True ส่ง True ID มาสู้ในศึกแย่งชิงลูกค้าครึ่งปีหลังนี้ ด้วยการจัดคอนเทนต์ระดับ HD มาให้อยู่ในโปรโมชั่นราคาเริ่มต้นที่ 699 บาท พร้อมทั้งย้ำว่า นอกจากจะแข่งกับผู้ให้บริการรายอื่นแล้ว ยังต้องการสู้กับของเถื่อนผิดกฎหมายไร้คุณภาพในตลาดด้วย
สมัยนี้เขาแย่งลูกค้ากันด้วย Content ไม่ใช่การหั่นราคาอีกต่อไปแล้ว
ในศึกชิงลูกค้าของบริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่ดุเดือด True ลงสนามรอบนี้ด้วยการรวบทุกคอนเทนต์ในแอพพลิเคชั่นเดียวคือ “True ID” ด้วยคอนเซ็ปต์ “Your Extra-Tainment” มากับแพ็กเกจใหม่ 4G+ FUN unlimited ราคาเริ่มต้น 699 บาท รับสิทธิ์ใช้บริการ True Premium HD ทั้งชมกีฬา ดูหนัง ทีวี ฟังเพลง ฟรีนาน 12 เดือน หรือจะเปิดซิม Super Fun ที่เป็นแบบเติมเงินก็ได้
เจริญ ลิ่มกังวาฬมงคล หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่ม ด้านการพาณิชย์ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น บอกว่า “True มีถนนโครงข่ายที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อย่างเรื่อง 4G เราก็ทำรายแรกในไทยตั้งแต่ปี 2556 จนมาถึงปี 2558 เรามีโครงข่าย 4G ที่ครอบคลุมไปมากกว่า 80% ของประชากร และในปี 2559 ครอบคลุมกว่า 98% ของประชากร”
ด้วยเครือข่ายที่มั่นใจว่าแข็งแกร่ง ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปมาก กว่า 92% ของผู้ใช้งานดูวิดีโอ และ 47% ดูผ่านมือถือสมาร์ทโฟน True จึงต้องการทำให้ลูกค้าได้รับคอนเทนต์คุณภาพ HD
โปรโมชั่นที่ส่งมาคือ 4G+ FUN unlimited ที่ราคาเริ่มต้น 699 บาท ลูกค้า True ใช้งานได้ 12 เดือน ส่วนต่างค่ายก็ใช้ได้ แต่ฟรีแค่ 1 เดือนเท่านั้น ผู้บริหาร True ถึงกับบอกว่า “ต้องการให้ลูกค้าได้ดูคอนเทนต์ที่มีคุณภาพและหลากหลา ไม่ว่าจะเป็นหนังดังจากฮอลลีวูด บล็อกบัสเตอร์ ซีรีส์เรื่องดัง และรายการทีวี กว่า 3,000 เรื่อง หรือเพลงดังจากค่ายเพลงชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ คุณภาพ HD Sound รวมไปถึงรายการทีวีช่องคุณภาพจากทรูวิชั่นส์ฟรีทีวี เคเบิลทีวี และช่องอื่นๆ กว่า 87 ช่อง แถมยังมีกีฬาฮิตจากทุกมุมโลกทั้งบอลไทยบอลนอก อาทิ English Premier League , Thai Premier League ไม่พลาดทุกบิ๊กแมตช์ รวม 7 ลีก 5 ถ้วย มันส์ ชัดระดับ HD พร้อมกีฬาฮิตอีกมากมาย”
เน้นสู้ของเถื่อน True พยายามทำให้คอนเทนต์ HD จับต้องได้ทุกชนชั้น
สรรเสริญ สมัยสุต กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรู ดิจิตอล แอนด์ มีเดีย แพลตฟอร์ม จำกัด ระบุว่า “ความตั้งใจของ True ที่ส่ง True ID มารอบนี้คือควาต้องการปฏิวัติวงการดิจิทัลให้ขาวสะอาด ต้องการให้คนไทยทุกระดับได้ดูคอนเทนต์ดีๆ ไม่ใช่แค่ลูกค้าระดับ Medium-high เท่านั้นที่จะได้สิทธิ์จริงนี้ เพราะถ้าเราทำให้ของถูกลิขสิทธิ์เข้าถึงยาก ของเถื่อน ของผิดกฎหมายก็เป็นช่องทางที่ทุกคนจะเลือกใช้ เพราะฉะนั้น True ID จะรวบรวมคอนเทนต์ระดับโลกมาไว้ที่เดียว ไม่ต้องไปที่อื่นเลย แอพพลิเคชั่นเดียวจบ”
ส่วนการซื้อคอนเทนต์ทุกประเภทนั้น True เผยว่า ใช้เงินระดับพันล้านบาท (แต่ไม่เปิดเผยตัวเลขที่แท้จริง) และตั้งเป้าเอาไว้ว่าในปีนี้จะทำยอดดาวน์โหลดให้ไปถึง 14 ล้านในทุกแพลตฟอร์ม แม้ตอนนี้จะมีฐานลูกค้าอยู่กว่า 25.8 ล้านทั่วประเทศ แต่ต้องเพิ่มยอดผู้ใช้งานขึ้นไปอีก แต่ก็มองว่าในครึ่งปีหลังไม่น่าจะมีปัจจัยอะไรที่ทำให้ตลาดนี้หวือหวามากนัก
การซื้อคอนเทนต์ในระดับหลักพันล้านแบบนี้ True จึงคิดว่าจะขยายออกไปยังตลาดภายในภูมิภาคนี้ โดยขอเวลาอีกสัก 5 ปี แต่ดูแล้วพฤติกรรมผู้บริโภคในแถบนี้ใกล้เคียงกัน จึงไม่น่าจะเป็นเรื่องยากมากนัก
สรุป
เป็นอีกก้าวหนึ่งของ True ที่ส่ง True ID ออกมาสู้ในศึกคอนเทนต์ เป็นความต้องการแข่งกับรายอื่นๆ ด้วยการเสริมคอนเทนต์เข้าไปกับโปรโมชั่นที่ใช้งาน แต่นอกจากจุดเด่นของการใช้ HD มาเป็นตัวชูโรงแล้ว True ยังบอกว่าด้วยว่าทั้งหมดเป็นการซื้อลิขสิทธิ์ หมดไปเป็นพันล้าน ย่อมต้องสู้กับรายอื่นที่ใช้วิธีการบริหารแบบพาร์ทเนอร์อย่างแน่นอน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา