เศรษฐกิจรัสเซียค่อยๆ ย่ำแย่ลงหลังจากบุกโจมตียูเครน เป็นไปได้ว่าอนาคตรัสเซียอาจล่มสลายเหมือนช่วงสงครามเย็น
เรื่องนี้ Vladislav Inozemtsev ที่ปรึกษาพิเศษของ Middle East Media Research Institute เขียนบทความวิเคราะห์เผยแพร่ใน French journal Politique étrangère เขาชี้ให้เห็นสัญญาณที่บ่งชี้ชัดเจนว่าเศรษฐกิจรัสเซียกำลังอ่อนแอ
เขามองว่าประเด็นปัญหา 3 เรื่องหลักที่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของรัสเซียก็คือ อุตสาหกรรม ประชากร และทุน
ในด้านอุตสาหกรรมนั้น เราจะเห็นว่าเศรษฐกิจรัสเซียค่อยๆ อ่อนแอลง ที่เห็นได้ชัดเจนคือบริษัทจากชาติตะวันตกค่อยๆ ทยอยไหลออกจากประเทศและไม่มีใจจะทำธุรกิจในประเทศเจ้าสงครามนี้อีกต่อไป ขณะเดียวกัน เครื่องจักรที่หลงเหลืออยู่ในประเทศก็กำลังหมดสภาพการใช้งานแล้ว มีเวลาใช้งานอีกเพียง 3-5 ปีเท่านั้น
นอกจากนี้ ช่องโหว่ที่ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจรัสเซียอย่างมากก็คือ ภาคยานยนต์ของรัสเซียที่มียอดขายย่ำแย่อย่างมากในช่วงสงครามเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน รัสเซียก็ต้องหันไปพึ่งพาจีนมากขึ้น ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อจะจัดหาสินค้าประเภทเทคโนโลยีระดับสูงมากขึ้น เพราะประเทศอื่นๆ ในโลกก็ไม่ได้มีความเต็มใจที่จะทำการค้ากับประเทศที่ก่อสงครามนัก ด้วยเหตุนี้รัสเซียจึงจำเป็นต้องพึ่งพาจีนอย่างสมบูรณ์แบบชนิดที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย จีนกลายเป็นหุ้นส่วนทางการค้าหลักที่จำเป็นต้องพึ่งพา
นอกจากเศรษฐกิจที่ร่อแร่เต็มทีแล้ว ยังไม่มีแนวโน้มจะเห็นพัฒนาการที่สดใสขึ้นในเร็ววันด้วย ประเด็นที่แย่ตามๆ กันมาต่อจากเศรษฐกิจก็คือเรื่องประชากร
จำนวนประชากรของรัสเซียก็ลดลงต่อเนื่อง อันที่จริงก็ลดลงมาตั้งแต่ก่อนสงครามจะเกิดแล้วและไม่มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นมากนัก ผู้คนต่างก็หาทางหลบหนีออกจากภัยคุกคามที่มาจากสงครามและภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำด้วย ซึ่งจำนวนประชากรของรัสเซียนั้นลดต่ำลงเกือบ 3 ล้านคนจากปี 2017-2022
จำนวนประชากรที่ลดลงนี้สร้างปัญหาให้กับเศรษฐกิจรัสเซียอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงก่อสงครามที่ทำให้ในที่สุดรัสเซียก็ขาดแคลนแรงงาน เมื่อทรัพยากรที่เป็นทุนมนุษย์ลดลง ต้นทุนที่รัสเซียต้องแบกรับถ้าเทียบได้ ถือว่าเป็นการสูญเสียทางการเงินมากกว่าในช่วงที่เกิดสงครามในปัจจุบันเสียอีก
เศรษฐกิจก็แย่ ประชากรก็ลดลง เงินทุนก็ร่อยหรอตามไปด้วย
การก่อสงคราม ทำให้รัสเซียต้องแบกรับความสูญเสียจากงบประมาณด้านความมั่นคงอย่างมาก การทำให้ประเทศต้องตกอยู่ในสถานะที่ถูกริบหรือยึดทรัพย์สิน ส่งผลให้ผู้ประกอบการหรือนักธุรกิจชาวรัสเซียถูกจับตามองเรื่องทรัพย์สินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขณะเดียวกัน นักธุรกิจเหล่านี้ก็อาจตกเป็นเป้าไม่จงรักภักดีต่อประเทศมากพอ จึงทำให้เป็นไปได้ว่าอาจมีการแจกจ่ายเงินทุนในไม่อีกกี่ปีข้างหน้านี้
ทั้งหมดที่ว่ามานี้ ถือว่ารัสเซียกำลังประสบภาวะยากลำบากทางเศรษฐกิจ โดย Imnozemtsev ประเมินว่า GDP ของรัสเซียน่าจะจบลงอยู่ที่ 10%-15% ขณะเดียวกัน จำนวนประชากรอาจจะลดลงอีกมากถึง 6 ล้านเศษ และเงินรูเบิลน่าจะอ่อนค่าลงมาอีกราว 50%
ที่มา – Business Insider
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา