกระบวนการผลิตแว่นตา ทำให้ได้ราคาที่สมเหตุสมผล โดยมีพันธมิตรกับ Thai Optical Group หนึ่งในผู้ผลิตและส่งออกเลนส์รายใหญ่ชั้นนำของโลก ทำให้ได้เลนส์สายตาที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม โดยราคาสินค้า กรอบพร้อมเลนส์เริ่มต้น 1,990 บาท สำหรับเลนส์สายตาจะได้รับเลนส์ย่อบาง 1.6 หรือ 1.67 ฟรี หรือ สำหรับเลนส์ที่ไม่มีค่าสายตา สามารถเปลี่ยนเป็น เลนส์ย้อมสีแฟชั่น หรือ เลนส์กันแดดได้ และสำหรับเลนส์สายตา สามารถอัปเกรดเพิ่มได้ดังนี้ อัปเกรดกันแสงสีฟ้า +3,000 บาท อัปเกรด เปลี่ยนสีอัตโนมัติ +3,000 บาท กันแสงสีฟ้า และเปลี่ยนสีอัตโนมัติ +4,500 บาท (ลดจากราคา 6,000 บาท)
2. เน้นความเป็น Omni Channel ลูกค้าสามารถเลือกซื้อแว่นได้ง่ายผ่านทางเว็บไซต์เพื่อดูกรอบแว่นจากแคตตาล็อก ศึกษารายละเอียดของแว่นแต่ละรุ่นได้ตั้งแต่ที่บ้าน ซึ่งเว็บไซต์ออกแบบให้มีความเป็นไลฟ์สไตล์ ใช้ง่าย นอกจากนี้ ร้านของ Glassiq ยังใช้เทคโนโลยีใหม่สุด เช่น สายพานที่ช่วยส่งแว่นเข้าห้องฝนเลนส์อัตโนมัติได้รวดเร็ว เครื่องฝนเลนส์ที่มีความแม่นยำ และเครื่องวัดสายตารุ่นล่าสุดที่วัดได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน
3. บรรยากาศของร้าน Glassiq จะเป็นพื้นที่เปิด เดินเข้า–ออกได้สะดวก ช่วยให้ลูกค้าเดินเลือกชมสินค้า ดูข้อมูลสินค้าได้อย่างอิสระ ไม่กดดัน โดยที่ร้านจัดกิมมิก Eyewear Bar ที่นั่งคุยระหว่างลูกค้ากับพนักงานของ Glassiq ที่เปรียบเสมือนเพื่อนที่รู้ใจ ให้คำแนะนำเรื่องสายตา กรอบแว่น เลนส์ การเลือกแว่นที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และความต้องการที่ลูกค้ามองหาได้
4. การันตีการเทรนพนักงานจากสถาบันที่เชี่ยวชาญ ลูกค้าสามารถรอรับกรอบแว่นพร้อมเลนส์ที่หน้าร้านได้เลยภายใน 20 นาที หลังจากชำระเงิน (ยกเว้นกรณีที่ลูกค้ามีค่าสายตาซับซ้อน) โดยพนักงานของ Glassiq ทุกท่านได้ผ่านการเทรนจาก BVAX Academy (Better Vision Accuracy Expertise Academy) ที่เชี่ยวชาญในการวัดสายตา ตัด ประกอบ ปรับและดัดแว่นตา นอกจากนี้ยังมี การรับประกันสินค้า BVAX Warranty เปลี่ยนเลนส์ได้ฟรีภายใน 1 ปีหากใส่ไม่สบาย และบริการหลังการขายตลอดอายุการใช้งานมอบให้ด้วย
สำหรับช่องทางออนไลน์ Glassiq อยู่ระหว่างการพัฒนาเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับแนวทางการขยายธุรกิจแบบ Omin-channel คาดว่าจะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้ รวมถึงมีแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 2 แห่ง ที่สีลม และเซ็นทรัลนครสวรรค์ เพื่อทดลองตลาดต่างจังหวัด โดยตั้งเป้ายอดขายมากกว่า 10,000 ตัวภายใน 2024
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา